จากที่วานนี้ (23 เม.ย.66) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์ตลาดสดธนบุรี 2 เขตทวีวัฒนา ช่วยนายกวิน ชาตะวนิช ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยภักดี กทม.เขต 31 (ทวีวัฒนา,ตลิ่งชัน ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง) หมายเลข 4 หาเสียงและปราศรัยชี้แจงนโยบายพรรค
ทั้งนี้นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนกำลังเผชิญปัญหาหลายอย่าง ปัญหาแรกคือ ค่าครองชีพ ปัญหาที่สองคือ การทุจริตคอร์รัปชัน และปัญหาที่สามคือ ขบวนการล้มล้างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พรรคไทยภักดี วันนี้มาด้วยหัวจิตหัวใจ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ไทยภักดีเป็นพรรคแรกที่ติดป้ายหาเสียงประกาศลดราคาไฟฟ้าครัวเรือน เหลือเพียงหน่วยละ 2.50 บาท
สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ วิธีคิดของพรรคไทยภักดีที่เหนือกว่า และเร็วกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ นี่เป็นความเลวร้ายของระบอบการเมืองไทย ที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องรับผิดชอบ เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าแพงมีต่อเนื่องมาเป็น 10 ปีแล้ว เป็นสัญญาทาส ที่ผ่านมามีความต้องการแปรรูปการไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถทำได้เพราะประชาชนต่อต้าน ทำให้ทุนสามานย์ในขณะนั้น ไม่สามารถแปรรูปการณ์ไฟฟ้าได้
แต่ความฉลาดแกมโกงของคนพวกนี้ไม่หยุด เขาใช้วิธีใหม่คือไม่ให้เงินกู้ กฟผ. สร้างโรงไฟฟ้า และให้เอกชนเป็นผู้สร้างโรงไฟฟ้าทำสัญญาระยะยาว 25 ปี โดยอ้างว่าการคืนทุนใช้เวลานาน และการสร้างโรงไฟฟ้าใช้เงินเป็นจำนวนมาก ประชาชนจึงไม่ได้ติดขัดอะไร แต่นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เอกชนเข้ามาควบคุมการผลิตไฟฟ้าในสัดส่วนที่มากขึ้นกว่า 68% ซึ่งมากกว่า กฟผ.
เหตุผลในวันนี้ที่ค่าไฟฟ้าแพงมี 2 ข้อคือ 1.ภาวะสงครามยูเครน แต่ในข้อ 2.การที่ให้เอกชนมาสร้างโรงไฟฟ้า กลายเป็นว่าประชาชนต้องจ่ายค่าพลังไฟฟ้าที่สะท้อนต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า,ค่าดอกเบี้ยซึ่งรวมดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้าง, ผลตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้น, ค่าใช้จ่ายคงที่ในการผลิต, ค่าบำรุงรักษา, ค่าอะไหล่ และค่าประกันภัยซึ่งจ่ายในรูปแบบค่า ft นี่คือเหตุผลหลักๆที่ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง
ไทยภักดีมีแนวคิดที่จะทำไฟฟ้าสะอาดทั้งประเทศ จากโรงไฟฟ้าชุมชนที่เกิดจากพืชพลังงานที่ชื่อว่าเนเปียร์ สามารถผลิตไฟฟ้าเหลือเพียงหน่วยละ 85 สตางค์ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยภักดีกล้าประกาศผลิตไฟ้ฟ้าหน่วยละ 2.50 บาท ก๊าซหุงต้มราคาถังละ 225 บาท และพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกพืชเนเปียร์ จะให้ประกันกำไรไร่ละ 10,000-14,000 บาทต่อไร่ต่อปี
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ทุนผูกขาดที่เอาเปรียบประชาชนอีกทุนหนึ่งก็คือทุนสื่อสาร พวกนักการเมืองที่เป็นเจ้าของบริษัทมือถือ บริษัทสื่อสารอินเทอร์เน็ต ทำให้หน่วยงานของรัฐอ่อนแอลง ให้หน่วยงานรัฐไม่มีศักยภาพ
NT เป็นหน่วยงานยักษ์ใหญ่ที่ถูกฉีดยานอนหลับ เพราะรัฐบาลก่อนๆบอกไว้ว่าห้ามหน่วยงานของรัฐทำธุรกิจแข่งกับเอกชน ธรรมดาแล้วกิจการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตครบสัญญาส่งมอบให้กับประเทศ แต่นายทุนส่งรัฐมนตรีมาดูแลกระทรวง DE สุดท้ายเอาดาวเทียมไปให้เอกชนอีกแล้ว ไทยภักดีจะปลุกยักษ์ตนนี้ให้ตื่นขึ้น ให้ NT เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่จะต้องดูแลประชาชนและประเทศชาติ จะยึดคืนกิจการดาวเทียมจะให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเหลือเดือนละ 100 บาท
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ขบวนการ 3 นิ้วแรงขึ้น นี่คือการปั่นการล้างสมองเยาวชนให้ไปคุกคามสถาบันเบื้องสูง ยังมีพรรคการเมืองหนุนหลัง ยั่วยุให้เด็กกระทำความรุนแรง และเขาไปประกันตัว เขาก็บอกมาตรา 112 ไปทำร้ายเด็ก จุดเลวร้ายเชื่อมโยงกับ NGO ต่างประเทศ สื่อต่างประเทศ นักการเมืองต่างประเทศ เป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เราต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น
นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังกล่าวอีกว่า ยิ่งเข้าใกล้โค้งสุดท้ายจะดุเดือดเข้มข้นขึ้น ขอให้พี่น้องติดตามไทยภักดี ในเพจของหมอวรงค์ เพจไทยภักดีแล้วความจริงต่างๆ จะถูกตีแผ่ออกมาเรื่อยๆ การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นบัตร 2 ใบ เป็นการชี้อนาคตประเทศไทยจะไปในทิศทางใด อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน ต้องเก็บพรรคไทยภักดี เบอร์ 21 ไว้ในหัวใจ และในเขตทวีวัฒนา คุณกวิน ชาตะวนิช เบอร์ 4 แม้พื้นที่ใดไม่มีผู้สมัครของพรรคไทยภักดีก็สามารถเลือกหมายเลข 21 ได้ทุกเขตทั้งประเทศ