เซเลนสกีหัวเสีย! ท้า “ไบเดน-มาครง” มาเยือนดูสภาพยูเครน หลังชาติมหามิตรกลัว “ปูติน” เลือกไม่เข้าข้างตราหน้ารัสเซีย?

1056

หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกมาเปิดเผยว่า ทางยูเครนได้เชิญประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางเยือนยูเครน เพื่อดูด้วยตาของตนเองเกี่ยวกับหลักฐานกองกำลังรัสเซีย หลังจาก เอ็มมานูเอล มาครง หลีกเลี่ยงใช้คำนิยามดังกล่าวที่ไม่เหมาะสม

โดยเซเลนสกี ระบุว่า “ผมพูดกับเขาเมื่อวานนี้” เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นในวันศุกร์ (15 เม.ย.) ที่ผ่านมา แต่ออกอากาศในวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) “ผมบอกกับเขาไปว่า ผมต้องการให้เขาตระหนักว่านี่มันไม่ใช่สงคราม ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการล้างเผ่าพันธุ์ ผมเชิญเขามาตอนที่เขามีโอกาส เขาจะมาและได้พบเห็น และผมมั่นใจว่าเขาจะเข้าใจ”

เซเลนสกีเปิดเผยด้วยว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนยูเครนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แม้จนถึงตอนนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ายังไม่มีแผนทำเช่นนั้น แม้กระทั่ง มาครง กำลังหลีกเลี่ยงจากการใช้คำจำกัดความดังกล่าวในสงครามยูเครน ตามอย่าง ไบเดน เนื่องจากเกรงว่ามันจะส่งผลกระทบกับโอกาสสานสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียูเครนได้บอกว่า ท่าทีปฏิเสธของมาครง ต่อการใช้คำนิยมเป็นเรื่อง “เจ็บปวดอย่างมากสำหรับเรา”

มาครงกำลังอยู่ในศึกรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอันเผ็ดร้อน และเขาต้องต่อสู้ชิงชัยกับ มารีน เลอ แปน นักการเมืองขวาจัด สำหรับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน

 


ล่าสุดมีรายงานว่า บรรดาพวกผู้นำยุโรปทยอยเดินทางเยือนกรุงเคียฟมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน ในนั้นรวมถึง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่าเขาอยากเห็น ไบเดน เดินทางเยือนยูเครนเช่นกัน

หลังจากเดินทางเยือนบูชา เมืองของยูเครนที่ถูกทำลายล้าง พื้นที่ซึ่งพวกเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีพลเรือนจำนวนมากถูกยิงตายบนถนน จอห์นสัน กล่าวว่า เขาพบเห็นหลักฐานของเหตุสังหารหมู่โดยฝีมือทหารรัสเซีย “ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันไม่ห่างไกลจากคำว่าล้างเผ่าพันธุ์เท่าไหร่”

ในเรื่องความเป็นไปได้ที่ ไบเดน จะเดินทางเยือนยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนกี ให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่าเขาจะเดินทางมา แต่มันเป็นการตัดสินใจของเขา แน่นอน มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยด้วย แต่ผมคิดว่าเขาเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงควรเดินทางมาดูด้วยตนเอง” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยด้วยว่าพวกเขากำลังพิจารณาส่งผู้แทนทูตรายหนึ่งไปยังกรุงเคียฟ แต่สำหรับตอนนี้ยังคงปฏิเสธที่จะให้ประธานาธิบดีวัย 79 ปี เดินทางเยือนด้วยตนเอง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูเครน ก็ได้ต่อว่าผู้นำเยอรมนี ที่ปฏิเสธเรียกเหตุทำลายชีวิตผู้คนในยูเครน เป็นการ “ล้างเผ่าพันธุ์” ตามอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวไว้ แม้ประเทศดังกล่าวจะเป็นชาติมหามิตร ที่คอยช่วยเหลือยูเครน และอยู่เบื้องหลังเรื่องราวต่าง ๆ แต่ก็มีความเกรงกลัวต่ออิทธิพลของปูติน ผู้นำรัสเซียอยู่บ้าง เนื่องจากหลายประเทศ ยังต้องการสานสัมพันธ์กับรัสเซียในด้านอื่น ๆ อยู่