สหรัฐช็อค! ผู้นำตุรกี พบกษัตริย์ซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์ชาติมุสลิม ไม่สนคำขู่! อเมริกาหมดราคา บังคับปท.อื่นไม่ได้แล้ว

2160

สหรัฐช็อค! ผู้นำตุรกี พบกษัตริย์ซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์ชาติมุสลิม ไม่สนคำขู่! อเมริกาหมดราคา บังคับปท.อื่นไม่ได้แล้ว

จากกรณีที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวว่าโลกกำลังอยู่ใน “จุดเปลี่ยน” ซึ่ง “เกิดขึ้นทุกสามหรือสี่ชั่วอายุคน” และขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกาในฐานะผู็ที่ชี้ขาดผลลัพธ์ของจุดเปลี่ยนนี้ เขากล่าวต่อไปว่า “ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตไป แต่ไม่มีช่วงไหนใกล้เคียงกับความโกลาหล แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป มันกำลังจะมีระเบียบโลกใหม่ และเราจะเป็นผู้นำ (ระเบียบโลก) เราจำเป็นต้องสร้างเอกภาพของประเทศโลกเสรีในการทำเช่นนี้”

ทั้งนี้ ระเบียบโลกใหม่ หมายถึงการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอำนาจในการชี้นำ “เทรนด์” เช่น คุณค่า ค่านิยม แนวคิดทางการเมือง ระเบอบการเมืองของโลก เหมือนที่ไบเดนกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องสร้างเอกภาพของประเทศโลกเสรีในการทำเช่นนี้” นั่นคือระเบียบโลกใหม่จำเป็นต้องชี้นำโดยประเทศโลกเสรีที่นำโดยสหรัฐ

ล่าสุดเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ระเบียบโลกเก่าสหรัฐพังยับ ยิ่งห้ามชาติใดยิ่งยุ ตุรกี ซาอุฯ อินเดีย เมินไม่สนคำขู่ อ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า

