“ต่าย ชุติมา” อดีตเมียพิธา ถาม ทำไมไทยไม่เข้าร่วม Covax ยอมจ่ายเงินเพิ่มโดสละร้อยกว่าบาท ลั่น เก็บเงินค่าวัคซีนแยกกับภาษีก็ได้!?! 

2666

“ต่าย ชุติมา” อดีตเมียพิธา ถาม ทำไมไทยไม่เข้าร่วม Covax ยอมจ่ายเงินเพิ่มโดสละร้อยกว่าบาท ลั่น เก็บเงินค่าวัคซีนแยกกับภาษีก็ได้!?!

จากกรณีที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ถึงกรณีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทางรัฐบาลนำมาฉีดให้กับประชาชน โดยมีวัคซีนของ 2 บริษัท คือ แอสตราเซเนกา และซิโนแวค ซึ่งทำให้หลายคนโดยเฉพาะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลได้ออกมาตั้งคำถามว่า เหตุใดรัฐบาลถึงไม่นำวัคซีนของบริษัทอื่นๆ มาฉีดให้ประชาชน และโจมตีวัคซีนทั้ง 2 บริษัทว่า ประสิทธิภาพต่ำ และมีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนไม่กล้าไปฉีด

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม 2564) ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ นักแสดงสาว อดีตภรรยานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับกรณีวัคซีนของผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมรายหนึ่งลงบนไอจีสตอรี่ @tye.chutima พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมไทยเราถึงไม่เข้าร่วม covax เพราะจ่ายค่าวัคซีนเพิ่มเพียงโดสละ 109 บาท ก็จะได้วัคซีนที่ดี

