กระหึ่มโลก!!จีนผงาดฟอรั่มเอเชีย กร้าวโลกต้องมีหลายขั้ว-ไม่ทิ้งใครลงทะเล ขณะช่วยศรีลังกา 31 ล้าน$ ฝ่าวิกฤต

1727

“สี จิ้นผิง” กล่าวเปิดการประชุมเอเชียฟอรั่มโป๋อ๋าว 2022 ย้ำ “โลกต้องมีหลายขั้วทุกชาติต้องร่วมมือ เสมือนลงเรือลำเดียวกัน ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด หากโยนใครก็ตามลงทะเล” ล่าสุดส่งมอบ เงินช่วยเหลือจำนวน 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับศรีลังกา ขณะที่ชาติตะวันตกเอาแต่ก่นด่าซ้ำเติมผลักดันให้ไปกู้จากไอเอ็มเอฟซึ่งแน่นอนต้องถูกขูดดอกเบี้ยและเงื่อนไขบีบคั้นสาระพัดซึ่งไทยเคยโดนมาก่อนแล้ว

เมื่อ 22 เม.ย.65 สำนักข่าวซีจีทีเอ็นและสเตรทไทมส์ รายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวในพิธีเปิดการประชุมประจำปี เอเชีย ฟอรั่ม โป๋อ๋าว (Boao Forum for Asia : BFA) ปี 2022 ว่า “เพื่อฝ่าม่านหมอกและโอบรับอนาคตที่สดใส ความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจากความร่วมมือ และวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”

สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า มนุษยชาติเป็นชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันซึ่งทุกคนลุกขึ้นและล้มลงด้วยกัน โดยเรียกร้องให้ทุกประเทศปฏิบัติเพื่อมุ่งเน้นไปที่สันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือแบบได้รับประโยชน์ร่วมกัน (win-win)

สี จิ้นผิง กล่าวเสริม“โลกต้องมุ่งไปในทิศทางของการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ก้าวไปสู่ความท้าทายและสร้างอนาคตที่สดใสผ่านความร่วมมือ” “ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเปรียบเสมือนผู้โดยสารบนเรือลำเดียวกัน ที่มีชะตากรรมเดียวกัน และเพื่อให้เรือแล่นฝ่าพายุไปสู่อนาคตที่สดใส ผู้โดยสารทุกคนต้องร่วมมือกัน และเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่ จะพยายามโยนใครก็ตามลงไปในทะเล”

นอกจานี้ผู้นำจีนยังเตือนว่า “การเลิกเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจและกลวิธีกดดัน เช่น การแยกห่วงโซ่อุปทานจะไม่ประสบความสำเร็จ และจีนต้องการเสนอความคิดริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลกซึ่งสนับสนุน “หลักการของความมั่นคงที่แบ่งแยกไม่ได้” 

“เราควรรักษาหลักการของการรักษาความปลอดภัยที่แบ่งแยกไม่ได้ สร้างสถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัยที่สมดุล มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน และต่อต้านการสร้างความมั่นคงของชาติบนพื้นฐานของความไม่มั่นคงของประเทศอื่นๆ”

สอดคล้องกับแนวคิดขอองรัสเซีย ที่ยืนกรานว่ารัฐบาลตะวันตกควรต้องเคารพข้อตกลงปี 2542 โดยยึดหลักการ “ความมั่นคงที่แบ่งแยกไม่ได้” ที่ไม่มีประเทศใดสามารถเสริมสร้างความมั่นคงของตนเองโดยแลกกับค่าใช้จ่ายของผู้อื่น

จีนและรัสเซียใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ และจีนปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งมอสโกเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษ” จีนตำหนิวิกฤตยูเครนต่อการขยายตัวของนาโต้ไปทางยุโรปตะวันออกมุ่งปิดล้อมรัสเซียโดยตรง

