จากการเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพรัสเซียในยูเครน ภายหลังการเจรจาสันติภาพดูเหมือนว่าจะล้มเหลว รวมทั้งท่าทีของสหรัฐและพันธมิตรที่ยังคงเดินหน้าประกาศคว่ำบาตร ส่งผลภาวะน้ำมัน ก๊าซขนาดแคลนหลายประเทศนั้น!?!
ล่าสุดวันนี้ 17 เมษายน 2565 เพจเฟซบุ๊ฏ World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเผยแพร่ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้โดยระบุที่มา กลาโหมรัสเซีย และ EXQRUSSIA ซึ่งมีบางช่วงที่น่าสนใจว่า
“กองทัพรัสเซีย ถล่มเมืองหลวงยูเครนรอบใหม่ ใช้เทคโนโลยีหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคืนวันที่ 14-15 เม.ย.65 กองทัพรัสเซีย ได้ใช้ขีปนาวุธแม่นยำสูงถล่มโรงงานวีซาร์ ที่ผลิตขีปนาวุธในกรุงเคียฟ เมืองหลวง และโรงงานซ่อมขีปนาวุธทางตะวันตกของยูเครน
ที่ผ่านมากองทัพรัสเซียแถลงว่า ได้เว้นการโจมตีอาคารทำเนียบรัฐบาล กระทรวงกลาโหมไว้ แต่ภายหลังยูเครนปล่อยเฟคนิวส์ให้ร้ายรัสเซียไม่หยุด และยูเครน กับ NATO ยังส่งผู้ก่อการร้ายลักลอบเตรียมไปก่อวินาศกรรมในเขตแดนรัสเซีย แต่ถูกจับได้แล้วหลายคน
รวมทั้งรัสเซีย ยังใช้ระบบต่อต้านอากาศยาน S-400 สอยเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของยูเครนตก ขณะบินล้ำเข้าเขตแดนรัสเซีย เพื่อพยายามโจมตีผู้อยู่อาศัย หมู่บ้านในภูมิภาค Bryansk ต่อไปนี้ทางรัสเซีย ประกาศว่าจะพิจารณาถล่มอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ทางการบริหารประเทศยูเครน
รัสเซีย ยังใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ความเร็วเหนือเสียง Tu-22M3 ที่ใช้สำหรับ “ภารกิจล้างผลาญเท่านั้น” เวลาทิ้งระเบิดจะบินสูงมาก มีระบบอิเล็คทรอนิคป้องกันขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน จึงไม่สามารถโจมตีเครื่องบินชนิดนี้ได้ โดยบินมุ่งหน้าจากชานกรุงมอสโก รัสเซีย ไปยังยูเครน
พร้อมฝูงเครื่องบินขับไล่คุ้มกันขนาบข้างอีก 4 ลำ จัดงานมหรสพครึกครื้นอึกทึกครึกโครมอย่างรุนแรงที่โรงงานเหล็กอาชอฟสตาล เมืองท่ามาริอูโป ที่มีห้องไต้ดินลึกไป 30 เมตรเป็นห้องแลปชีวภาพ และมี “บุคคลสำคัญ” และนักรบ Azov Battalion ของ NATO หลบอยู่
บุคคลสำคัญชาวต่างชาติ ผู้บัญชาการระดับสูงอีกส่วนหนึ่ง ถูกกองทัพรัสเซีย หิ้วไปมอสโกแล้ว ทางการรัสเซียระบุว่า “จะเปิดเผยโฉมหน้าชาวต่างชาติเหล่านี้เมื่อขึ้นศาลรัสเซีย” ที่ผ่านมา สหรัฐ ฝรั่งเศส ออสเตรีย พยายามทั้งต่อสาย และเดินทางไปพบประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อขอให้ช่วยปล่อยตัว แต่ได้รับการปฏิเสธ และยืนยันว่าต้องขึ้นศาลรัสเซีย เพื่อ “รับโทษสูงสุด” อย่างเดียว ไม่มีการแลกตัวประกันสำหรับชาวต่างชาติ
กองทัพรัสเซียยังเริ่มใช้ระบบไฮเทค “เครื่องรบกวนสัญญานทรงพลัง Murmansk-BN” สามารถรบกวนสัญญานคลื่นความถี่สูงของฝ่ายตรงข้ามได้ไกลถึง 5,000 กม./ชุด ทำให้ฝ่ายตรงข้ามจะใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ทางสงครามไม่ได้เลย เช่น จรวด ขีปนาวุธ เครื่องบินขับไล่ ไม่สามารถควบคุมทิศทางที่ต้องการได้ , ตัดสื่อสารดาวเทียมกับพื้นดิน , สอดแนมทางคลื่นวิทยุ และดักจับสัญญาณต่างๆ
กลาโหมรัสเซียยังเริ่มใช้เครื่องบินบัญชาการรบ Il-86VKP (AACP) เป็นฐานบัญชาการลอยฟ้าสำหรับคณะผู้บริหารระดับสูงของรัสเซีย เพื่อสั่งยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ (ICBM) , อาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง และใกล้ รวมทั้งบัญชาการสงคราม
สามารถเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ , ติดตั้งระบบป้องกันแม่เหล็กไฟฟ้านิวเคลียร์ (EMP) , ป้องกันความร้อนและรังสี จากอาวุธนิวเคลียร์ , สามารถป้องกันจรวดมิสไซส์ โจมตี , มีระบบแจมสัญญาณระยะไกล และอิเล็กทรอนิกส์สื่อสารดาวเทียมขั้นสูง
เมื่อใดก็ตามที่กองทัพรัสเซียนำเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-22M3 ออกมาใช้ล้างผลาญปฐพี, เครื่องบินบัญชาการรบ Il-86VKP (AACP) ฐานบัญชาการลอยฟ้า เพื่อเตรียมสั่งยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์, เครื่องรบกวนสัญญาณอิเล็คทรอนิกส์ระยะไกล Murmansk-BN
ฝ่าย NATO ควรเร่งขอเจรจาแบบอ่อนหวานดอกไม้สีชมพูกับรัสเซียจะเพลย์เซฟกว่า เพราะมีความเสี่ยงสูงมากๆ ที่ “เห็ดยักษ์สีแดงฉาน” จะเบ่งบานในประเทศที่อยากลองของนั้น