ระเบียบโลกเก่า ที่สหรัฐ อังกฤษ ตั้งกฎไว้หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ข้อแรกคือ สหรัฐ และพวกถูกเสมอ ข้อสองถ้าสหรัฐและพวกผิด ให้กลับใช้ข้อแรก เพื่อเป้าหมายการครองอาหาร ครองพลัง ครองเงินตรา ครองทรัพยากรต่างๆ ทุกมุมโลก มาเป็นของชนเผ่าแองโกลแซกซัน ที่เคยตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักร แล้วลูกหลานไปยึดดินแดนชนเผ่าอินเดียนแดงตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา สูบทรัพยากรทุกมุมโลกจากชาติอาณานิคมมาเป็นของตน
ราดน้ำมันจุดกองเพลิงสงครามกองใหญ่ กองเล็กไปทั่วโลกเสมอมาไม่เคยได้ขาด แต่โลกก็ได้สร้างสมดุลชนเผ่าสลาฟ ที่เป็นน้ำดับไฟขึ้นมา ทำให้พวกชนเผ่าไฟแองโกลแซกซัน กับ ชนเผ่าน้ำสลาฟ รบพุ่งกันมาตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ เมื่อต่างชนเผ่ามีลูกหลานมากขึ้น สงครามก็ขยายใหญ่มากขึ้น จนเกิดจุดเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ขึ้นในพื้นที่รอยต่อของพวก 2 เผ่านี้คือ ยุโรป กลาง และตะวันออก ลามไปตะวันออกกลาง เอเซีย มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 100 ล้านคน
ชนเผ่าแองโกลแซกซัน ครองโลกมานานหลายทศวรรษ สูบทรัพยากรชาวโลกไปหาความสุขสบายให้พวกตนจนสิ้น สร้างความไม่พอใจให้ชนเผ่าสลาฟ กับ ชาวจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง แต่ชนเผ่าสลาฟรัสเซียนั้นแข็งแกร่งมาช้านาน จึงจับมือกับชาวจีน ประกาศ “จัดระเบียบโลกใหม่” ที่เป็นธรรม และมีหลายขั้วอำนาจ ทำให้ชาวเอเซียอินเดีย ชาวอาหรับตะวันออกกลางอดีตอาณาจักรออตโตมัน ที่ถูกพวกแองโกลแซกซันกดขี่มานาน กระโดดออกมาจากมุมเข้าร่วมกับสลาฟรัสเซีย และจีน ทันที ก่อการแข็งข้อต่อชาวตะวันตก
ล่าสุดชาติมหาอำนาจมุสลิมจักรวรรดิออตโตมัน ผู้คุมช่องแคบทางเข้าออกทะเลดำคือ ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน แห่งตุรกีหนึ่งในชาติ NATO ได้เดินทางไปเยือนและเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด แห่งซาอุดิอาระเบีย ซุปเปอร์ยักษ์กลุ่มผลิตน้ำมันโอเปค มหาอำนาจมุสลิมน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก สร้างความตกตะลึงให้สหรัฐเป็นอย่างมาก เพราะสหรัฐได้ปั่นให้ตุรกี ตัดขาดความสัมพันธ์กับซาอุฯ มานานหลายปีแล้วตั้งแต่สายลับสหรัฐ นายจามาล คาช็อคกี ถูกซาอุฯ พากลับบ้านเก่าคากรุงอิสตัลบูล ตุรกี เนื่องจากเกี่ยวพันการก่อการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ซาอุฯ
การฟื้นคื้นความสัมพันธ์ของชาติมุสลิมยักษ์ใหญ่ โดยมีประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย จีน และชาติมุสลิมในตะวันออกกลางประสานลับๆ มานาน ส่งผลให้ตุรกี ส่งตัวชายชาวซาอุฯ 26 ​​คน ที่พัวพันกับการอุ้มนายคาช็อกกี ย้ายไปยังศาลในซาอุฯ การเดินทางของผู้นำตุรกี ไปเยือนราชวงศ์ซาอุฯ และกษัตริย์ทรงมาต้อนรับด้วยพระองศ์เอง ทำให้สหรัฐ ถึงกับอึ้งไปไม่เป็น เพราะบรรดาชาติมุสลิมแทบทุกชาติในตะวันออกกลางกลับมาฟื้นความสัมพันธ์กันแทบหมดเหมือนคราอาณาจักรออตโตมันรุ่งเรือง และอิสราเอล จะมีอันตรายอย่างยิ่ง เพราะชาวอาหรับกำลังเกิดกระแสไม่พอใจที่รัฐบาลยิวทำร้ายชาวมุสลิมขณะทำพิธีทางศาสนาในมัสยิดบาดเจ็บกว่า 130 คน
อีกชาติคือ บังอินเดีย จอมดื้อเงียบที่เติบโตทางเศรษฐกิจ และอาวุธเร็วมากจากความช่วยเหลือของรัสเซีย แม้ว่าสหรัฐและพวกจะคว่ำบาตรอิหร่าน และรัสเซีย ทางอินเดียก็ไม่สนใจ สั่งซื้อน้ำมัน และสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ อุตสาหกรรมในอินเดียขยายตัว มีความต้องการน้ำมันดิบ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (150 ล้านบาร์เรลต่อเดือน) เป็นการนำเข้ามากกว่า 85% ของบริษัทโรงกลั่นของอินเดีย เช่น Indian Oil Corp , Bharat Petroleum Corp , Hindustan Petroleum Corp โดยเจรจาขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียแบบ “มีเท่าไรเอาหมด”
โดยต้องการน้ำมันจากรัสเซียบิ๊กล็อตมากถึง 13 ล้านบาร์เรลต่อเดือน แยกเป็น บริษัท IOC 6 ล้าน, BPCL 4 ล้าน และ HPCL 3 ล้านบาร์เรลต่อเดือนตามลำดับ และยังเจรจาหาทางเลือกอื่นอีก 3 ล้านบาร์เรลต่อเดือน โดยนายฮาร์ดีป ซิงห์ ปูริ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอินเดียกล่าวว่า การซื้อน้ำมันรัสเซียดังกล่าวเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความต้องการโดยรวมของอินเดียเท่านั้นเอง ลำพังแค่รัสเซีย ขายน้ำมันให้กับผู้ซื้อรายใหญ่เงินหนาอย่างจีน และอินเดีย ที่ขอเหมาหมดเต็มกำลังผลิต รัสเซีย ก็ไม่จำเป็นต้องส่งขายน้ำมันให้ยุโรปเลยสักหยด เพื่อเสียเวลาวางบิลเก็บเงินรายย่อยเบี้ยหัวแตก
การซื้อขายพลังงานน้ำมันยุคระเบียบโลกใหม่ฝ่ายตะวันออก ก็ไม่มีใครสนใจชำระด้วยเงินดอลลาห์ หรือยูโร แบบที่ชาติตะวันตกบังคับมาตลอด แต่สามารถชำระเป็นเงินหยวน รูเบิล รูปี หรืออะไรก็ได้อย่างอิสระตามแต่จะตกลงกัน ขาดจีน และรัสเซีย แหล่งสินค้า แหล่งทรัพยากรทุกชนิด ชาวโลกจะอยู่ยาก แต่ขาดสหรัฐ และยุโรป ชาวโลกก็อยู่กันได้ไม่กระทบอะไรสงบดีเสียอีกด้วย สังคมโลกกำลังมองข้ามหัวสหรัฐ และยุโรป “เสมือนความว่างเปล่าที่ไร้คุณค่าไร้ราคา” สั่งใครก็ไม่ได้ดั่งใจเหมือนเดิมอีกแล้ว ระเบียบโลกเก่าก็พังแล้ว , “ไม่มี NATO โลกอีกแล้ว” , สหรัฐอยากจะตะโกนขู่ใครก็ตามสบาย ไม่มีใครสนใจฟังเสียงแหบพร่าใกล้หมดแรงอีกแล้ว มีแต่แห่ไปทวงหนี้ว่าเมื่อไรจะจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นเป็นหยวน รูเบิล หรือทองคำคืนมาสักที