กระแสความตึงเครียดทางทหาร ที่ดำรงอยู่ในดินแดนยูเครนมีแนวโน้มระอุเดือดมากขึ้น ในขณะเดียวกันสหรัฐและนาโต้ได้ขยายวงมายังเอเชีย-แปซิฟิกอย่างจงใจ เรียกร้องให้เพิ่มบทบาทนาโต้ในเอเชียมากขึ้น และพุ่งเป้าต่อต้านจีนอย่างเปิดเผย
ปักกิ่งไม่สนข้อกล่าวหาของสหรัฐฯที่ประณามจีน ไม่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย ตอบโต้กลับชี้ให้ส่องกระจกดูตัวเองว่า วอชิงตันก่ออาชญากรรมสงครามและบีบบังคับโลกมาต่อเนื่อง เช่นการแทรกแซงรุกรานในตะวันออกกลางและอีกหลายประเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังแฉอีกว่า เป้าหมายของสหรัฐในยูเครน ต้องการให้ความขัดแย้งยืดเยื้อและทำให้รัสเซียอ่อนแอ ขณะล่าสุดพยายามลากเอเชีย-แปซิฟิกให้ร้อนระอุไม่ต่างจากกรณียูเครน พร้อมตอกย้ำสหรัฐฯ ห้ามส่งอาวุธไปไต้หวันไม่จบสิ้น ประกาศพร้อมตอบโต้การแทรกแซงจากต่างชาติอย่างถึงที่สุด
วันที่ 29 เม.ย.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และสปุ๊ตนิกรายงานว่าหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาโวยสหรัฐฯและนาโต้ ฐานวิพากษ์วิจารณ์นโยบายภายในประเทศและต่างประเทศ หวังระบุว่า วอชิงตันก่ออาชญากรรมสงครามในตะวันออกกลาง มีพฤติกรรมบีบบังคับทางเศรษฐกิจ ทรยศต่อพันธมิตร และเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง
หวังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ โดยกล่าวถึงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในอดีตยูโกสลาเวีย อัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรียาเขากล่าวว่า “สหรัฐฯ อ้างว่าจะรักษาความเป็นศูนย์กลางของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่ก็เป็นที่ชัดเจนสำหรับทุกคนว่าสหรัฐฯ กำลังทำตรงกันข้าม วอชิงตัน ไม่เคยสนกฎของสหประชาชาติและทำสงครามกับรัฐอธิปไตยด้วยการแทรกแซงอย่างป่าเถื่อน”
เขากล่าวเสริมว่า “สหรัฐฯ อ้างว่าเคารพสิทธิมนุษยชน แต่สงครามการรุกรานโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วกว่า 300,000 คน และทำให้มีผู้อพยพกว่า 26 ล้านคน” “ยังไม่มีใครรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ สหรัฐฯ ยังประกาศคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งจะสอบสวนอาชญากรรมสงครามของกองทัพสหรัฐฯเอง”
นอกเหนือจากการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศระดับสูงจำนวนหนึ่งในปี 2020 แล้ว สหรัฐฯ ยังคงออกกฎหมาย “พระราชบัญญัติการบุกรุกกรุงเฮก” ซึ่งอนุญาตให้ทหารบุกเนเธอร์แลนด์เพื่อปลดปล่อยชาวอเมริกันที่ถูกจับในศาลได้
ในขณะเดียวกัน จ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 1กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถึงวิกฤตยูเครน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “ในห้วงเวลานี้ สหรัฐฯไม่ได้สนใจสันติภาพในยูเครน แต่กลับทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ความขัดแย้งในประเทศนี้ยาวนานที่สุด “ในขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศกำลังเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ สหรัฐฯ ยังคงเติมเชื้อเพลิงให้กับกองไฟและแสดงความพร้อมที่จะต่อสู้จนถึงยูเครนคนสุดท้าย” จ้าวยืนกรานถึงหลักฐานที่สะท้อนจุดประสงค์ของสหรัฐ โดยให้ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่อง และการส่งมอบอาวุธจากวอชิงตันไปยังเคียฟไม่หยุด
จ้าวย้ำว่า “เป้าหมายที่แท้จริงของสหรัฐฯไม่ใช่การบรรลุสันติภาพ แต่ต้องทำให้แน่ใจว่าความขัดแย้งจะดำเนินต่อไป อย่างที่ชาวอเมริกันพูดเอง พวกเขาต้องการทำให้รัสเซียอ่อนแอลง”
ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตันตอบโต้สหรัฐฯระบุว่า จะต้องหยุดส่งอาวุธให้กับไต้หวัน พร้อมเสริมว่าปักกิ่งขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้กรณีต่างชาติเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์บนเกาะแห่งนี้ ปักกิ่งถือว่าไทเปเป็นส่วนที่แบ่งแยกไม่ได้ในอาณาเขตของตนและเป็นจังหวัดที่แตกแยก ซึ่งสักวันหนึ่งจะต้องกลับมารวมตัวกับแผ่นดินใหญ่อย่างไม่อาจปฏิเสธได้
หลิว เผิงหยู โฆษกสถานเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่าปักกิ่งขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อตอบโต้การแทรกแซงจากกองกำลังต่างประเทศและ “กลุ่มผู้แบ่งแยกดินแดน” ในกระบวนการรวมเกาะกับแผ่นดินใหญ่อย่างถึงที่สุด
หลิวเน้นว่าปักกิ่งจะไม่ละเว้นความพยายามใดๆ เพื่อให้บรรลุการรวมไต้หวันกับจีนอย่างสันติ ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมของจีนกล่าวว่าจีนได้ให้คำมั่นต่อ กระบวนการกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่ของเกาะอย่างสันติ แต่จะไม่ยอมให้แยกตัวเป็นเอกราช
หลิวกล่าวว่า “สหรัฐฯ และไต้หวันได้สมรู้ร่วมคิดกัน และบางคนจงใจวาดเส้นขนานระหว่างไต้หวันกับยูเครน ถึงแม้ว่าข้อเท็จจริงทั้ง 2 กรณีแตกต่างกันโดยพื้นฐาน เป้าหมายของการเปรียบเทียบดังกล่าวคือการหลอกลวงประชาชนและแสวงหากำไรจากประเด็นดังกล่าว”
