สหรัฐแอบใช้ประชาชนเป็นหนูทดลองอาวุธชีวภาพหลายครั้ง?!?ถูกเปิดโปงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเงียบหาย อ้างเป็นการวิจัย

1674

แนวคิดเรื่องการใช้อาวุธเชื้อโรคทำสงครามทำลายล้างศัตรู ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์หวาดกลัวกันอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธชีวภาพ แต่มันก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้น บรรดาอาวุธชีวภาพที่แต่ละประเทศได้ทำการทดลองอยู่นั้น จะถูกงัดมาใช้เป็นไม้เด็ด เพื่อโจมตีประเทศคู่อริ ก็มีความเป็นไปได้สูง

วันที่ 8 ก.ค.2564 สำนักข่าวอาร์ที ได้รายงานเกี่ยวกับบทบาทของ Military Intelligence Industrial Complex ของสหรัฐฯกับคำถามคาใจว่าองค์กรนี้เป็นอาชญากรหรือไม่ ไม่ใช่กระทำต่อต่างประเทศ แต่กระทำกับพลเมืองของสหรัฐอเมริกาเองด้วย องค์กรนี้ได้ทำการทดลองหลายร้อยครั้ง กับชาวอเมริกันที่ไว้วางใจรัฐฯของตัวเองและไม่สงสัยไม่รู้ตัว แต่องค์กรที่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำนั้นยังคงมีอยู่ และสนุกกับงบประมาณหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ไม่มีใครเข้าคุกเพราะการกระทำที่ชั่วร้ายเหล่านี้ เพราะเมื่อคุณหรือฉันทำ มันเรียกว่า “อาชญากรรมร้ายแรง” แต่เมื่อรัฐบาลทำสิ่งนี้เรียกว่า “การวิจัย” 

มาดูการพ่นหมอกควันของ(SF:Safety Factor) การโจมตีของจุลินทรีย์บนรถไฟใต้ดินของนิวยอร์ก (NYC:Newyork City) และความอันตรายอื่นๆ ที่ CIA และกองทัพสหรัฐฯ ก่อขึ้นในอดีตไม่นานมานี้

บทความต่อไปนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกโดยScheerPost

ฝ่ายบริหารของไบเดน สื่อกระแสหลัก และนักการเมืองเกือบทุกคนในสหรัฐยังคงโหมไฟความเกลียดชังต่อต้านจีนแบบที่เรียกว่าโรคซิโนโฟเบีย(Sinophobia)ในขั้นต้น โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เจ้าของรีสอร์ทดังที่หรูหรา มาร์อะลาโก (Mar-a-Lago)

ระหว่างการบริหารของทรัมป์ ทฤษฎีแล็บรั่วของหวู่ฮั่นถูกเรียกว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่ไร้สาระซึ่งออกมาจากความคิดที่เหยียดผิวของทรัมป์ เป็นเท็คนิควิธีใหม่ในการเหยียดเชื้อชาติ ปีที่แล้ว ทฤษฎีการรั่วไหลของห้องทดลองเหยียดผิวของทรัมป์ถูกทั้งพรรคเดโมแครตและสื่อกระแสหลักส่วนใหญ่โยนทิ้งไป แต่ในตอนนี้การสมคบคิดแบบบ้าคลั่ง สามารถเป็นประโยชน์สำหรับสำนวนโวหารต่อต้านจีนของปธน.โจ ไบเดนแห่งพรรคเดโมแครต และสื่อก็คิดว่ามันเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่ยอดเยี่ยมเด้งรับโหมกระพือข้อมูลที่ไร้หลักฐานนี้อย่างเมามัน

-ดูการพาดหัวข่าวของ CNN เมื่อเร็ว ๆ นี้: “ความน่าเชื่อถือใหม่ของทฤษฎีแล็บรั่วมีความหมายอย่างไรสำหรับโซเชียลมีเดีย! ” 

