สหรัฐ-ออสเตรเลียขาสั่น! ตร.จีนพรึบโซโลมอน รุดช่วยคุ้มครองปชช.7แสนตามข้อตกลง2ปท.
จากกรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อตกลงความมั่นคงระหว่างจีนกับหมู่เกาะโซโลมอนที่ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ ถือเป็นการรุกคืบครั้งสำคัญของจีนในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่สหรัฐมีอิทธิพลเหนือพื้นที่ดังกล่าวร่วมกับประเทศพันธมิตรอย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาช้านาน
จีนกล่าวว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้หมู่เกาะโซโลมอนสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมและรับมือกับภัยธรรมชาติตลอดจนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ โดยระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นภัยต่อสหรัฐ ขณะที่หมู่เกาะโซโลมอนกล่าวว่าข้อตกลงนี้จะไม่บ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาค

อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เตือนหมู่เกาะโซโลมอนมิให้จีนเข้าตั้งฐานทัพในประเทศ มิฉะนั้นสหรัฐจะดำเนินการตอบโต้อย่างเหมาะสม ขณะที่นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ถูกกระแสวิจารณ์จากข้อตกลงดังกล่าวว่า เป็นความล้มเหลวทางการทูตครั้งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียในภูมิภาคแปซิฟิกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงหมู่เกาะโซโลมอนประจำออสเตรเลียกล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุวันจันทร์ ยืนยันการปรากฏตัวของตำรวจจีนในหมู่เกาะโซโลมอน

เจ้าหน้าที่การทูตโซโลมอนเปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความมั่นคงระดับทวิภาคีของ 2 ชาติเนื่องมาจากเหตุผลตำรวจโซโลมอนไม่สามารถจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลได้
ข้าหลวงใหญ่ประเทศหมู่เกาะโซโลมอนประจำออสเตรเลีย โรเบิร์ต ซิซิโล (Robert Sisilo) เปิดเผยกับสถานีวิทยุเอบีซีเรดิโอว่า หมู่เกาะโซโลมอนกำลังยกระดับการรักษาความสงบภายในประเทศหลังตำรวจโซโลมอนไม่สามารถควบคุมจลาจลที่เกิดเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วในเขตไชน่าทาวน์ภายในกรุงโฮนีอารา (Honiara)
ภายใต้ข้อตกลงระบุว่า “ตำรวจจีน สามารถถูกเรียกมาช่วยปฏิบัติภารกิจแต่ต้องอยู่ภายใต้การบัญชาการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโซโลมอนเท่านั้น เหมือนเช่นเดียวกับตำรวจออสเตรเลียที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ที่นี่” ซิซิโล กล่าว
“พวกเราจะพยายามและทำอย่างดีที่สุดในการจัดการพวกเขาเพื่อทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในประเทศอื่น เป็นต้นว่า ฮ่องกง จะไม่เกิดขึ้นในประเทศของเรา”
ข้อตกลงความมั่นคงระหว่างหมู่เกาะโซโลมอน และจีนนั้นทำให้พันธมิตรโลกตะวันตกต่างออกมาวิตกเกี่ยวกับการที่หมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งเป็นเสมือนหลังบ้านของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เปิดทางให้ตำรวจจีนเข้าไปทำงานที่นั่นกับพลเมืองโซโลมอนอาจจะสร้างปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนเหมือนเช่นที่ตำรวจจีนเคยกระทำในฮ่องกง และในจีนแผ่นดินใหญ่
นายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ในเดือนที่แล้วเคยออกมาตั้งคำถามกับบีบีซีของอังกฤษถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของข้อตกลงความมั่นคงระหว่างกันนี้
โดยกลุ่มพันธมิตร 3 ฝ่าย AUKUS ประกอบไปด้วยอังกฤษ ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ต่างวิตกว่าข้อตกลงนี้จะเปิดทางให้ปักกิ่งเข้ามาตั้งฐานทัพขึ้นซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะอยู่ห่างจากออสเตรเลียทางตะวันออกไปแค่ 2,000 กิโลเมตรเท่านั้น
ในขณะที่สื่ออังกฤษรายงานว่า ซึ่งเนื้อหาบางส่วนของข้อตกลงกล่าวว่า หมู่เกาะโซโลมอนอนุญาตให้เรือจีนสามารถเดินทางเข้ามาหยุดแวะพัก แต่รอยเตอร์กล่าวว่า รายละเอียดของสนธิสัญญายังคงถูกปิดเป็นความลับ ทว่า นายกรัฐมนตรีหมู่เกาะโซโลมอน มานาสเซห์ โซกาแวร์ (Manesseh Sogavare) ออกมาปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้จีนมาตั้งฐานทัพในประเทศโดยชี้ไปว่า การลงนามในข้อตกลงทางความมั่นคงกับปักกิ่งเป็นเพราะข้อตกลงเดิมที่มีอยู่กับออสเตรเลียนั้นไม่เพียงพอ
ซิซิโลยืนยันกับสถานีวิทยุออสเตรเลียว่า “พวกเราไม่ได้กำลังตีตัวออกห่างจากออสเตรเลีย แต่ต้องการเพิ่มความร่วมมือมากขึ้นกับจีน”
โซโลมอนปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาความช่วยเหลือต่างประเทศจาออสเตรเลีย แต่เริ่มพึ่งพาปักกิ่งมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ
แคนเบอร์ราเปิดวีซ่าทำงานจำนวน 3,000 คนภายใต้โครงการแรงงานให้พลเมืองโซโลมอนสามารถทำงานในดินแดนที่ห่างไกล
แต่ทว่าข้าหลวงใหญ่หมู่เกาะโซโลมอนประจำออสเตรเลียชี้ไปว่า จะเป็นสิ่งที่ดีมากหากว่าโครงการแรงงานนี้จะขยายครอบคลุมไปยังเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วออสเตรเลียที่มีการจ้างงานที่หลากหลาย เป็นต้นว่า ช่างประปา ช่างก่ออิฐ ผู้ให้การดูแลผู้สูงอายุ และคนทำงานในบ้าน