โดยข้อความที่ต่าย ชุติมาแชร์มานั้น มีเนื้อหาว่า “ซีอีโอ Pfizer ประกาศในการประชุมสุขภาพโลกว่าด้วยความไม่เท่าเทียมกันในการกระจายวัคซีนผ่านวิดีโอว่า Pfizer-BioNtech ซึ่งเป็นบริษัทร่วมจากสหรัฐและเยอรมนีจะบริจาควัคซีน โควิด ให้ประเทศรายได้ปานกลางและประเทศยากจน 2,000 ล้านโดส เพื่อลดช่องว่างของวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน วัคซีน 1,000 ล้านโดสแรกของ Pfizer-BioNtech จะส่งมอบภายในปีนี้ และอีก 1,000 ล้านโดสที่เหลือจะส่งมอบในปี 2022
ส่วนประเทศไทยไม่ได้เข้าร่วม covax โดยเหตุผลที่ทางเราไม่เข้าร่วมเพระาเราเป็นประเทศรายได้ปานกลางต้องเสียเงินมากกว่าประเทศยากจน จ่ายเงินก่อน ราคาแพง เลือกวัคซีนไม่ได้ ต่อรองไม่ได้เลยไม่เอา (ซึ่งวัคซีนที่เข้าร่วมกับ covax ตอนแรกมี Aztrazeneca กับ Pfizer)”
ปล.อันที่จริงวัคซีนในโครงการนี้เลือกของผู้ผลิตได้นะเข้าคิดเงินเพิ่ม เพราะแบบไม่เลือกผู้ผลิต 1.6$/โดส ถ้าเลือกก็+เพิ่มไปอีก 3.5$/โดส หรือราว ๆ 109 บาท เท่านั้นเอง ปล.2 อาเซียนเข้าร่วมหมด ยกเว้นเรา”
และต่าย ชุติมา เขียนแสดงความคิดเห็นในตอนท้ายว่า “มาเก็บเงินค่าวัคซีนแยกกับภาษีก็ได้นะคะ CF no CC ค่ะ โอนไว!”
ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องการเข้าไม่เข้าร่วม Covax ของไทย ดร.วรัชญ์ ครุจิต ที่ปรึกษาด้านสื่อสารศบค. ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีของโครงการ Covax ว่า
“ถ้าไทยเข้าร่วมโครงการ COVAX ตอนนี้เราจะเป็นยังไง?
– ถ้าเราตัดสินใจจ่ายเงินจองเข้าร่วม COVAX เราคงไม่ได้จองกับทาง Astra-Zeneca ที่กำลังจะส่งมอบวัคซีนให้เรา 6 ล้านโดสในเดือน มิย. นี้ และเดือนละ 10 ล้านในเดือนต่อๆไป และก็จะไม่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ไม่ได้เป็นฐานการผลิตในประเทศเราเอง
– เราก็ต้องใจหายใจคว่ำ ว่าจะได้วัคซีนมาจากไหน เพราะสถาบัน Serum ที่อินเดีย ที่เป็นแหล่งผลิตวัคซีนครึ่งหนึ่งของ COVAX ประกาศแล้วว่าส่งไม่ทันตามกำหนดแน่นอน อย่างน้อยไปจนถึงสิ้นไปนี้ (แล้วเงินค่าจองจะได้คืนหรือเปล่า?)
– เราก็คงต้องรีบหาทางซื้อวัคซีนอื่น ซึ่งในขณะนี้ก็น่าจะเป็น Sinovac เพราะยี่ห้อของตะวันตกโดนจองไปหมดแล้ว กว่าจะได้ก็ปลายปีเหมือนกัน (ขนาดเกาหลีใต้จองไปตั้งแต่แรกแล้วยังโดนเท กำลังพยายามขอเจรจายืมวัคซีนจากอเมริกามาใช้ก่อน) คือเงินที่จองไปก็จม ถอนก็ไม่ได้เพราะต้องจองไว้ก่อน (เพราะไม่ได้ฟรี) แต่ก็ต้องแบ่งเงินไปซื้อยี่ห้ออื่นอีก
– และสมมติอินเดียส่งมอบได้ ก็คงจะเป็นวัคซีน AZ ที่เราจะผลิตในประเทศนี่แหละ เพราะเป็นวัคซีนหลักของโครงการนี้ และผลิตที่อินเดีย
– แต่กว่าจะส่งมอบได้ ก็คงได้มาแบบนิดๆหน่อยๆ หรือรั้งท้าย เพราะคงต้องไปช่วยประเทศยากจนที่กำลังระบาดหนักก่อน เช่นพวกประเทศในแอฟริกา
– ที่ผ่านมา หลายประเทศในอาเซียนก็ได้มาแบบกะปริบกะปรอย ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ในขณะที่ของไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ได้ช้าแต่อย่างใด (เพราะต้องต่อคิวหลังประเทศรวยๆที่จองตั้งแต่เริ่มวิจัยแล้ว) แต่พอเราเจอระลอก 2 ก็สั่ง Sinovac และ AZ บางส่วนเข้ามาเพื่อใช้ควบคุมสถานการณ์ เพื่อรอ AZ ในเดือน มิย. ที่จะถึงในอีกไม่กี่วัน ซึ่งถ้าระลอก 3 ไม่เกิดขึ้น ก็คงไม่ต้องใจร้อนกันขนาดนี้ และประกอบกับระลอกนี้มันเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ไม่ใช่เฉพาะไทย ก็เลยยังควบคุมได้ยากยิ่งขึ้น
– ซึ่งในเดือนต่อๆไป เราไม่ต้องกลัวว่าจะหาวัคซีนจากไหน เพราะเราจะมีวัคซีนผลิตเองได้เดือนละ 10 ล้านโดสไปจนสิ้นปี และปีต่อๆไปด้วย
– บางคนอาจจะถามว่า เราจองสองทางเลยไม่ได้เหรอ ทางหลักการก็อาจจะได้ แต่เท่ากับต้องจ่ายเงินสองต่อ ที่อาจจะได้วีคซีนเดียวกัน และหลังมิย. ก็จะกลายเป็นซ้ำซ้อนละ เราคงไม่ได้มีเงินเหลือขนาดนั้น สู้รอนิดนึงแต่เก็บเงินเอามาช่วยเยียวยาทางเศรษฐกิจดีกว่า ดีแล้วที่เราไม่แลกทางแก้ระยะสั้น (ซึ่งสุดท้ายก็มีปัญหา) มาแลกกับอนาคตระยะยาว
– สรุปว่า ถ้าเราเข้าร่วม COVAX เราคงไม่ได้แค่ “แทงม้าตัวเดียว” ที่ชื่อ COVAX แต่แถมเป็นม้าที่ “ยืมจมูกม้าตัวอื่นหายใจ” อีกด้วย นั่นคือโรงงานต่างๆที่ COVAX สั่งซื้อ ทำให้เราจะกำหนดชะตาชีวิตตัวเองไม่ได้เลยว่าเดือนหน้าชีวิตเราจะเป็นยังไง