ธาตุแท้ทุนนิยมครอบโลก ที่กลุ่มคลั่งประชาธิปไตยบูชา ครั้งแรกในรอบ 200 ปี กลุ่มประท้วงขวาจัดก่อจลาจล บุกสภาคองเกรส ทำวอชิงตันดีซีต้องประกาศเคอร์ฟิว ดับ1 เจ็บนับสิบ สว.และสส.เผ่นกระเจิง และขวางการประกาศยอมรับชัยชนะของไบเดนได้สำเร็จ อย่างน้อยก็ยื้อไประยะหนึ่ง ท่ามกลางวิกฤตระบาดโควิดกลายพันธ์ ที่วันนี้ถึงขั้นสาหัสแล้วแม้มีวัคซีน จับตา ไบเดนชี้เป็นการต่อต้านการปกครองและขอให้ทรัมป์แสดงความรับผิดชอบ เมื่อหลักฐานชัดเจนว่าใครนำก่อการ ทรัมป์จะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ศึกนี้คงไม่จบง่ายอย่ากะพริบตา
อาคารรัฐสภาสหรัฐถูกบุกรุกนับเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่อังกฤษบุกโจมตีและเผาอาคารรัฐสภาในเดือนสิงหาคม ปีค.ศ.1814 หรือเมื่อกว่า 200 ปีก่อน
เหตุจลาจลเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่สภาคองเกรสได้จัดการประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนับผลคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากคณะผู้เลือกตั้ง โดยรองปธน.ไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เป็นประธานการประชุมดังกล่าว และจะเป็นผู้ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ก่อนที่จะเข้าทำพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.2564 ทั้งนี้โจ ไบเดนได้รับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) 306 เสียงและทรัมป์ได้ 232 เสียง
หลักฐานชัด “ทรัมป์”ออกศึกนำเอง
ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศในวันปีใหม่ (1 ม.ค.) ว่าเขาจะจัด “ชุมนุมครั้งใหญ่” ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 6 มกราคม คัดค้านผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในวันเดียวกับที่สภาคองเกรสมีกำหนดรับรองผลมติคณะผู้เลือกตั้ง และไม่กี่วันก่อนที่ โจ ไบเดน ตัวแทนจากเดโมแครต จะเข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
ทรัมป์ ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา ระบุว่า การประท้วงคัดค้านผลเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 6 มกราคม เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการโกงเลือกตั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำให้ ไบเดน เป็นผู้ชนะไปทั้งคะแนนป็อปปูลาร์โหวต และคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง และทั้งหมดเป็นเพราะมีการโกงอย่างมโหฬาร
วันดีเดย์จลาจล-วิกฤตประชาธิไตยบ้าคลั่ง
วันที่ 6 มกราคม 2564 วันแห่งประวัติศาสตร์รอยร้าวของคนอเมริกัน ที่ปะทุเป็นการจลาจล ระเบิดอาการในวัน “ประชุมของสภาคองเกรส” เพื่อรับรองผลลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งที่ชี้ขาดว่า “โจ ไบเดน” ชนะการเลือกตั้ง แต่เกิดความวุ่นวายอลหม่านทำให้ต้องระงับการประชุมไว้ชั่วคราว พร้อมสั่งล็อกดาวน์อาคารรัฐสภาและลงเอยด้วย การบาดเจ็บล้มตายอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หลังสถานการณ์เริ่มบานปลายปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเรียกร้องให้ทุกคนที่อยู่ในอาคารรัฐสภาอยู่ในความสงบ อย่าใช้ความรุนแรง เคารพกฎหมายและเคารพเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั้งชายและหญิง ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมอพยพผู้คนออกจากอาคารสำนักงานต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาต้องใช้สเปรย์พริกไทย และใช้แก๊สน้ำตาจนเกิดเสียงดังและมีกลุ่มควันลอยคละคลุ้งบริเวณอาคารท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย
ช่วงเวลา 15.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อาวุธปืนขู่กลุ่มผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในตัวอาคารรัฐสภา มีผู้หญิงรายหนึ่งถูกยิงที่หน้าอกจนเสียชีวิตในพื้นที่อาคารรัฐสภา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล พบวัตถุระเบิดอย่างน้อย 2 ลูกบนพื้นของอาคาร ผู้ประท้วงรายหนึ่งขึ้นไปยืนบนเก้าอี้นั่งประธานวุฒิสภา และตะโกนว่า “ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้!”
นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐก็ต้องอพยพจากตัวอาคารเช่นกัน ขณะที่สส.บางคนสวมหน้ากากกันแก๊สพิษขณะอพยพออกจากตัวอาคารด้วย
ทางด้านวุฒิสมาชิกนายเจฟฟ์ เมอร์คลีย์ ได้ทวีตข้อความพร้อมกับโพสต์ภาพว่า “หีบบรรจุคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งได้ถูกนำออกมาจากห้องประชุมวุฒิสภาได้สำเร็จ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่รีบนำออกมา กลุ่มผู้ประท้วงก็อาจจะนำไปเผา”
เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมพื้นที่อาคารรัฐสภาเอาไว้ได้ในเวลา 17.40น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่นายมูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดีซี จะประกาศคำสั่งเคอร์ฟิว ในเวลา 18.00น.โดยให้มีผลจนถึง 06.00น. ของวันที่ 7 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดเพนตากอนสั่งหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิ 1,100 นายรักษาความสงบรอบอาคารรัฐสภา
‘ไบเดน’ ประณามเป็นการปลุกปั่นต่อต้านการการปกครอง
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์บุกรุกรัฐสภาสหรัฐฯ ในครั้งนี้ว่า “เข้าข่ายปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้านการปกครอง” และว่า “นี่ไม่ใช่การประท้วง แต่เป็นการก่อจลาจล” และได้ขอให้ประธานาธิบดีทรัมป์ “สั่งยุุติการปิดล้อม” รัฐสภาสหรัฐฯและแสดงความรับผิดชอบ
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ออกมาเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงหลังจากที่ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา โดยบอกให้ผู้สนับสนุนตน “กลับบ้าน” ทรัมป์เริ่มต้นวีดีโอด้วยการกล่าวว่า “ผมเข้าใจบาดแผลและความเจ็บปวดของพวกคุณดี” “แต่พวกคุณต้องกลับบ้านทันที เราต้องรักษาสันติ เราต้องรักษากฎและระเบียบในสังคม” “โปรดจดจำวันนี้ไว้”
