Truthforyou

นาโต้-สหรัฐจุก! เซเลนสกี สารภาพถูกรัสเซียยึดแล้วกว่า 1,000 เมือง ขณะอเมริกา รับไม่ได้ส่งเครื่องบินให้-มีให้แค่อะไหล่

นาโต้-สหรัฐจุก! เซเลนสกี สารภาพถูกรัสเซียยึดแล้วกว่า 1,000 เมือง ขณะอเมริกา รับไม่ได้ส่งเครื่องบินให้-มีให้แค่อะไหล่

จากกรณีที่กองทัพรัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่า ได้เข้ายึดโรงงานผลิตเหล็กกล้า “อาซอฟสตัล” (Azovstal) ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายของเมือง “มารีอูปอล” ที่ยังมีกองกำลังทหารยูเครนกว่า 2,500 นายประจำการ หลังรัสเซียยื่นข้อเสนอให้กองกำลังยูเครนที่อยู่ใน “อาซอฟสตัล” ยอมจำนนและขีดเส้นตายเป็นวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา

โดยกองทัพรัสเซีย ยืนยันว่า จะเข้ายึดพื้นที่ดังกล่าวในวันนี้ หลังทางการยูเครน เสนอเปิดเจรจานัดพิเศษกับรัสเซียที่เมืองดังกล่าว เพื่ออพยพกองทหารและพลเรือนที่หลบซ่อนอยู่ในโรงงานแห่งนี้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองทัพรัสเซีย ยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดใส่เมือง “มารีอูปอล” อย่างต่อเนื่อง แม้จะยังอยู่ในช่วงการเจรจากับทางยูเครน เพื่ออพยพประชาชน ราว 100,000 คน และทหารที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเมืองดังกล่าว

ทั้งนี้ หากรัสเซียสามารถเข้ายึดครองได้ จะทำให้เมือง “มาริอูปอล” กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ที่รัสเซียเข้ายึดครอง นับตั้งแต่บุกรุกรานยูเครน

อย่างไรก็ตาม ทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยูเครนได้ออกมายอมรับว่า ถูกรัสเซีย ยึดเมืองไปแล้วกว่า 1,000 เมือง โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์และกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า

