จากที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว วานนี้ ( 20 มี.ค.) พร้อมปราศรัยย่อยชี้แจงนโยบายพรรคว่า พรรคเปิดนโยบายเกษตรเพื่อพลังงาน ที่ทุ่งเนเปียร์ ราชบุรี อย่างเป็นทางการแล้วนั้น
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคไทยยืนยันเป็นนโยบายแก้ปัญหาของประชาชน เป็นนโยบายที่จับต้องได้ และเชื่อมโยงไปสู่ความอยู่ดีกินดีของเกษตรกรวันนี้ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4.72 บาท
กระทรวงพลังงานกำลังอุ้มทุนผูกขาด กฟผ.เป็นหนี้ 150,000 ล้าน แต่บริษัทไฟฟ้ากำไรเป็นหมื่นๆล้านนี่คือสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลจะต้องดูแลประชาชน ต้องไม่เปิดให้นายทุนเอาเปรียบประชาชน
“พรรคการเมืองบางพรรค ต้องการแก้ไข มาตรา 112 ถามว่า แก้ไขแล้วค่าไฟฟ้าถูกลงไหม ปัญหาของประเทศเกิดจากนักการเมืองโกงสมคบกับทุนผูกขาด พรรคไทยภักดีจะรื้อระบบพลังงานจะทำราคาไฟฟ้าให้เหลือเพียงหน่วยละ 2.50 บาท ก๊าซหุงต้มถังละ 225 บาท ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ 750 บาท เกษตรกรปลดหนี้ภายใน 3 ปี”
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศมีเนเปียร์สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าราคาถูกๆ สามารถผลิตไฟฟ้าต้นทุนไม่ถึง 1บาท จึงสามารถขายให้กับครัวเรือนพี่น้องได้ราคา 2.50 บาท เป็นพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ในประเทศ
แต่วันนี้กระทรวงพลังงานถูกครอบงำโดนทุนสั่งการว่าไม่ต้องอนุมัติให้ใช้พืชพลังงานเพราะเขาใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า แต่ถ้าเกษตรมาทำพืชพลังงาน แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งปลูกข้าวและมาปลูกพืชพลังงาน รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนร่วมกับเอกชนให้หลักประกันกำไรไร่ละ 10,000-14,000 บาท ต่อไร่ต่อปี อนาคตประเทศไทยจะเปลี่ยน
นี่คือความมั่นคงของประเทศครั้งใหญ่ ฐานะประเทศจะโตวันโตคืน ไม่แพ้ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น นอกจากนี้วันที่พรรคไทยภักดีเข้าไปมีอำนาจในการดูแล จะยึดดาวเทียมกลับคืนมาให้เป็นสมบัติของประชาชน จะทำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อประชาชนผ่านซิมเดือนละ 100 บาท
นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ใช้เงินมากที่สุด อาจถึงเกือบแสนล้านบาท นายทุนไฟฟ้า นายทุนปุ๋ย นายทุนก๊าซ นายทุนต่างๆ จ่ายทุกพรรคการเมือง บริษัทหนึ่งจ่ายไม่ต่ำกว่า 5 พันล้าน – 1 หมื่นล้าน ส.ส.พวกนี้เวลาเข้าไปในสภาก็ไปยกมือให้กับพวกนายทุนผูกขาด แล้วนายทุนผูกขาดก็มาเอาเปรียบประชาชน
นี่เป็นเหตุผลที่ไทยภักดีประกาศจุดยืนชัดเจนว่า เราไม่ยุบพรรค ไม่ย้ายพรรค เราไม่จ่ายเงินซื้อตัว ส.ส. และไม่ซื้อเสียงเด็ดขาด ถ้าเราไม่รับเงินจากทุนผูกขาด เราจะสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างเต็มที่
วันนี้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าการปฏิวัติของทหารไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ถึงเวลาที่พประชาชนจะลุกขึ้นปฏิวัติประชาชน โดยใช้คูหาเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ ไม่ต้องไปกลัวนายทุน รับรองประเทศจะเปลี่ยนแน่นอน