สหรัฐ-อังกฤษก็ช่วยไม่ได้! รัสเซียสั่งประหารทหารรับจ้าง ขณะบุคคลสำคัญนาโต้ ถูกจับอื้อ
จากกรณีที่ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีผู้นำยูเครน เผยว่า การอพยพพลเรือนที่อยู่ภายในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล ภายใต้การนำของสหประชาชาติและกาชาดสากล กระทำได้เพียงกว่า 100 คน ก็ต้องถูกระงับลงหลังจากทหารรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองมาริอูโปลอีกระลอกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประเมินกันว่า ยังคงเหลือพลเรือนตกค้างอยู่ภายในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลอีกหลายร้อยคน
ในขณะที่ทางด้าน นางอีรีนา เวเรสชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครนกล่าวว่า พลเรือนอีกหลายร้อยคนรวมทั้งนักรบที่ต่อสู้ป้องกันเมืองมาริอูโปลกำลังพบกับความหายนะด้านมนุษยธรรมเนื่องจากในเมืองมาริอูโปลนั้นขาดแคลนน้ำ อาหารและยารักษาโรคอย่างหนัก อย่างไรก็ดี เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์อิตาลีระบุ ผู้อพยพที่ออกมาจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลในเมืองมาริอูโปลนั้น ไม่ใช่มีแต่พลเรือน แต่มีทหารจากชาติตะวันตกและทหารรับจ้างปะปนมาด้วย
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ทหารรับจ้าง ชาวอังกฤษ 2 ราย ถูกดำเนินคดี โดยคณะอัยการโดเนตสก์ มีมติ 8-0 สั่งประหารชีวิต โดยอ้างอิงจากสำนักงานอัยการ สาธารณรัฐโดเนตสก์ รัสเซีย ระบุว่า
ตามที่รัสเซีย ได้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ปลดปล่อยชาวสลาฟ เชื้อสายรัสเซีย ออกจากการปกครองของยูเครน ให้เป็นอิสระจากการกดขี่ของรัฐบาลกลางยูเครน และกองพัน Azov NATO ที่มีชาวต่างชาติราว 22 ชาติ และชาวยูเครน เป็นกองกำลังผสมนี้ แม้จะมีอาวุธหนักรถถัง ขีปนาวุธต่อต้านอากาศ จรวด เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบ ฯลฯ แต่สายบังคับบัญชามีรูปแบบพิเศษ ไม่ขึ้นกับกองทัพยูเครน แต่ขึ้นกับหน่วยข่าวกรองกลางยูเครน และประธานาธิบดีมีอำนาจสั่งการตรง
กองพัน Azov NATO นี้มีกองบัญชาการใหญ่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานเหล็กอาซอฟสตาล เมืองท่ามาริอูปัล ภายหลังปี 2015 โรงเรียนแห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็นกองบัญชาการใหญ่กองพัน Azov NATO มีกำลังพลจุดนี้ราว 8,100 คน โดยมีอุโมงค์ทางเชื่อมไต้ดินต่อกับห้องใต้ดินลึก 30 เมตร ในโรงงานเหล็กอาชอฟสตาลที่สร้างไว้สมัยยุคสหภาพโซเวียติ เพื่อหลบภัยอาวุธนิวเคลียร์ สามารถจุคนในห้องใต้ดินต่างๆ ที่ซับซ้อนได้ราว 40,000 คน
เมืองท่ามาริอูปัล จึงเป็นเสมือนฐานทัพโดยพฤตินัยอีกแห่งหนึ่งของ NATO ในยูเครน ที่จ่อประตูบ้านรัสเซียแค่ราว 120 กม.เท่านั้น ที่เมืองนี้จึงคราคร่ำไปด้วยทหารรับจ้างจากสหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา โปแลนด์ และชาติ NATO อื่นๆ จำนวนมาก การปกครองของเมืองนี้แม้จะมีนายกเทศมนตรี หรือหน่วยนาวิกโยธินยูเครน ก็ต้องอยู่ภายใต้การปกครองจากกองพัน Azov NATO พวกทหารต่างชาติพวกนี้จะถูกส่งไปรบในโดเนตสก์ ลูฮันสก์ และภูมิภาคดอนบาส มีชาวสลาฟเสียชีวิต จากอาวุธของ Azov ไปมากกว่า 14,000 ราย
เพราะสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะใช้พื้นที่นี้ตั้งฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ ระยะเวลายิงถึงมอสโกราว 5 นาที ทำให้รัสเซีย เตรียมการตอบโต้ได้ยากเพราะเวลาจำกัด เมื่อชาวสลาฟในดินแดนแถบนี้ทนกดขี่ไม่ไหว ก็ขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย ที่เป็นชาวสลาฟเหมือนกัน ลงประชามติแยกดินแดนเป็นสาธารณรัฐโดเนตสก์ และสาธารณรัฐลูฮันสก์ เป็นดินแดนปกครองตนเองส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย และมีกองทัพเป็นของตนเอง ที่โด่งดังคือกองพันโซมาเลีย ใช้อาวุธที่ยึดมาได้ทุกวันจากคลังอาวุธยูเครน และ NATO ที่รบในยูเครนตะวันออก และทางไต้อยู่ตอนนี้ ร่วมกับนักรบเชเชน
สาธารณรัฐโดเนตสก์ (DPR) จึงมีระบบกฎหมายเป็นของตนเอง สำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐนี้ มีอำนาจสูงสุดสามารถตัดสินพิพากษานักโทษได้เทียบเท่ากับศาลฏีกา (ศาลสูงสุด) แห่งสาธารณรัฐ ในกรณีเข้าสู่ภาวะสงคราม เมื่อทหารของโดเนตสก์ จับกุมตัวทหารรับจ้าง Azov ชาวอังกฤษได้ จึงถูกดำเนินคดีที่นี่ ล่าสุดคณะอัยการโดเนตสก์ มีมติ 8-0 สั่งประหารชีวิต สองทหารรับจ้างชาวอังกฤษนาย Aiden Eslin และ นาย Sean Pinner ในข้อหาก่ออาชญากรรมร้ายแรง ระหว่างการสู้รบในเมืองมารีอูปอล ภายใต้ประมวลกฏหมายอาญาทางทหารและสงครามมาตรา 64 แห่งสาธารณรัฐ โดยมีกองทัพสาธารณรัฐโดเนตสค์เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
แม้ว่าก่อนหน้านี้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร จะขอความเมตตาปราณีจากประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แต่รัสเซียไม่สนใจ ดังนั้นบุคคลสำคัญของ NATO พร้อมทหารรับจ้างสหรัฐ อังกฤษ มอร็อคโก และชาติอื่นๆ ที่ถูกจับไปก่อนหน้า และที่ยังเหลือหลบอยู่ในห้องใต้ดินใต้โรงงานเหล็กอาชอฟสตาลจำนวนมากรวมนักรบยูเครน 2,000 คนคงรู้ชะตากรรมว่าจะเจอกับอะไร แม้แต่สหรัฐ อังกฤษ ก็ช่วยไม่ได้ ชาวต่างชาติที่ไปรบในยูเครน ขอให้ครอบครัวทำใจว่าเป็นการเดินทาง Oneway ของชีวิตครั้งสุดท้ายของพวกเขา ไม่โดนขีปนาวุธถล่มก็โดนประหารชีวิตชดใช้สิ่งที่กระทำ ไม่มีใครลอยนวลกลับบ้านได้ง่ายๆ ถ้าจะสู้รัสเซีย
