ปูตินปลื้ม!!คว่ำบาตรง่อย รัสเซียส่งออกก๊าซไปจีนเพิ่มขึ้น60%ใน4เดือนแรก รายได้น้ำมันปี 64 ปั้มภาษีให้รัฐ 45%

1208

สภาพการบีบคั้นทางเศรษฐกิจรัสเซีย ที่สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกคาดหวังจะกดข่มรัสเซียให้อ่อนแอ จนถึงล่มสลายในที่สุดได้ล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิง เมื่อการคว่ำบาตรผ่านมาไม่นาน รัสเซียสามารถปรับตัวรับมือกับมาตรการโหดทุกด้าน ดูจากรายได้จากน้ำมันของรัสเซียเพิ่มขึ้น ทำให้งบประมาณของรัฐจะได้รับภาษีเพิ่มขึ้น 45% จากปีที่แล้ว และการส่งออกก๊าซไปยังจีนลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4 เดือนแรกเท่านั้น ยังมีอินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาที่รอการรับพลังงานราคาถูกอีก ในขณะที่ยุโรปที่เป็นฝ่ายคว่ำบาตรกำลังวุ่นหาแหล่งใหม่และต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อกระฉูดส่งผลกระทบกับชีวิตประชาชนอย่างหนักหนาสาหัส เกิดสภาพการประท้วงจลาจลในหลายประเทศ

วันที่ 4 พ.ค.2565 สำนักข่าวรอยเตอร์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยกรณีการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังจีน เพิ่มขึ้นถึง 60% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ในขณะที่มอสโกอยู่ระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับท่อลำเลียงใหม่ๆ ซึ่งจะเปิดทางสำหรับป้อนก๊าซธรรมชาติแก่ปักกิ่งเพิ่มเติมในอนาคต

ตัวเลขการส่งออกไปจีนที่เพิ่มขึ้น มีขึ้นในขณะที่ปฏิบัติการบุกยูเครนของรัสเซีย ทำให้บรรดาชาติผู้ซื้อรายใหญ่หลายรายในยุโรป ลดการสั่งซื้อก๊าซจากรัสเซียตามข้อเรียกร้องของวอชิงตัน

อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ก๊าซพรอมเผยด้วยว่ายอดขายก๊าซธรรมชาติไปยังบรรดาประเทศต่างๆ ที่อยู่นอกกลุ่มเครือรัฐเอกราช ลดลง 50,100 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วง 4 เดือนแรก ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 26.9%

รัสเซียส่งออกก๊าซป้อนแก่จีนผ่านท่อลำเลียงเพาเวอร์ออฟไซบีเรีย(Power of Siberia)  ซึ่งเริ่มใช้งานในปี 2019 มีการส่งมอบก๊าซผ่านท่อลำเลียงแห่งนี้ราว 4,100 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2020 และมีเป้าหมายส่งมอบอุปทานก๊าซเต็มศักยภาพ 38,000 ลูกบาศก์เมตร ภายในปี 2025 ตามถ้อยแถลงของก๊าซพรอม

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมูลค่า 117,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน 15 ฉบับ หนึ่งในนั้นรวมถึงสัญญาฉบับหนึ่งที่ก๊าซพรอมจะป้อนก๊าซให้จีน 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีผ่านท่อลำเลียงใหม่ นั่นคือ เพาเวอร์ออฟไซบีเรีย 2 โดยท่อลำเลียงนี้จะทอดยาวจากเกาะซาคาลิน ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย สู่มณฑลเฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

ก๊าซพรอมระบุในถ้อยแถลงว่า “เมื่อพิจารณาจากสัญญาที่ลงนามในเดือนกุมภาพันธ์ การส่งออกก๊าซของรัสเซียที่ป้อนแก่จีนผ่านเส้นทางตะวันออกไกล น่าจะแตะระดับ 48,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี” 

