โลกจับตาผู้นำรัสเซียปราศรัยเนื่องในวันชัยชนะ (Victory Day) รำลึกถึงชัยชนะและการสูญเสียวีรชนของสหภาพโซเวียตเหนือลัทธิทหารสุดโต่งเยอรมัน และการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรป
ปธน. ปูติน กล่าวสุนทรพจน์ชัดว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครนมีความจำเป็นและชอบธรรม เนื่องจากสหรัฐและนาโต้กำลัง “เตรียมการรุกรานดินแดนรัสเซีย รวมถึงแหลมไครเมียด้วย” นอกจากนี้ยังปลุกใจจิตวิญญาณแห่งความรักชาติของวีรชน ด้านสหรัฐฯจัดหนัก ปธน.ไบเดนลงนามฟื้นกฎหมายยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เปิดทางสหรัฐฯส่งมอบอาวุธยูเครนเร็วขึ้น ส่อส่งกำลังทหารเข้าร่วมในนามนาโต้ในไม่ช้า
ทำให้บรรยากาศของยุโรปอบอวลไปด้วยไอแห่งสงครามโลกที่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
วันที่ 10 พ.ค.2565 สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์ในงานฉลองวันแห่งชัยชนะหรือ Victory Day เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเป็นสิ่งที่ชอบธรรมแล้ว พร้อมกล่าวโทษ สหรัฐและชาติตะวันตกสมคบกับยูเครนต้องการทำลายรัสเซีย
ปูตินกล่าวว่าสงครามในยูเครนเป็นการตอบสนองต่อ ‘ภัยคุกคามที่ยอมรับไม่ได้’จากตะวันตก เขาได้ส่งคำอวยพรเนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปีแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ถึงผู้นำและพลเมืองของประเทศต่างๆ รวมถึงอาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน มอลโดวา ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน และปลุกขวัญกำลังใจ เหล่าทหารของเขาว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนรัสเซีย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ ปธน. ปูตินไม่ได้ให้การประเมินความคืบหน้าใดๆ ของสงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้อยู่ในสัปดาห์ที่ 11 แล้ว แต่เน้นย้ำว่า เคียฟยังได้ประกาศความเป็นไปได้ในการจัดหาอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย
ปูตินกล่าวย้ำว่า “ปีที่แล้ว เราแนะนำประเทศต่างๆ ของ NATO ว่าเราลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคง แต่พวกเขาไม่ต้องการฟังเรา พวกเขามีแผนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และกำลังเตรียมการโจมตีไครเมีย” “พันธมิตรนาโต้เริ่มพัฒนาทางทหารในดินแดนที่อยู่ติดกับเรา ทำให้การต่อสู้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ปูตินยกย่องกองกำลังทหารที่สู้รบในภูมิภาคดอนบาสส์ (Donbas) ของยูเครนทางตะวันออก “คุณกำลังต่อสู้เพื่อมาตุภูมิของคุณ อนาคตของประเทศชาติและประชาชนรัสเซีย” พร้อมกล่าวปฏิบัติการพิเศษทางทหารเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เขากล่าวย้ำว่า“การเสียชีวิตของทหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนทำให้เราเจ็บปวด” “รัฐจะทำทุกอย่างเพื่อดูแลครอบครัวเหล่านี้ให้ดีที่สุด”
ปูตินกล่าวว่าฝ่ายตะวันตกได้ลบหลู่ความกล้าหาญอันน่าทึ่งของบรรดาผู้ที่เสียสละในสงครามมหาผู้รักชาติได้ชัยชนะ ในขณะที่ยกย่องผู้ทรยศ ขณะที่รัสเซียจะไม่มีวันละทิ้งการเคารพต่อทุกชนชาติ วัฒนธรรม และค่านิยมดั้งเดิม ซึ่งตะวันตกได้ตัดสินใจทำลายและยกเลิก
ปูตินกล่าวว่า“ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำหรับการบิดเบือนอย่างเหยียดหยามของประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุยงให้เกิดความเกลียดชังประชาชาติรัสเซียหรือรุสโซโฟเบีย แต่กลับยกย่องคนทรยศ และเยาะเย้ยความทรงจำของเหยื่อ”
ในวันเดียวกันแห่งการฉลองความทรงจำแห่งชัยชนะของรัสเซีย ปธน.โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนกลับกล่าวว่า รัสเซียกำลังเตรียม “ทำให้ลัทธิทหารหัวรุนแรงหวนกลับมาอีกครั้ง” ในยูเครน อย่างตรงข้ามกัน และสหรัฐก็ทำในสิ่งที่เปิดเผยเจตนาอย่างชัดแจ้ง โดยคืนชีพกฎหมายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เคยใช้สนับสนุนพันธมิตรของอเมริกาสู้รบกับลัทธิหัวรุนแรงเยอรมนี เปิดทางให้รัฐบาลเร่งการส่งมอบอาวุธไปยังยูเครน ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซียอย่างเต็มกำลัง
ไบเดน ลงนามในร่างกฎหมายให้ยืม-เช่า (Lend-Lease Act of 2022) ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว พร้อมระบุเหตุผลว่าสหรัฐฯสนับสนุนชาวยูเครน “ต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของพวกเขาและประชาธิปไตยของพวกเขา จากสงครามอันโหดร้ายของปูติน”
นอกจากนี้แล้ว ไบเดน ยังส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมอ่อนข้อทางการเมือง่ให้กับพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส เพื่อที่จะได้รับการเห็นชอบอย่างรวดเร็ว สำหรับคำร้องของบประมาณช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติมอีก 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ ไบเดน ต้องการให้สภาคองเกรสอนุมัติเงินช่วยเหลือดังกล่าว ควบคู่ไปกับการสนับสนุนงบประมาณโครงการต่อต้านโควิด-19 ของรัฐบาลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ด้วยบรรดาสมาชิกรีพับลิกันเตะถ่วงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิด ไบเดนจึงบอกว่าเขาพร้อมถอนข้อเรียกร้องงบประมาณโควิดในเวลานี้ และขอแค่เห็นชอบเงินสนับสนุนยูเครนก็พอ
อาการหน้ามืดตามัวของผู้นำสหรัฐฯ ส่อว่าปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังปะทุให้เห็นความจริงนั้นใหญ่หลวงเพียงใด และทีมบริหารหรือเฟดหรือใครก็ช่วยไม่ได้ จำเป็นต้องอาศัยสถานการณ์ความขัดแย้งมากลบเกลื่อนใช่หรือไม่? คงต้องจับตากันต่อไปว่า รัสเซียจะเดินหมากทางทหารอย่างไร ในความเคลื่อนไหวของสหรัฐและนาโต้ที่เปิดหน้าชนอย่างไม่มิดเม้มแล้ว เพียงแต่เลี่ยงบาลีเพื่อให้รัสเซียออกอาวุธหนักและผิดกฎหมายสากลอย่างเป็นรูปธรรมก่อนเท่านั้น ขณะที่สมรภูมิทางเศรษฐกิจ รัสเซียชนะขาดอย่างชัดเจน แม้ว่าสหรัฐจะแผ่นเสียงตกรองว่ารัสเซียจะล่มสลายสวนทางความจริงก็ตาม!!