ประธานาธิบดี เซเลนสกี แห่งยูเครน ยังคงยึดมั่นในนโยบาย “ไม่ทำกิน แบมือขอ รอของแจก” จากฝ่าย NATO และ EU ต่อไป โดยเขาวิดีโอคอลออนไลน์ถึงรัฐสภาโปรตุเกสว่า ยูเครนต้องการอาวุธหนักมากขึ้น เพื่อสู้กับรัสเซีย ณ วันนี้ยูเครนถูกรัสเซียยึดครองไปแล้วมากกว่า 1,000 เมือง (เทียบคือเทศบาล ขึ้นกับภูมิภาคอีกทีเพราะไม่มีจังหวัด) ด้านสหรัฐ ก็รับสารภาพเช่นกันว่า ไม่สามารถส่งเครื่องบินทั้งลำให้ยูเครนได้ เพราะจะถูกกองทัพรัสเซียยิงตกหมด ทำได้เพียงส่ง “อะไหล่เครื่องบิน” ให้ทางยูเครนเอาไปซ่อมด้วยตนเองเท่านั้น และโรงงานซ่อมอากาศยานต่างๆ ก็โดนรัสเซียถล่มพังไปหมดแล้ว แต่ขอให้ทางยูเครนสู้ต่อไปชนะแน่นอน
เมืองท่ามาริอูปอล เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในทะเลอาชอฟ เป็นเมืองเอกของภูมิภาคโดเนตสค์ เป็นที่มั่นฐานหลัก หรือเมืองหลวงของกองพัน Azov NATO จึงมียุทโธปกรณ์หนักจำนวนมาก เช่น รถถัง , รถหุ้มเกราะ, จรวดหลายลำกล้อง Smerch และ Uragan , ปืนใหญ่อัตตาจร , ปืน ค. ระบบยิงจรวด Tochka-U จึงสามารถยิงถึงเมืองชายแดนรัสเซีย ที่มีระยะห่างแค่ 95 กม.ได้ แถมอุดมด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง เสบียงอาหาร โครงสร้างพื้นฐาน ห้องใต้ดินมั่นคงใต้โรงงานเหล็กอาชอฟสตาล รวมทั้งท่าเรือน้ำอุ่นใช้ได้ตลอดปี เรือเทียบท่าส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ
เมืองนี้พวก Azov ของ NATO มีจำนวนมากถึง 8,100 คน ทหารยูเครนอีกต่างหาก มีกลุ่มย่อยชื่อ OUN ที่หนุนโดยอิสราเอล พวกนี้กร่างมาก มีอำนาจเหนือกองทัพยูเครน สามารถสั่งการ และลงโทษทหารยูเครนได้ เป็นรัฐซ้อนรัฐ ตำรวจยูเครนยังไม่กล้าตอแยพวก Azov นี้ ช่วงที่นักรบโดเนสค์ เชเชน โดยการสนับสนุนทางอากาศจากกองทัพรัสเซีย รุกเข้าเมืองนี้ พวก Azov ได้ใช้อาคารที่พักอาศัยชาวบ้านเเป็นฐานที่มั่น รถหุ้มเกราะและปืนใหญ่ถูกติดตั้งไว้ระหว่างซอกอาคาร มี Sniper ที่ชั้นบน มีหน่วยติดอาวุธจี้จับชาวบ้านพาไปที่ชั้นกลางและชั้นใต้ดินเป็นเกราะโล่มนุษย์ ในทุกช่วงตึกของอาคาร
การรบในเมืองมาริอูปอลนี้ฝ่ายรัสเซีย จึงต้องเน้นไปที่ต้องช่วยตัวประกันออกมาจากอาคาร และห้องไต้ดินเป็นภาระกิจหลัก คู่ขนานกับพาพวกทหารรับจ้าง Azov ของ NATO ทำปุ๋ยไปกว่า 4,000 ราย ยอมจำนนถูกจับ 1,478 ราย จากข้อมูลการข่าวกลาโหมรัสเซียคาดว่ามีพวก Azov เหลือในโรงงานเหล็กอาขอฟสตาล หลบอยู่ในห้องใต้ดินต่างๆ กระจายหลายห้องรวม 2,000 คน มี พล.ต.Serhiy Volyna ผบ.กองพลน้อยนาวิกโยธินที่ 36 ยูเครนติดอยู่ภายใน เขาเป็นหนึ่งในพวก Azov ด้วย และสนิทกับนายเซเลนกี้ ผู้นำยูเครน มีนักวิทยาศาสตร์ หรือชาวบ้านพลเรือนถูกจับเป็นตัวประกันอีกราว 1,000 คน , มีพวก Azov บาดเจ็บราว 500 คน มีบุคคลสำคัญ NATO และชาวต่างชาติราวไม่เกิน 600 คน เป็นชาวตะวันตกทั้งหมด และมีฮาร์ดไดร์ฟข้อมูล ที่บุคคลสำคัญนำมาจากนิวยอร์ก
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศทางสถานีโทรทัศน์เพื่อยกย่องความสำเร็จของกองกำลังรัสเซียที่สามารถปลดปล่อยเมืองท่ามารีอูโปล ทางตอนใต้ได้แล้ว เว้นแค่อาณาเขตอุตสาหกรรมโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตอล ที่ถูกปิดล้อมไว้เฉยๆปล่อยให้ “มนุษย์ถ้ำ” ดื่มปัสสาวะและกินเนื้อกันเองจากความหิว หลังจากนักรบ Azov กว่า 1,478 นาย ยอมจำนนในเมืองมารีอูปอล พวกเขาให้การรับสารภาพเกี่ยวกับการกระทำ “อาชญากรรมสงคราม” ของกองทัพยูเครน โดยการ “สังหารหมู่ของพลเรือน ” ที่น่าสนใจมีนักรบ Azov ที่บาดเจ็บรายหนึ่งรับสารภาพว่า ” เขาได้รับคำสั่งให้ประหารชีวิตหมู่ชาวเมืองบูชา ชานกรุงเคียฟ 20 ราย ฐานสนับสนุนรัสเซีย” จากนั้นจึงเคลื่อนกำลังมาที่เมืองมาริอูปอล และยอมจำนนที่นี่
อีกรายคือ ร.ท.Vadim Bondarenko หัวหน้าฝ่ายสื่อสาร การจัดการผู้บังคับหมวดของกองปืนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของกองพลนาวิกโยธินที่ 36 อิสระ เขาได้ยืนยันว่า “ฝ่ายยูเครนมีการก่ออาชญากรรมสงครามกับพลเรือนในเมืองมาริอูปอลจริง” จากคำสั่งกองบัญชาการทหารยูเครน พลเรือนจำนวนมากถูกกลุ่มนักรบ Azov “จงใจสังหารบนถนนขณะเดินทางไปบ่อน้ำและแหล่งน้ำ”..”เขารับคำสั่งให้ตั้งด่านบนถนนในเมืองมาริอูปอล ด้านขวาของด่านเป็นกองพันนาวิกโยธินอิสระ 501 “นักรบยูเครนได้ยิงมั่วใส่พลเรือนที่ผ่านมา”
“พลเรือนกำลังเดินไปตามถนน พร้อมภาชนะใส่น้ำ และหีบห่อเพื่อหาอาหาร ทหารจากกองพันที่ 501 ยิงใส่พวกเขาทันที พลเรือนที่เสียชีวิตยังคงนอนเกลื่อนอยู่บนถนน” ร.ท.Vadim ไปถามว่า “ทำไมพวกเขาถึงยิงใส่พลเรือน” พวกทหารและนักรบ Azov บอกว่า “กำลังยิงใส่ผู้ชาย เพราะอาจเป็นทหารของสหพันธรัฐรัสเซียที่ปลอมตัวเป็นพลเรือน” ร.ท.Vadim ถามผู้ยิงเหล่านั้นว่า “รู้ได้อย่างไร?” แต่ไม่มีใครตอบคำถามของเขาได้

เฉพาะด่านจุดนี้จุดเดียว ช่วงกะเวลา 08.00 -14.00 น. แต่ละวัน “นักรบ Azov และทหารยูเครน ได้สังหารพลเรือน 8 – 9 คน” ยังไม่นับเวลาอื่น และด่านอื่นๆ ทั่วเมือง เขาให้การต่อว่า “เจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่สนใจสิ่งนี้ ระดับเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย” จึงพบหลุมฝังศพบริเวณพื้นที่หมู่บ้านแมนฮัช ห่าง 14.5 กม.ทางทิศตะวันตกของเมืองมาริอูปอล โดยหลุมฝังศพแถวแรกขุดช่วงวันที่ 23-26 มี.ค.65 จากนั้นในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา พบว่ามีหลุมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 หลุม ที่ถูกขุดขึ้นใหม่ ขณะนั้นกองทัพรัสเซีย ยังไม่ได้เข้าใกล้เมืองนี้..ให้คอยดูว่าจะมีสื่อตะวันตก และสื่อไทยโยนบาปให้รัสเซียทำอีกเหมือนเดิม
เพราะกองทัพรัสเซีย ออกจากเมืองบูชาไปนานแล้ว ฝ่ายยูเครนค่อยประหารชีวิตหมู่ประชาชนตามหลัง จากนั้นก็ประโคมข่าวว่ารัสเซียทำ , กองทัพรัสเซีย ยังไม่เข้าเมืองมาริอูปอลมา แต่ฝ่ายยูเครนสังหารหมู่พลเรือนไปก่อน ก็ประโคมข่าวว่ารัสเซียทำ , รัฐบาลยูเครนจับผู้นำฝ่ายค้านเพื่อแลกตัวกับบุคคลสำคัญ NATO ก็ทำเอง..เป็นสงครามที่แปลกประหลาดมาก..จึงไม่ต้องแปลกใจที่สื่อตะวันตกและสื่อไทยจะไม่กล้านำเสนอข่าวชาวเมืองมารีอูปอลทั้งหญิงชาย พากันออกจากบ้านมาแสดงความดีอกดีใจริมถนนโบกธง มอบดอกไม้
ให้การต้อนรับขับสู้กองทัพฝ่ายรัสเซีย ขอให้มาช่วยยึดเมือง และปลดปล่อยเขาจากยูเครนให้ที ซึ่งจะไม่เคยเห็นภาพแบบนี้ที่ชาวเมืองกล้าทำกับทหารยูเครนและนักรบ Azov เพราะคงโดนยิงประหารชีวิตริมถนนจนหมด เพื่อถ่ายภาพไปเคลมลงสื่อตะวันตก อ้างว่ารัสเซียทำ
Exit mobile version