การประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน เพื่อฉลองครบรอบ 45 ปี จะเกิดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.2565 โดยผู้นำ 8 ชาติอาเซียน จะเข้าร่วมการหารือหลายประเด็น แต่อาจไม่มีการคุยแบบตัวต่อตัว เรื่องนี้ทำให้นายกรมว.ฮุนเซนฯกริ้ว ให้คนใกล้ตัวเรียกร้อง สหรัฐฯควรให้เกียรติและมีน้ำใจกับอาเซียนมากกว่านี้ ให้เวลาพบผู้นำน้อยเกิน ควรจัดเวลาให้ได้คุยใกล้ชิดกับประธานาธิบดีสหรัฐ หากต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับอาเซียนให้มากขึ้นอย่างแท้จริง
วันที่ 9 พ.ค.2565 สำนักข่าวรอยเตอร์และเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่าปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ควรใช้เวลากับผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดที่วอชิงตันในสัปดาห์หน้า หากรัฐบาลของเขาจริงจังกับการยกระดับความสัมพันธ์ประเทศสมาชิกอาเซียนกับสหรัฐฯ กับภูมิภาคอาเซียนซึ่งจีนมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้อย่างมาก
เกา กึม ฮวน (Kao Kim Hourn) รัฐมนตรีและที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานของกัมพูชา เปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่มีการวางแผนการประชุมแบบรายบุคคลระหว่างผู้นำของภูมิภาคและไบเดน
กัมพูชาดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนซึ่งหมุนเวียนระหว่างสมาชิกของกลุ่ม และผู้นำชาติอาเซียน 8 คน รวมทั้งฮุนเซน คาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด ส่วนผู้นำเมียนมาถูกกีดกัน เนื่องจากการทำรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว และฟิลิปปินส์จะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้งจึงไม่มีผู้นำไปร่วม
เกา กึม ฮวน ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้นำอาเซียน “ควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและความเสมอภาค” และให้โอกาส “ใช้เวลาอันเป็นประโยชน์” กับปธน.โจ ไบเดน
“ในฐานะประเทศใหญ่ ประเทศเจ้าภาพ สหรัฐฯ ควรมีน้ำใจต่อแขกมากขึ้น ผู้นำที่เดินทางไปวอชิงตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ (ไบเดน) กำลังพูดถึงการยกระดับหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ให้เป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุม เขากล่าวถึงขั้นตอนที่เสนอในระดับการมีส่วนร่วมระหว่างวอชิงตันและอาเซียน
เกา กึม ฮวน กล่าวว่าเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับประธานอาเซียนที่จะพบกับผู้นำของประเทศเจ้าบ้าน “ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการเพื่อเจรจาบางประเภท”
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับแจ้งจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา แพทริก เมอร์ฟี ว่าไม่มีการประชุมทวิภาคีตามกำหนดการที่เขาทราบ เนื่องจากการประชุมสุดยอดใช้เวลานานพอสมควรแล้ว และเนื่องจากไบเดน “ยุ่ง”
ทำเนียบขาวไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของเกา กึม ฮวนในทันที แต่โฆษกทำเนียบขาวเจน ซากี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าปธน.โจ ไบเดนจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำทำเนียบขาว แก่ผู้นำอาเซียนในวันพฤหัสบดีและเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับพวกเขาที่กระทรวงการต่างประเทศในวันศุกร์
เธอกล่าวว่าการประชุมสุดยอดจะ “ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของอาเซียนในการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต่อความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในภูมิภาค และเป็นการรำลึกถึง 45 ปีของความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อาเซียน”
การประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งแรกที่จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน และเป็นการเยือนทำเนียบขาวครั้งแรกของฮุน เซน ซึ่งปกครองกัมพูชามาตั้งแต่ปี 2528 และต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ บ่อยครั้งในการปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วย
เกา กึม ฮวน กล่าวว่ากัมพูชาซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกับจีนจะไม่ “เลือกข้าง” ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง และการลงทุนของสหรัฐฯ ในประเทศของเขากำลังเติบโตขึ้น ในทำนองเดียวกัน อาเซียนทำงานร่วมกับทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนภายใต้หลักการของ “การเปิดกว้าง” เขากล่าว
นักวิเคราะห์และนักการทูตกล่าวว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แต่รู้สึกผิดหวังที่ล้มเหลวในการให้รายละเอียดแผนการรับมือทางเศรษฐกิจหลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาค
เกา กึม ฮวน กล่าวว่ากรอบเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิกของไบเดนยังคงเป็นแค่ “งานที่กำลังดำเนินการอยู่ และรัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญกับปัญหาภายในประเทศและวิกฤตในยูเครน เขากล่าวว่า“ยังมีรายละเอียดอีกมากที่เรายังไม่รู้” “เราเข้าใจดีว่ามีลำดับความสำคัญที่แข่งขันกันมากมายในวาระระดับโลกสำหรับสหรัฐอเมริกา”
นอกจากนี้เกา กึม ฮวน กล่าวถึงกรณี ทะเลจีนใต้ว่า สมาชิกอาเซียนต่างๆ อ้างสิทธิ์เช่นเดียวกับจีน จะต้องอยู่ในวาระหารือร่วมกับไบเดน เช่นเดียวกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ไบเดนน่าจะกดดันอาเซียนให้ดำเนินการมากกว่านี้เพื่อสนับสนุนความพยายามของเขาในการโดดเดี่ยวรัสเซียออกทางทางการทูตและทางเศรษฐกิจหลังจากการรุกรานยูเครน
เขากล่าวเสริมว่าสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ มีจุดยืนที่แตกต่างกันในเรื่องความขัดแย้งในยูเครน และจุดยืนของอาเซียนใดๆในกลุ่มอาเซียนจะต้อง “มีฉันทามติเป็นพื้นฐาน”