เค้าลางการปะทะทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน กำลังระอุมากขึ้นเป็นที่จับตาของทั่วโลก เมื่อสหรัฐปักหมุดรุกคืบในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง พุ่งเป้าปิดล้อมจีน โดดเดี่ยวรัสเซียอย่างออกนอกหน้าไม่ปิดบัง ทางการจีนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร โดยไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว จึงได้เห็นท่าทีของเจ้าหน้าที่จีน และคำพูดของผู้นำยกระดับเข้มข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยแพร่รายงานเปิดโปงพฤติกรรมบ่อนเซาะ แทรกแซงของสหรัฐในโลกอย่างหมดเปลือกว่า แผนการร้ายทำลายประเทศอื่นๆนั้นผ่านเข้ามาในฉากหน้าของประชาธิปไตยโดยหน่วยงานเอ็นจีโอหลักคือ NED
วันที่ 8 พ.ค.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์ รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยรายงาน การบริจาคเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ โดยองค์กร NEDของสหรัฐ (The National Endowment for Democrecy) มีสถานะหนึ่งเหมือน “ทหารราบ” “ถุงมือขาว” และ “ครูเสดประชาธิปไตย” ของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการจลาจลแบ่งแยกดินแดน การปฏิวัติสี และวิกฤตทางการเมืองทั่วโลก เอกสารข้อเท็จจริงที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐบาลหุ่นเชิดในประเทศต่างๆ และการปลูกฝังกองกำลังหุ่นเชิดที่สนับสนุนสหรัฐฯ เกิดขึ้นภายใต้ข้ออ้างว่าส่งเสริมประชาธิปไตย
ประเทศจีนเป็นเป้าหมายหลักของกิจกรรมการแทรกซึมและการโค่นล้มของ NED มานานแล้ว NED ลงทุนมหาศาลในโครงการต่อต้านจีนที่มุ่งแบ่งเขตซินเจียง ทิเบต และฮ่องกงออกจากจีน บทความกล่าว โดยสังเกตว่าความพยายามใดๆ ที่จะเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ ในนามของประชาธิปไตยนั้นไม่เป็นที่นิยมและในที่สุดก็ประสบกับภาวะที่ล้มเหลวเช่นกรณีที่ฮ่องกง
สหรัฐฯ ใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือและอาวุธมานานแล้วเพื่อบ่อนทำลายประชาธิปไตยในนามของประชาธิปไตยจอมปลอม ยุยงให้เกิดความแตกแยกและการเผชิญหน้า และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายตามมา บทความกล่าวว่า NED ได้ล้มล้างรัฐบาลที่ถูกกฎหมายและปลูกฝังกองกำลังหุ่นเชิดของสหรัฐฯทั่วโลกภายใต้ ข้ออ้างในการส่งเสริมประชาธิปไตย
NED ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 ในฐานะสถาบันสองพรรคในนาม NGO ที่ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยในต่างประเทศ แต่ที่จริงแล้ว NED อาศัยการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากทำเนียบขาวและรัฐสภา และรับคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐฯโดยตรง
ด้วยการจัดหาเงินทุน บริษัทได้จัดการและชี้นำองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกให้ส่งออกค่านิยมของอเมริกา ดำเนินการโค่นล้ม การแทรกซึมและการก่อวินาศกรรม และปลุกระดม “การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย” ในประเทศและภูมิภาคเป้าหมาย บทความกล่าวว่าได้กลายสหรัฐฯเป็นผู้บงการเบื้องหลังการจลาจลแบ่งแยกดินแดน การปฏิวัติสี วิกฤตการณ์ทางการเมือง การโกหกและข่าวลือ และการแทรกซึมไปทั่วโลก พร้อมสร้างรายการความชั่วร้ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตามข้อมูลที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ในปี 2020 NED ได้ให้เงินสนับสนุนมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับจีน 69 โครงการภายในหนึ่งปี ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อมอบกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางการเมืองและสังคมของจีน
ในฐานะแหล่งเงินทุนหลักสำหรับองค์กร “เอกราชของซินเจียง” NED อ้างว่าได้ให้เงินช่วยเหลือ 8.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ “องค์กรอุยกูร์” ต่างๆ ระหว่างปี 2547 ถึง 2563 เช่น “สภาคองเกรสอุยกูร์โลก” ที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
คาร์ล เกิร์ชมาน ประธาน NED กล่าวอย่างเปิดเผยว่าในการแก้ปัญหาในซินเจียง จะต้องมีการปฏิวัติสีในจีน และการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจะทำให้ประเทศกลายเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ เกิร์ชมานยังสนับสนุนแนวคิด “เตอร์กิสถานตะวันออก” เพื่อสนับสนุนกองกำลัง “เอกราชของซินเจียง” นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ทั่วโลกให้ความสนใจกับประเด็นที่เรียกว่าประเด็นสิทธิมนุษยชนในซินเจียง และพยายามจัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศที่อุทิศตนเพื่อเรื่องนี้และเพื่อคว่ำบาตรจีน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้เอื้อมมือเข้าไปในกิจการภายในของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน ตั้งแต่ปี 1997 สถาบัน National Democratic Institute หนึ่งในองค์กรในเครือของ NED ได้ตีพิมพ์รายงานการประเมิน 18 ฉบับโดยมุ่งเป้าไปที่การมีอิทธิพลต่อ “การพัฒนาประชาธิปไตย” ของฮ่องกง และในปี 2014 องค์กรได้กำกับดูแลและให้ทุนสนับสนุนฝ่ายค้านและกลุ่มหัวรุนแรงรุ่นเยาว์ในการเตรียมการยึดอำนาจส่วนกลาง “Occupy Central” อย่างผิดกฎหมาย ด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
ท่ามกลางความปั่นป่วนในปี 2019 NED ได้เปลี่ยนจากเบื้องหลังเป็นแนวหน้า โดยเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงกับกองกำลังต่อต้านจีนที่ไม่มั่นคงในฮ่องกง และให้เงินอุดหนุนและฝึกอบรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการจลาจล ในเดือนพฤษภาคม 2019 บุคคลที่พยายามสร้างปัญหาในฮ่องกง รวมถึงประธานผู้ก่อตั้งพรรคเดโมแครตของฮ่องกง มาร์ติน ลี (Martin Lee) และนาธาน ลอว์ (Nathan Law) ประธานผู้ก่อตั้งกลุ่มเดโมซิสโต (Demosisto)ซึ่งได้ไปเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมงาน NED โดยขอร้องให้สหรัฐฯ แทรกแซงในฮ่องกงอย่างเปิดเผย เสนอให้แก้ไขกฎหมายเป็นต้น
ในปี 2020 ตามเว็บไซต์ของ NED มีการใช้เงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง 11 โครงการ โดยมุ่งเน้นที่การขัดขวางการเลือกตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (LegCo:The Legislative Council of the Hong Kong Special Administrative Region โดยเฉพาะ
บทความระบุว่า สันติภาพและการพัฒนาเป็นหัวข้อสำคัญในโลกปัจจุบัน และแนวโน้มไปสู่ประชาธิปไตยที่มากขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นสำเร็จไม่ได้ เพราะความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ ในนามของประชาธิปไตยนั้นไม่เป็นที่นิยมและถึงวาระที่จะล้มเหลวในที่สุด
