ซูเปอร์โพล เผย ปชช. หนุนใช้กฎหมายทุกมาตรา กวาดล้างคนจาบจ้วงสถาบัน!?!

3137

ซูเปอร์โพล เผย ปชช. ร้อยละ 98.9 หนุนใช้กฎหมายทุกมาตรา กวาดล้างคนทำผิดกฎหมายทุกประเภทให้เรียบ เอาผิดคนจาบจ้วงสถาบัน!?!

28 พ.ย.63 – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง กวาดให้เรียบ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,214 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 – 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา

เมื่อถามความเห็นของประชาชนต่อ การจัดการเด็ดขาดต่อการทำผิดกฎหมาย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.9 ระบุจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ใช้กฎหมายทุกมาตราจัดระเบียบสังคมกวาดล้างคนทำผิดกฎหมายทุกประเภทให้เรียบ ร้อยละ 98.1 ระบุ ถ้ากฎหมาย ไม่เป็น กฎหมาย กฎหมู่จะเข้ามาแทน อยู่ก็มีกลุ่มคนออกมาปิดถนน คุกคามประชาชน คนในชาติ อยู่ไม่ปกติสุข ร้อยละ 98.1 ระบุต้องจัดการกับสื่อมวลชนที่ยุยง ปลุกปั่น ทำคนในชาติแตกแยก ร้อยละ 96.9 ระบุต้องใช้กฎหมายทุกมาตรา จัดการ เก็บกวาดให้เรียบ คนที่ทำผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ เป็นต้น ร้อยละ 93.1 ระบุต้องจัดการเด็ดขาด ใครผิดว่าไปตามผิด ตามกฎหมาย มาตรา 112 กับคนที่คุกคาม เบียดเบียน ใส่ร้าย ในหลวงและพระราชินี

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อยหรือร้อยละ 99.2 ระบุ สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เป็นโอกาส บ้านเมืองและประชาชนตื่นตัว มีส่วนร่วมแก้ปัญหาชาติ เช่น ความเสมอภาค การศึกษา การปฏิรูปการศึกษา การใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ไม่เหลื่อมล้ำ เป็นต้น รองลงมาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 99.1 ระบุ เป็นโอกาส เอา ความจริง ประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น และการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ช่วยลดทอนกำลังความห้าวหาญ คุกคามผู้อื่น ฮึกเหิมเกินความพอดี ความไม่รู้ มิจฉาทิฏฐิ ลงไปได้ ร้อยละ 98.6 ระบุ เป็นโอกาส สร้างภูมิคุ้มกันของประชาชน สำนึกรู้คุณแผ่นดิน ปกป้องรักษาองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันหลักของชาติ ไม่มองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู และร้อยละ 97.6 ระบุ เป็นโอกาส เปิดบ้านความจริง เสริมสร้างทัศนคติที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี ใครไม่ดีกวาดให้เรียบ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า การปฏิบัติการ “กวาดให้เรียบ” (Clear) น่าจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้กลายเป็นโอกาสสำคัญของประเทศและประชาชนที่จะทำให้เห็นได้ว่า ขบวนการเบื้องหน้าและเบื้องหลังการชุมนุมของประชาชนเป็นอย่างไรมีกลุ่มคนที่ดีหรือไม่ดี บริสุทธิ์ใจหรือไม่บริสุทธิ์ใจอย่างไร ที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้วจึงทำให้กลุ่มคนพลังเงียบและกลุ่มคนไม่สนใจเรื่องพวกนี้ (Ignorance) ต้องการให้ทุกอย่างปกติสุขโดยเร็วที่สุด ถ้าหากยืดเยื้อก็จะทำให้เสี่ยงต่อความแตกแยกของคนในชาติเพิ่มสูงขึ้นเพราะสถานการณ์จะไปฉุดกระชากลากกลุ่มพลังเงียบและกลุ่มคนไม่สนใจแสดงตนเลือกข้าง บ้านเมืองจะวุ่นวายรุนแรงบานปลายเข้าทางเป้าหมายของขบวนการเบื้องหลังอีก

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า เสนอให้ทำโครงการ “เปิดบ้านความจริง” ทำแบบเรียลลิตีโชว์ (Reality Show) เอาแกนนำม็อบคือ รุ้ง ไมค์ เพนกวิน มานั่งซักถามผู้รู้จริงของบ้านเมืองในประเด็นที่กำลังเรียกร้องกัน ทำในระบบออนไลน์เปิดกว้างให้คนทั่วโลกเข้ามาดูได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องมีพิธีกรผู้ดำเนินรายการเพราะปัจจุบันหาพิธีกรที่ดีเป็นกลางยากและพิธีกรไม่ต้องเปลืองตัว มันไม่น่าจะสำคัญเท่าเนื้อหาสาระความเป็นจริง โดยการเปิดบ้านความจริงทำให้เหมือนบรรยากาศในห้องสนทนา ห้องอภิปราย การแสดงข้อมูลความเป็นจริง จะทำให้ประชาชนเห็นแล้วเป็นผู้ตัดสินใจได้โดยตรง วิธีแบบนี้เป็นสังคมแบบเปิด (Open Society) ที่ไม่ต้องรับทุนต่างชาติ ก็ทำให้โปร่งใส สอดคล้องกับหลักการของกลุ่มประชาธิปไตยได้ แฟร์ ๆ ตรงไปตรงมา รู้ก็จะได้รู้ ไม่รู้ก็จะได้รู้ ไม่น่าจะซ้ำเติมวิกฤตชาติ ไม่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนและประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน.