เปิดผลสำรวจ“สีจิ้นผิง-ปูติน”คะแนนนิยมสูงเกือบ 100% ไบเดนเหลือ33% รัสเซียจี้UNย้ายออกจากสหรัฐ

1405

จากที่สถานการณ์ในยูเครนยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางการจับตาของสังคมโลก ปรากฏว่าในขณะเดียวกันได้มีการสำรวจคะแนนความนิยมของผู้นำภายในประเทศมหาอำนาจไว้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความถึงการเคลื่อนไหวของเลขาธิการสหประชาชาติถึงพฤติกรรม ซึ่งประชาชนทั่วโลกควรรับรู้ว่า

“เลขาธิการสหประชาชาติมีพฤติกรรมที่ชัดเจนประการหนึ่ง กล่าวคือ ๑.เมื่ออิสราเอลส่งเครื่องบินถล่มปาเลสไตน์ซึ่งยังทำอยู่จนทุกวันนี้

๒.เมื่ออิสราเอลส่งเครื่องบินถล่มซีเรีย ซึ่งยังทำอยู่จนทุกวันนี้ ๓.เมื่ออิสราเอลส่งเครื่องบินละเมิดน่านฟ้าเลบานอน และไม่เคยสนใจมติสหประชาชาติเลย ซึ่งยังทำอยู่จนทุกวันนี้

๔.เมื่ออเมริกาส่งทหารเข้าไปรุกรานอิรัก ซึ่งยังทำอยู่จนทุกวันนี้ ๕.เมื่ออเมริกาส่งทหารเข้าไปรุกรานซีเรีย ยึดบ่อน้ำมันซีเรียจนถึงเดี๋ยวนี้และสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายป่วนซีเรีย ซึ่งยังทำอยู่จนทุกวันนี้

๖.เมื่ออเมริกา อิสราเอลและอังกฤษสนับสนุนซาอุฯ ให้รุกรานเยเมน ๗.เมื่ออเมริการุกรานอาฟกานิสถาน

๘.เมื่ออเมริกาส่ง CIA ไปจัดตั้งสงครามพันทางไล่ประธานาธิบดียูเครนที่มาจากการเลือกตั้งลงจากตำแหน่งแล้วตั้งหุ่นเชิดตนเองแทนเป็นผู้นำมาจนบัดนี้ แถมสังหารประชาชนยูเครนจำนวนมากเมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๗

ไม่เห็นข่าวเลขาธิการสหประชาชาติเร่งงรุดเดินทางไปตรวจสอบเพื่อหาทางเอาผิดประเทศที่ละเมิดอธิปไตยประเทศอื่นเลย แต่พอรัสเซียส่งทหารเข้าไปกวาดล้างในยูเครนที่เข่นฆ่าชาวรัสเซียในยูเครนมาไม่น้อยกว่า ๘ ปีและเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียโดยตรง กลับเต้นเป็นผีเข้า

Russian President Vladimir Putin and his Chinese counterpart Xi Jinping shake hands after their talks at the Kremlin in Moscow on June 5, 2019. (Photo by Alexey DRUZHININ / SPUTNIK / AFP)

บทบาทเลขาธิการสหประชาชาติไม่มีประโยชน์ที่สาธุชนจะไปสนใจใดๆ เลย ทำงานด้วยความลำเอียง ไม่ต่างอะไรจากสื่อกระแสหลักที่นำเสนอข่าวต่างประเทศของไทย ต้องย้ายสำนักงานใหญ่สหประชาชาติออกไปจากกรุงนิวยอร์คของอเมริกาตามข้อเสนอของรัสเซียเสีย น่าจะดีขึ้น”

ล่าสุดวันนี้ 29 เมษายน 2565 นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจเกี่ยวกับผลสำรวจคะแนนนิยมของผู้นำสามชาติมหาอำนาจว่า

“ความนิยมของประชาชนภายในประเทศล่าสุดในขณะนี้ สีจิ้นผิง 95% ขึ้นไป วลาดิเมียร์ ปูติน 83% ส่วนโจ ไบเดน 33 %”

อย่างไรก็ตามเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2565 ได้มีการเผยแพร่ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ระบุ คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลดลง 3 จุด จากสัปดาห์ก่อน แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 40% ในสัปดาห์นี้

โดยผลสำรวจทั่วประเทศ ดังกล่าวพบว่า มีชาวอเมริกันถึง 54% ไม่พอใจการทำงานของประธานาธิบดีไบเดน เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูง ประกอบกับกรณีรัสเซียบุกยูเครนที่ทำให้เกิดความวิตกด้านภูมิรัฐศาสตร์ ผู้ตอบแบบสำรวจยกให้เรื่องเศรษฐกิจเป็นข้อกังวลที่สำคัญที่สุด ตามด้วยเรื่องสงคราม และปัญหาความขัดแย้งในต่างประเทศ

คะแนนนิยมของประธานาธิบดีไบเดน เริ่มร่วงลงในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2564 หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และเกิดความวุ่นวายจากการสั่งถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นทางออนไลน์เป็นภาษาอังกฤษระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคม 2565 โดยสำรวจชาวอเมริกันจำนวน 1,005 คน