“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ลากไส้แอมเนสตี้ บ่างช่างยุ รับใช้นักล่าอาณานิคม ล่ารายชื่อไล่ วันเดียวยอดพุ่งหลักแสน!?

1657

หลังจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารสีลมคอมเพล็กซ์ กลุ่มปกป้องสถาบัน ได้มารวมตัวกัน เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ เชิดสิงโต “ขับไล่ แอมเนสตี้” ขอคนละ 1 เสียง ไล่ให้พ้นจากไทย กิจกรรมนี้ นำโดย น.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเจน เพจ”เชียร์ลุง” เเละ กลุ่มปกป้องสถาบันและเครือข่าย

โดยก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าว เคยยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Amnesty International Thailand ) ที่มีพฤติกรรมการกระทำเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และสถาบันพระมหากษัตริย์

ทั้งนี้ระหว่างการเดินขบวน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนเรียกร้องให้ “แอมเนสตี้” ออกไปจากประเทศไทย พวกเราไม่ต้องการ “แอมเนสตี้” , “แอมเนสตี้” ไม่มีประโยชน์กับประเทศไทย เป็นองค์กร มหันตภัยที่ทำลายประเทศชาติ จากนั้นขบวนเดินมาถึงด้านกรุงเทพ จากนั้นเข้าไปในซอยละลายทรัพย์เพื่อนำใบปลิวคิวอาร์โค้ด ให้พ่อค้าแม่ค้า ร่วมลงชื่อขับไล่องค์กรค์ แอมเนสตี้ ก่อนที่จะเเยกย้ายกันหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม

และในเพจเฟซบุ๊ก เชียร์ลุง ได้อัพเดทยอดล่ารายชื่อ หลังจากเดินขบวนวันแรก ระบุว่า “ขออนุญาตจัดกิจกรรม เรียบร้อยค่ะ‼️ ขอโชว์หนังสือขออนุญาต จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ล่ารายชื่อ ไล่แอมเนสตี้วันนี้นะคะ ยอด ณ นาว พุ่งมาที่ 136,xxxแล้วค่ะ กรี๊ดกร๊าดกันมาก”

ล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart มีเนื้อหาดังนี้… Amnesty get out ใครจะมองแอมเนสตี้อย่างไร แต่สถานะของแอมเนสตี้ในไทยสั่นคลอน หมดความน่าเชื่อถือแล้ว วันนี้คนไทยเดินหน้าล่าชื่อให้ครบล้านเพื่อไล่แอมเนสตี้ออกไปจากไทย ไม่นานเกินรอ ครบล้านแน่นอน แอมเนสตี้ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ แยกทำลายความรัก ความสามัคคีของคนในประเทศ

แอมเนสตี้ทำตัวรับใช้จักรวรรดิ์นิยมนักล่าอาณานิคมสมัยใหม่ แยกสลายประเทศอื่น เพื่อให้ตะวันตกตักตวงผลประโยชน์จากซีกโลกอื่น ปัญหาสิทธิมนุษยชนในตะวันตกไม่เคยได้รับการแทรกแซงหรือก้าวก่ายจากแอมเนสตี้ เพราะอะไรหรือทำไม ผู้ลี้ภัยอยากเข้ายุโรป ทำไมตะวันตกไม่เปิดประตูต้อนรับ ทำไมถึงบีบบังคับประเทศอื่นให้อ้าแขนรับ แต่แอมเนสตี้ปิดปากเงียบ เพราะรับเงินจากนายทุนตะวันตก จึงไม่กล้าด่านายทุนของตนเอง

นี่คือสองมาตรฐานชัดเจน แอมเนสตี้ทำตัวเป็นวัสสการพราหมณ์ที่คอยยุงแยงตะแคงรั่วให้คนในชาติแตกความสามัคคี เอ็นจีโอที่รับเงินต่างชาติจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ใครจะไปยอมทนนั่งดูเฉยๆ ให้ใช้เสรีภาพในการบ่อนทำลายเสาหลักของประเทศ บ่อนทำลายความมั่นคง จะปล่อยเอาไว้ทำไม แอมเนสตี้ออกไป