จากที่พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยัน พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งและแข็งแกร่งไม่ได้ปั่นป่วนตามที่มีกระแสข่าวการโจมตี พรรคมีบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถครบทุกด้าน มีคนรุ่นใหม่ที่เก่งและฉลาด
ทั้งนี้นายพิชัย บอกว่ากระแสความสับสนน่าจะเกิดมาจากการสร้างกระแสของกลุ่มคนที่ออกจากพรรคไปแล้ว แต่พยายามสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้พรรคดูสั่นคลอน โดยอยากขอเตือนไปยังผู้ที่ออกจากพรรคไปและพยายามสร้างความปั่นป่วนให้กับพรรค ทั้งที่พรรคได้ให้โอกาส และเคยได้รับการสนับสนุนจากพรรคจึงไต่เต้าขึ้นมาได้ อย่าได้คิดอกตัญญูโดยการให้ร้ายพรรค เพราะจะสะท้อนภาพลักษณ์ที่แย่ไปหากลุ่มคนเหล่านั้นเอง
นายพิชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหาของพรรคเกิดจากภาวะผู้นำ และยุทธศาสตร์การบริหารที่ผ่านมาไม่สร้างความหวังให้กับประชาชน ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ตกต่ำอย่างสุดๆแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำตัวเองให้เป็นทางเลือกของประชาชนได้ พรรคจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น เพื่อให้เป็นความหวังของประชาชนได้ เชื่อว่าด้วยวิสัยทัศน์ที่พรรคได้แสดงออกหลังการเปลี่ยนแปลงการบริหารและจะยังจะมีนโยบายอีกหลายเรื่องตามมา ประชาชนจะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่
“อยากให้ยึดหลักศาสนาพุทธที่ต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณและต้องมี หิริโอตตัปปะ หรือการละอายและการเกรงกลัวต่อบาป อย่าปากพูดอย่าง แต่กลับมีการกระทำอีกอย่าง อย่าทำตัวเป็นก้อนหินถ่วงพรรค ออกไปแล้วก็ควรเอาเศษหินออกไปด้วย พรรคจะได้ขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยไม่มีอุปสรรค ถ้าหวังดีกับพรรคจริงก็ควรจะออกไปด้วยกันโดยดี จากกันด้วยดี อย่าคิดจะมาตกปลาในบ่อของพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างมาก
และขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการแตกสาขาไปพรรคอื่นแต่อย่างใด พรรคยังเป็นหนึ่งเดียวไม่มีสาขาและเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยหลักคิดและแนวทาง ประกอบกับประวัติศาสตร์ของพรรคที่พัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชนมาตลอด และมีนโยบายที่ประชาชนสามารถจับต้องได้ในอดีตจนถึงปัจจุบัน หากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยจะชนะอย่างถล่มทลายแน่นอน”
ก่อนหน้านี้นายพิชัย ได้แชร์บทวิเคราะห์การเมืองในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกอบจ.กระทบคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และได้แชร์บทวิเคราะห์ดังกล่าวไปยังกลุ่มไลน์ต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ทำให้มีสมาชิกพรรคบางคนตอบโต้และแสดงความเห็น อย่าซ้ำเติมกัน การโพสต์เช่นนี้เป็นการกระทำไม่สร้างสรรค์
ต่อมานายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย หนึ่งในคนสนิทคุณหญิงสุดรัตน์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ขอวิจารณ์การกระทำของนายพิชัย การนำเอาข่าวแบบนี้มาแชร์ มันแสดงออกถึงความคิดและนิสัยหลายๆอย่างในตัวนายพิชัย คือไม่มีสปิริต คุณหญิงสุดารัตน์ ตอนอยู่ในพรรคลงพื้นที่ให้พรรคมาตลอด ในสนามเลือกตั้งใหญ่ลุยไปทุกที่ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าพรรคได้ ส.ส.เขตเยอะ ตัวเองจะไม่ได้เข้าสภาฯ
“วันนี้ถึงจะออกจากพรรคก็ไม่เคยว่าพรรค และ ยังเป็นกำลังเสริมให้กับผู้สมัครอบจ.หลายจังหวัด ขอถามว่าคุณหญิงฯ ผิดอะไร คนเราในเมื่อทำงานด้วยกันไม่ได้ โดนบีบให้ต้องออกมาทั้งน้ำตาก็เป็นเรื่องของโลกแห่งความเป็นจริง แต่สิ่งที่มีเหลืออยู่ให้กันก็คืออุดมการณ์ ความเป็นมืออาชีพและสปิริตที่ต้องมีต่อคนในบ้านหลังเก่า คุณหญิงสุดารัตน์ ได้แสดงออกมาหมดแล้ว แต่ตนไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นในตัวนายพิชัยเลย”
สำหรับข่าวที่ นายพิชัย แชร์ระบุว่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ “เจ๊หน่อย” ไปอีสาน หาเสียงนายก อบจ. 4 สนาม ผลเพื่อไทยแพ้ราบคาบ ควันหลังจากการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา ยังมีเรื่องหนึ่งที่คอการเมืองในภาคอีสานโจษขานไม่จบสิ้น
โดยที่ร้อยเอ็ด ผลเลือกตั้งนายก อบจ. เอกภาพ พลซื่อ คะแนน ชนะมังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด กลุ่มร้อยเอ็ดเพื่อไทย , นครพนม ผลเลือกตั้งนายก อบจ. ศุภพานี โพธิ์สุ กลุ่มนครพนมร่วมใจ ชนะ สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม จากพรรคเพื่อไทย ส่วนที่หนองบัวลำภู ผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ. วุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ กลุ่มรักหนองบัว ชนะ วิชัย สามิตร พรรคเพื่อไทย และกาฬสินธุ์ ผลคะแนนนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ชานุวัฒน์ วรามิตร ชนะ เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล พรรคเพื่อไทย
นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่แพ้เลือกตั้งนายกอบจ.อย่างหนัก ทั้งที่แกนนำคนสำคัญที่เคยอยู่กับพรรคมานานหลายคนต่างทยอยลาออกไป ยิ่งตอกย้ำว่าพรรคมีความระส่ำ เสื่อมทรุด อาการโคม่า แม้ปากยังจะบอกสบายดี รวมทั้งยังเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่สอดคล้องกันอย่างน่าแปลกใจกับความแตกแยกของแกนนำเสื้อแดง ที่ยิ่งออกมาเปิดโปงกันเละเทะอีกด้วย!?!