สีกล่าวว่าจำเป็นต้องมีความพยายามในการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่ยังกล่าวด้วยว่าเศรษฐกิจของจีนมีความยืดหยุ่นและแนวโน้มในระยะยาวยังไม่เปลี่ยนแปลง

วาทะกร้าวแกร่งและแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนของผู้นำจีน เกิดขึ้นในการประชุมประจำปี BFA 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย. ในอำเภอโป๋อ๋าว เมืองฉงไห่ มณฑลไห่หนาน ภายใต้ธีม “The World in COVID-19 & Beyond: Working Together for Global Development and Shared Future”

ล่าสุกดจีนได้ประกาศความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนเป็นจำนวนเงินประมาณ 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแก่ศรีลังกา ซึ่งอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศศรีลังกาเปิดเผยว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวขยายผ่านสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของจีน ซึ่งรวมถึงข้าว ยา วัตถุดิบในการผลิต และสิ่งจำเป็นอื่นๆ จำนวน 5,000 ตัน

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างจีแอล เพียริส (GL Peiris) รัฐมนตรีต่างประเทศศรีลังกาและนายกี่ เฉินหง (Qi Zhenhong)เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงโคลัมโบ 

นอกจากนี้มณฑลยูนนานของจีนยังได้ประกาศบริจาคบรรจุภัณฑ์อาหารมูลค่า 1.5 ล้านหยวน (315,000 ดอลลาร์สิงคโปร์) ให้แก่ศรีลังกา

ทั้งนี้ ศรีลังการ้องขอเงินกู้จากจีนเพิ่มอีก 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่องจากมีหนี้ต่างประเทศประมาณ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดแคลนเงินตราต่างประเทศเนื่องจากทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

ท่ามกลางความยากลำบาก การขาดแคลนอาหารและยาก่อให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนทั่วประเทศ ฝ่ายค้านและประชาชนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโคตาบายา ราชปักษา และน้องชาย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี นายมหินดา ราชปักษา ลาออก

ในขณะเดียวกันอินเดีย เพื่อนบ้านทางตอนเหนือของศรีลังกาได้ให้ความช่วยเหลือเชิงรุกในเชิงรุกไปพร้อมกันด้วยโดยความช่วยเหลือทางการเงิน 500 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อซื้อเชื้อเพลิง นอกเหนือจากเงินกู้ วงเงิน และการแลกเปลี่ยนสกุลเงินมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังได้ส่งน้ำตาล ข้าว และยามาหนุนช่วยทางเรือด้วย ประธานาธิบดีราชปักษาขอบคุณจีนและอินเดียสำหรับ “ความช่วยเหลืออันล้ำค่า” ท่ามกลางแรงกดดันของฝ่ายค้านและประเทศตะวันตก

ในภาวะยากลำบากของศรีลังกา สหรัฐและตะวันตกกลับวิพากษ์วิจารณ์ว่า ศรีลังกาล้มละลายเพราะเป็นหนี้จีนซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะศรีลังกากู้จากจีนน้อยกว่า ธนาคารเอดีบีของญี่ปุ่นมาก นั่นคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของศรีลังการคือญี่ปุ่น เมื่อประสบปัญหาตะวันตกก็ผลักดันศรีลังกาให้ไปกู้จากไอเอ็มเอฟ ขณะที่จีนและอินเดียยื่นมือเข้าช่วยทันท่วงที เปรียบเทียบพฤติกรรมแล้วรัฐบาลของศรีลังกาย่อมขอบคุณน้ำใจของเพื่อนบ้านตะวันออกมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่สถานภาพของรัฐบาลวันนี้ต้องเผชิญกับกระแสความไม่พอใจของสาธารณะชน จะฝ่าฟันไปได้หรือไม่คงต้องจับตาบทบาทของสหรัฐและตะวันตกกับฝ่ายค้านของศรีลังกาว่า จะแผลงฤทธิ์เดชอะไรต่อไปอีกบ้างและประชาชนศรีลังกาจะผ่านความยากลำบากครั้งนี้ในรูปแบบใด???