จากกรณีองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ หลายประเทศเริ่มปฏิเสธคว่ำบาตรรัสเซีย โดยแอบซื้อน้ำมันมาใช้ รวมทั้งอาจเปลี่ยนขั้วย้ายข้างไปอยู่กับจีนด้วย ซึ่งมีความเคลื่อนไหวขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก หรือ โอเปกด้วยนั้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 02 พฤษภาคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ดังกล่าวไว้ในเฟซบุ๊กอย่างน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่า
“นาโต้แตกยับ 1 ประเทศนาโต้ถึง 14 ประเภท จาก 27 ประเทศ ได้ปฏิเสธการคว่ำบาตรที่ห้ามซื้อน้ำมันและแก๊สจากรัสเซีย และได้ซื้อเป็นเงินรูเบิลตามที่รัสเซียกำหนดเรียบร้อยไปแล้ว ในขณะที่อีกหลายประเทศก็แอบซื้อจากรัสเซีย และโดดไปซื้อจากอิหร่านด้วย
2 ประเทศนาโต้หลายประเทศ เริ่มยกเลิกการคว่ำบาตร โดยเฉพาะการร่วมกันส่งอาวุธไปช่วยยูเครนรบกับรัสเซียแล้ว ล่าสุดตุรกี ได้แปรพักตร์ จากนาโต้ไปจับมือกับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งขณะนี้ซาอุได้นำประเทศโอเปกเทนาโต้ และเปลี่ยนขั้วไปร่วมมือกับรัสเซียและจีนชนิดไม่หวนกลับอีกแล้ว
3 ประเทศนาโต้หลายประเทศ ทวงค่าอาวุธ จากสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้ส่งอาวุธไปช่วยยูเครนแต่ยังไม่ได้รับเงิน และเริ่มพากันเดือดแค่สหรัฐ ที่ผลักดันให้ประเทศนาโต้ส่งอาวุธให้ยูเครน แต่สหรัฐเอง ไม่ได้ให้การช่วยเหลือฟรี แต่ทุกจำนวนที่อ้างว่าช่วยเหลือนั้น มีการตีมูลค่าอาวุธเป็นค่าเงินและยูเครนต้องทำสัญญากู้เงิน ซื้ออาวุธเหล่านั้น
โดยล่าสุด สหรัฐแถลงว่าจะให้การช่วยเหลือแก่ยูเครนเป็นเงิน 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ความจริงคือ ตัวตลกต้องทำสัญญากู้กับสหรัฐ และนำเงินนั้นซื้ออาวุธจากบริษัทผู้ผลิตอาวุธของสหรัฐ แล้วผู้ขายอาวุธก็ส่งอาวุธไปให้กับยูเครน แต่ส่งเข้าไปแล้วก็ใช้ไม่ได้ เพราะถูกรัสเซียถล่มทำลายหรือไม่ก็เข้ายึดเอาไปดื้อๆ และทหารยูเครนก็เอาอาวุธเหล่านั้น ไปขายให้กับรัสเซียถูกๆ
มีการแฉ ทรัพย์สินของตัวตลก ว่ามีเงินมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีรายได้จากการแสดงตลกปีละไม่กี่หมื่นเหรียญ ส่อว่าจะหนีหอบเงินไปใช้ชีวิตในสหรัฐแบบเดียวกับอดีตประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน โดยคาดหมายว่าน่าจะไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
ดังนั้น สถานการณ์ล่าสุด ประเทศนาโต้จึงแตก และทะเลาะกันเละตุ้มเป๊ะ ต่างคนต่างเอาเปรียบแสวงหาประโยชน์อย่างเต็มที่ ในขณะที่ประชาชนในประเทศนาโต้กำลังลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาล ที่สร้างความเดือดร้อนทุกข์เข็ญให้กับประชาชนและเป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในยุโรปในขณะนี้”
ต่อมาในวันเดียวกันอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ ยังได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายของประเทศรัสเซียโดยโพสต์ลงในเฟซบุ๊กอีกว่า
“เป้าหมายสงครามของรัสเซีย ในสงครามยูเครน คือยึดพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก และมุ่งเน้น ยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์รอบทะเลดำ ไม่ให้ยูเครนและนาโต้เชื่อมต่อกับทะเลดำได้
ขณะนี้รัสเซียได้สถาปนาการบริหาร การปกครอง และจัดระบบการปกครองท้องถิ่น ในพื้นที่ยึดครองเรียบร้อยโดยทั่วไปแล้วและให้ใช้เงินรูเบิล ในพื้นที่ยึดครองเรียบร้อยแล้ว ส่วนยุทธการยึดพื้นที่ภาคกลางยูเครนตะวันออก ขณะนี้ทหารยูเครนกำลังทยอยมอบตัว คาดว่าอีกไม่เกิน 5 วันคงจบ
ล่าสุดการเจรจาสงบศึกเพื่อแบ่งยูเครนตะวันตก-ตะวันออกนั้น ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับพื้นที่เคอซอน เพราะรัสเซีย ต้องการพื้นที่เคอซอน ขึ้นไปจนถึงเมืองมาโคเลียฟและโอเดซาด้วย
ดังนั้นถ้าโปแลนด์ และนาโต้ ส่งทหารเข้ามาในยูเครนตะวันตก และ จะคุกคามต่อพื้นที่ดังกล่าวก็คงปะทะกับรัสเซียแน่นอน”หยุ่น-ว๊อย” ตื่นได้แล้ว มิตรรักแฟนเพลง เขาเอือมกันเต็มทีแล้ว”