-พาดหัวข่าวของ CNBC : “ไบเดนสั่งให้มีการทบทวนต้นกำเนิดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิดเนื่องจาก หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯชั่งน้ำหนักทฤษฎีแล็บรั่วของหวู่ฮั่น เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน” 

-Yahoo News เตือนเราอย่างเงียบๆว่า : “ยังไม่มีหลักฐานว่าแล็บของจีนรั่ว ”

แต่ส่วนใหญ่ต้องไปที่แหล่งข่าวอิสระเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม 

-แดนนี ไฮฟอง(Danny Haiphong) จากสำนักข่าวBlack Agenda Report : “ คล้ายกับ การกล่าวหาทุกเรื่องโยนให้รัสเซียอย่างสำนวนที่เรียกว่า รัสเซียเกต(Russiagate) 

หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ดำเนินไปพร้อมกับการเล่าเรื่องที่ไม่มีแหล่งที่มาโดยสิ้นเชิง ซึ่งสะดวกต่อการตำหนิประเทศอื่นในเรื่องปัญหาภายในประเทศและติดป้ายว่าประเทศนั้นเป็นภัย ‘ความมั่นคงของชาติ’ … การสมรู้ร่วมคิดที่รั่วไหลในห้องปฏิบัติการคือ การดำเนินการทางจิตวิทยาที่มีประสิทธิภาพเพราะเป็นการยากที่จะจินตนาการถึงหลักฐานที่อาจหักล้างหรือพิสูจน์ข้อเรียกร้องได้ 

แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เคยได้ยินจากสื่อกระแสหลักอย่างแน่นอน เรื่องราวทั้งหมดถูกคนอเมริกันส่วนใหญ่หลงลืมประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นไปอย่างรวดเร็วว่าคนอเมริกันถูกใช้เป็นหนูทดลองโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซะเอง ตัวอย่างเช่น

1.การทดสอบจุลินทรีย์ในซานฟรานซิสโก

รายงานของBusiness Insiderเมื่อวันที่ 20 กันยายน 1950 เรือรบลำหนึ่งของกองทัพสหรัฐ ที่อยู่นอกชายฝั่งของเมืองซานฟรานซิสโก ได้ทำการใช้ท่อขนาดใหญ่สูบเอาเชื้อจุลินทรีย์จำนวนมากพ่นขึ้นสู่อากาศ ทำให้เกิดหมอกหนาปกคลุมไปทั่ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพกับเมืองขนาดใหญ่

ซึ่งชาวเมืองกว่า 800,000 คน ได้สัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย Serratia Marcescens และ Bacillus Globigii ถึงแม้มันจะไม่ใช่เชื้อที่รุนแรง แต่การทดสอบกินเวลาต่อเนื่องราว 7 วัน และปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตจากการทดลองครั้งนี้ 1 คน

  1. การปรับเปลี่ยนการทำงานของสมองโดย CIA

เอ็มเคอัลตร้า(MKUltra) คือโปรเจคการทดลองของ CIA ที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 1953-1973 โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาอาวุธชีวภาพ ซึ่งอาสาสมัครที่ไม่รู้ตัวมาก่อน จะถูกทดลองด้วยยาเสพติดหลายประเภท โดยเฉพาะพวกหลอนประสาทอย่าง LSD เพื่อทดสอบการเปลี่ยนแปลงการทำงานสมอง และการทำลายสมรรถภาพทางจิต นอกจากนั้น พวกเขายังใช้วิธีอยางการสะกดจิต การขังเดี่ยว และการทรมาน สุดท้ายการทดลองนี้มีแต่สร้างความเสื่อมเสียให้กับ CIA จนถูกปิดไปในที่สุด