คาดหมายว่าท่อลำเลียงใหม่จะเปิดใช้งานภายในปี 2026 นั่นหมายความว่า เมื่อรวมกับท่อลำเลียงที่มีอยู่ในปัจจุบัน อุปทานก๊าซธรรมชาติในแต่ละปีอาจเพิ่มขึ้นจากระดับราวๆ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2021 เป็น 48,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ ก๊าซพรอมยังกำลังทำงานเกี่ยวกับแผนก่อสร้างทอลำเลียงใหม่อีกแห่ง ซึ่งจะทอดยาวจากรัสเซียสู่จีนผ่านมองโกเลีย นั่นหมายความว่ารัสเซียจะสามารถป้อนก๊าซธรรมชาติให้จีนได้เพิ่มอีกราวๆ 50,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในแต่ละปี

ในขณะที่ตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ทางยุโรปกำลังหาทางเลิกพึ่งพาเชื้อเพลิงรัสเซีย ส่วน จีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก คัดค้านมาตรการคว่ำบาตรและบอกว่าจะค้าขายกับรัสเซียต่อไป ในนั้นรวมถึงเดินหน้าความร่วมมือทางน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

รัสเซีย ส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังจีน 16,500 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2021 ในนั้นรวมถึงผ่านท่อลำเลียงและในรูปแบบก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ขณะเดียวกันก่อนหน้าเกิดสงครามในยูเครน รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังตลาดยุโรปในแต่ละปี 170,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

รวมแล้ว จีน บริโภคก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 372,500 ล้านลูกบาศก์เมตรเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในนั้น 167,500 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นการนำเข้า จากข้อมูลอย่างเป็นทางการของปักกิ่ง ทั้งนี้ ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติของจีนในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้น 19.9%

ข่าวดีเรื่องเศรษฐกิจของรัสเซียที่ทำให้สหรัฐและตะวันตกผิดหวังก็คือรายงานที่เผยแพร่โดยบริษัทวิจัยอิสระริสแทด เอเนอร์จี (Rystad Energy) ในวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุถึงรายได้จากภาคน้ำมันซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้และแตะกว่า 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการลดการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรจากนานาชาติ 

ริสแทด เอเนอร์จี กล่าวว่าด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รายรับจากภาษีของรัสเซียจะสูงกว่าปีที่แล้วถึง 45% และสูงกว่าปี 2020 ถึง 181% 

ดาเรีย เมลนิค(Daria Melnik) นักวิเคราะห์อาวุโสของริสแทด เอเนอร์จีกล่าวว่า “การพึ่งพาพลังงานของรัสเซียของยุโรปเป็นความสัมพันธ์ที่ดีและเป็นประโยชน์ร่วมกันมายาวนานหลายทศวรรษ ในช่วงแรกของการคว่ำบาตรรัสเซียจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นหมายถึงรายรับภาษีสูงกว่าในปีที่ผ่านมาอย่างมาก” นอกจากนี้ ปัญหาเบื้องต้นที่รัสเซียมีเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันเมื่อลูกค้าชาวยุโรปเริ่มหลีกเลี่ยงน้ำมันได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว และเริ่มฟื้นตัวในปลายเดือนมีนาคม โดยได้รับการสนับสนุนจากคำสั่งซื้อจากจีนและอินเดีย การส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียยังคงคล่องตัวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และพันธมิตรของพวกเขาได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียโดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ประเทศที่ขาดแคลนเงินสด เพื่อทำให้รัสเซียอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซของรัสเซียในระดับสูงของยุโรป หมายความว่าการปฏิเสธจากรัสเซียถือเป็นปัญหา ต่อสหภาพยุโรปเอง เพราะจะเลิกใช้ก๊าซของรัสเซียภายในปี 2573 แต่ปัญหาเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ประกาศตัดขาดพลังงานของรัสเซีย

ล่าสุดปธน.ปูติน ได้ลงนาระงับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญแก่บุคคล องค์กร และประเทศที่ไม่เป็นมิตรเรียบร้อย นั่นหมายถึงสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกผู้ที่เป็นฝ่ายคว่ำบาตรรัสเซีย จะเป็นผู้รับผลกระทบหนักกว่ารัสเซียอย่างคาดไม่ถึง!