ข่าวกรองรัสเซีย บุกจับ สายลับสหรัฐฯ-ยุโรป สารภาพสิ้น ส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวให้ต่างชาติ พบหลักฐานอื้อ!
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งปลดสายลับในหน่วย “Fifth Service” ซึ่งเป็นสาขาข่าวกรองต่างประเทศของของสำนักความมั่นคงกลาง (FSB) ไปถึง 150 คน ส่วนผู้บัญชาการคือ พลเอกอาวุโสเซอร์เก เบเซดา วัย 68 ปี ถูกส่งเข้าเรือนจำเลฟอร์โตโว ในกรุงมอสโคว์ ที่เคยถูกใช้ในการสอบสวนและทรมานนักโทษในยุคสตาลินอดีตผู้นำโซเวียต ในความผิดฐาน “รายงานข้อมูลอันเป็นเท็จต่อทำเนียบเครมลิน เกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริงในยูเครนก่อนการบุก”
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีข่าวกรองรัสเซียบุกจับสายลับสหรัฐ ยุโรป ผู้ก่อการร้าย ISIS และ Azov NATO โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า
ในยุคสหภาพโซเวียติ มีหน่วยสืบราชการลับ คือ KGB ซึ่งประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เริ่มงานสายลับที่นั่น และเขาถูกส่งไปปฏิบัติงานในเยอรมนีตะวันออก นานหลายปี ต่อมาเมื่อสหภาพโซเวียติ ล่มสลาย เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สลับกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนานต่อเนื่องกว่า 22 ปี จึงพัฒนามาเป็นสำนักข่าวกรองกลางรัฐบาลรัสเซีย FSB มีอำนาจหน้าที่ และเครื่องมือกว้างขวาง ฝีมือปฏิบัติการเฉียบขาด และที่ผ่านมาไม่ค่อยมีพวกก่อการร้ายไปยุ่งในอาณาเขตรัสเซียมากนักเพราะกลัวการสอบสวนสไตล์รัสเซียถ้าถูกจับได้
ช่วงนี้นอกจากฝ่าย NATO จะหลอกใช้ยูเครนเป็นสนามรบกับรัสเซีย จนมีชาวยูเครนกลายเป็นผู้อพยพกว่า 10.2 ล้านคนไปยังโปแลนด์ ต่อไปยังประเทศอื่น ยังมีชาวยูเครน อพยพเข้าไปในเขตรัสเซียกว่า 1 ล้านคน เป็นช่องทางให้ NATO ส่งผู้ก่อการร้ายและสายลับแทรกซึมเข้ารัสเซียได้ง่ายกว่าเดิม โดยเข้าไปก่อวินาศกรรมเส้นทางรถไฟ หรือสถานที่จัดเก็บพลังงาน โรงงาน ก่อกวนความสงบในรัสเซีย ทำให้หน่วย FSB ต้องปฏิบัติการถี่รัวๆ
โดยบุกจับเจ้าหน้าที่องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe : OSCE) เป็นองค์การด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิก 57 ประเทศ หนึ่งในนั้นมีรัสเซียอยู่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่รัสเซียบางคน เกลือเป็นหนอน เป็นสายลับให้ OSCE เสียเอง จึงถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษสำนักข่าวกรองกลางรัสเซีย FSB และหน่วยเสปซนาส บุกจับคาบ้านพักแห่งหนึ่ง หลังสำนัก FSB พบว่าเขาได้ลักลอบส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวของรัฐบาลและกองทัพรัสเซียไปยังหน่วยข่าวกรองต่างชาติ
เขารับสารภาพว่าได้ส่งข้อมูลลับการเคลื่อนไหวของรัสเซีย ไปยังหน่วยข่าวกรองต่างประเทศในยุโรปจริงตามข้อกล่าวหา โดยหนึ่งในนั้นคือ “สหรัฐ” ด้วย และพบหลักฐานมากมายในระบบคอมพิวเตอร์เขา , หน่วย FSB ของรัสเซีย ยังสามารถบุกจับผู้ก่อการ ISIS ของ NATO ได้อีกหลายคน ที่เตรียมก่อวินาศกรรมจุดชนวนระเบิดที่สถานีรถไฟในเขต Stavropol ของประเทศ สามารถยึดวัตถุและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ซื้อโดยเขาเพื่อผลิตระเบิดแสวงเครื่อง , หน่วย FSB ของรัสเซีย ยังตระเวณบุกจับกุมนักรบ Azov ชาวยูเครน ตามคำสั่ง NATO ที่วางแผนจะลอบสังหารนักข่าวชาวรัสเซียหลายคนที่เอาข้อเท็จจริงการสังหารหมู่ประชาชน และความโหดร้ายของพวก Azov ในยูเครน มาเปิดเผยต่อชาวโลกอีกด้วย
สหรัฐ มีอาวุธสุดล้ำ สู้ตรงๆ ซึ่งหน้าในสงครามเวียดนาม อัฟกานิสถาน ก็แพ้หลุดหลุ่ย อพยพเสื่อผืนหมอนใบหนีตายจ้าละหวั่น จะลงสนามรบในยูเครน ก็กลัวแพ้กระจุยอีก ก็ต้องคอยส่งอาวุธราดน้ำมันบนกองไฟไม่ให้ดับต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ายูเครนสู้ไม่ไหวแน่ ก็ตอดเล็กตอดน้อย ส่งสายลับไปเอาข่าวรัสเซียมา แล้วส่งพวกผู้ก่อการร้าย ISIS , Azov เด็กในคอนโทรล ไปก่อวินาศกรรมก่อกวนในเขตแดนรัสเซีย เพื่อยั่วยุ ท้ามายิงขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่กัน..จะไหวเร้อ นักเลงชราจะกดปุ่มยิงนิวเคลียร์ถูกไหมเนี่ย