  1. ปฏิบัติการฝนแบคทีเรีย

ปฏิบัติการที่เรียกว่า Large Area Coverage (LAC) คือการทดลองของกองทัพบกสหรัฐ บริเวณพรมแดนแคนาดา โดยการใช้เครื่องบินแบบ Flying Boxcar พ่นสารเคมี ที่เป็นส่วนผสมของ Zinc Cadmium Sulfide (ZnCdS) จุดประสงค์ของการทดสอบครั้งนี้ เพื่อดูการแพร่กระจายของมัน ว่าสามารถปกคลุมทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาได้เร็วแค่ไหน โดยทางกองทัพได้โกหกประชาชนว่า มันเป็นการทดสอบความเร็วในการกำจัดควันระหว่างการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์

  1. การแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียในหลอดไฟ

ในปี 1975 นักวิจัยของกองทัพ ได้ทดลองการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียผ่านระบบโดยสารรถไฟใต้ดิน โดยพวกเขาใช้หลอดไฟที่เต็มไปด้วยชื้อแบคทีเรียขว้างลงบนทางรถไฟที่เตรียมจะออกเดินทาง และด้วยความเร็วของรถไฟที่วิ่งผ่าน ได้พัดพาเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นแพร่กระจายไปในอากาศจนออกไปทั่วเมือง ซึ่งผลจากการทดลองนี้สรุปได้ว่า หลอดไฟที่ถูกขว้างบริเวณถนนสายที่ 14 สามารถสร้างแบคทีเรียที่กระจายไปไกลจนถึงถนนสายที่ 58 ได้

  1. การทดสอบเชื้อราในกลุ่มคนงาน

บางทีนี่อาจเป็นการทดลองที่เกิดความขัดแย้งมากที่สุดในอเมริกา โดยมันเกิดที่กรมพลาธิการทหารเรือนอร์ทฟอล์ค เมื่อลังที่ถูกบรรจุเชื้อราไว้เป็นอย่างดี ถูกทดสอบให้คนงานแกะมันออกมา และดูผลกระทบที่เกิดขึ้น คนงานส่วนที่เป็นชาวอเมริกัน-แอฟริกัน โชคร้ายต้องติดเชื้อราเหล่านี้ และผลงานทดสอบทำให้รู้ว่า เชื้อรา Aspergillus fumigatus ส่งผลกระทบต่อพวกเขา มากกว่าคนผิวขาวโดยทั่วไป

  1. การแพร่กระจายแบคทีเรียไอกรน ในฟลอริดา

ในปี 1955 โรคไอกรนได้แพร่ระบาดมากขึ้นเกือบ 3 เท่า และมีการสงสัยว่าจุดแพร่เชื้อน่าจะมาจากพื้นที่บริเวณเทมปา เบย์ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ ที่จำหน่ายในปี 1979 ระบุว่า มี CIA อย่างน้อย 1 คนที่อนุมัติการทดสอบอาวุธชีวภาพนี้พื้นที่และช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่ามีรายงานกรณีไอกรนเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 เคส แต่มีรายงานการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการเพียงแค่ 12 คนเท่านั้น

แต่การทดลองเหล่านั้นไม่ได้หมายความถึงจุดสิ้นสุดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น “ ในอีก 20 ปีข้างหน้า กองทัพจะทำการทดสอบ ‘สงครามเชื้อโรค’ 239 ครั้งในพื้นที่ที่มีประชากร ตามรายงานข่าวจากปี 1970 – หลังจากที่มีการเปิดเผยการทดสอบลับ – ใน New York Times, Washington Post, Associated Press, และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ตลอดจนมีรายละเอียดในคำให้การของรัฐสภาตั้งแต่ปี 1970”

ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง รัฐบาลสหรัฐฯอธิบายว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการยับยั้งการใช้อาวุธชีวภาพและเตรียมพร้อมสำหรับประชาชนอเมริกัน เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องการที่จะยับยั้งอาวุธชีวภาพโจมตีชาวอเมริกันโดยการใช้อาวุธชีวภาพกับชาวอเมริกันซะเอง แบบนี้จะเรียกว่าอาชญากรรมได้หรือไม่?