สถานการณ์ขาดแคลนพลังงานในเมียนมา กดดันรัฐบาลกลางอย่างหนักในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่พลังงานจากตะวันตกได้ถอนตัวออกจากเมียนมา ตามวาระวอชิงตันอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเป็นญี่ปุ่น ทำให้รัฐบาลต้องเร่งจัดหาจากแหล่งพลังงานที่อื่นมาเติมเต็มแทนที่ และเร่งเจรจากับรัสเซียเพื่อขอซื้อน้ำมันราคาถูก
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยว่า กำลังอยู่ระห่างการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลเครมลิน ในการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาถูกจากรัสเซีย อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามบรรเทาปัญหาไฟฟ้าดับในประเทศที่เรื้อรังมานานหลายเดือน โดยขณะนี้มีรายงานว่าชาวเมียนมาหลายล้านคนตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันเพียงวันละ 4 ชั่วโมง
สำหรับเหตุกระแสไฟฟ้าดับในนครย่างกุ้งและอีกหลายเมือง เริ่มกลายเป็นปัญหานับตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาดังกล่าวทางการสั่งดับกระแสไฟฟ้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในแต่ละวัน ก่อนจะเพิ่มระยะเวลาการดับกระแสไฟที่นานมากขึ้น ซ้ำเติมการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด รวมถึงผลกระทบจากการกระทำรัฐประหารในปีที่แล้ว
พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกของสภาบริหารแห่งรัฐ กล่าวว่า “เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถนำเข้าเชื้อเพลิงได้เพียงพอในราคาที่เหมาะสม เรากำลังเจรจากับรัสเซีย รวมถึงประเทศอื่นๆ บางประเทศ .. เราหวังว่าเราจะเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในการจัดการกับไฟฟ้าดับตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้”
สำหรับพม่าและรัสเซีย มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการทหาร หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลมอสโกได้สนับสนุนการฝึกทหารตลอดจนการขายอาวุธแก่กองทัพพม่าอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วพม่ามีสัดส่วนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศในระดับไม่มากอยู่แล้ว
เนื่องจากสามารถพึ่งพาการผลิตในประเทศผ่านการลงทุนโดยบริษัทพลังงานต่างชาติ ทว่านับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร จนทำให้บริษัทพลังงานหลายแห่งเริ่มทบทวนการลงทุนในพม่า ทำให้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานในประเทศรุนแรงขึ้น
รัสเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่แสดงการสนับสนุนรัฐบาลทหารของพลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย หลังจากที่ขับไล่นางอองซานซูจีเมื่อปีที่แล้ว โฆษกของสภาบริหารแห่งรัฐ เผยอีกว่า รัฐบาลได้ระงับโรงไฟฟ้าบางแห่งท่ามกลางต้นทุนก๊าซธรรมชาติเหลวที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนมานี้ ขณะที่กลุ่มพลเรือนติดอาวุธฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลได้พยายามทำลายสายไฟฟ้าเช่นกัน
คาดการณ์ว่ารัฐบาลพม่าอาจไม่เพียงแค่ซื้อพลังงานราคาถูกจากรัสเซียเท่านั้น แต่จากการเดินทางเยือนพม่าของนาย รัสตัม มินนิคานอฟ ประธานสาธารณรัฐตาตาร์สถาน รัฐกึ่งปกครองตนเองของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบรายละเอียดของการหารือความร่วมมือในด้านพลังงานด้วย โดยรัฐตาตาร์สถานในฐานะหนึ่งในแหล่งผู้ผลิตพลังงานของ รัสเซีย จะช่วยเหลือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการฝึกอบรมเพื่อให้พม่ากลับมาเปิดดำเนินการโรงกลั่นน้ำมันที่ถูกระงับอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายออง ไน อู รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ กล่าวว่า แม้ภาคครัวเรือนจะได้รับผลกระทบจากการตัดกระแสไฟในแถบชุมชน ทว่า ภาคธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงดำเนินการต่อไปได้อย่างปกติ เพื่อไม่ให้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานกระทบต่อเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ
ขณะเดียวกันทางการเมียนมา ยอมยกเว้นบริษัทต่างชาติ สถานทูต และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ จากคำสั่งใหม่ที่กำหนดให้ต้องแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับในประเทศเป็นเงินท้องถิ่น ตามประกาศของธนาคารกลางเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2565
คำสั่งของธนาคารกลางประกาศไว้เมื่อต้นเดือน เม.ย. และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยบรรดาหอการค้าต่างชาติ รวมถึงสถานทูตที่ระบุว่า จะเพิ่มความยากลำบากในการทำธุรกิจ เนื่องจากคำสั่งกำหนดให้ต้องแลกเงินภายใน 1 วันหลังจากได้รับ
ต่อมาในวันที่ 21 เม.ย.2565 ธนาคารกลางยอมผ่อนปรน ประกาศว่า บริษัทต่างชาติ สถานทูต และเจ้าหน้าที่ของพวกเขา สหประชาชาติและพนักงานของหน่วยงาน องค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ ตลอดจนสายการบินของรัฐและเอกชนจะได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดนี้
เงินจ๊าตของเมียนมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นับตั้งแต่กองทัพทำให้ประเทศตกอยู่ในสถานการณ์โกลาหลวุ่นวายจากการโค่นล้มรัฐบาลของอองซานซูจี
ธนาคารกลางได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1,850 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ในตลาดมืด เงินดอลลาร์ถูกซื้อขายมากกว่า 2,000 จ๊าต การตัดขาดจากการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปิดช่องทางการส่งเงินช่วยเหลือจากตะวันตกแก่ฝ่ายต่อต้านอย่างสะดวกสบายในข้ออ้างเงินบริจาคทั้งบนดินและใต้ดินได้อีกช่องทางหนึ่ง
ปัญหาไฟฟ้าดับตามเมืองใหญ่ที่รัฐบาลเมียนมาอ้างถึงราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มผู้เห็นต่างต่อต้านรัฐประหาร ยิ่งซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่ประชาชน ที่สำคัญฝ่ายต่อต้านมุ่งโจมตีบริษัทจีนและท่อส่งน้ำมันของจีนอย่างเปิดเผย การที่รัฐบาลเมียนมาเปิดช่องทางซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียจึงเป็นโอกาสในการบรรเทาปัญหาพลังงานขาดแคลนในประเทศได้อย่างประจวบเหมาะ กับที่สหรัฐและชาติตะวันตกโหมกระหน่ำรุมเล่นงานรัสเซีย กดดันให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกพลังงานไปทางยุโรป จึงเป็นโอกาสขยายการค้าพลังงานมาทางตะวันออกในราคาถูก