นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสลายการชุมนุมเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ต.ค. 2563 ระบุว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เพราะการชุมนุมของคณะราษฏรไม่ใช่การชุมนุมอย่างสงบสันติ เป็นการทำผิดกฏหมายอย่างชัดเจน
ที่สำคัญการชุมนุมดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมมีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการขัดขวางขบวนเสด็จ ซึ่งเป็นการกระทำที่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่รักและศรัทธาของพี่น้องคนไทย ดังนั้น ตนเห็นด้วยที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองสามารถทำได้หากไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ตนขอบอกตามตรงว่ารับไม่ได้กับแกนนำเหล่านี้ ประชาชนทั้งประเทศหมดความอดทนแล้ว ตนขอพูดในฐานะที่เป็นคนไทยที่รักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
ส่วนกรณีที่นายธนาธร รุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวหารัฐบาลว่าประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนรัฐประหาร และออกแถลงการณ์ให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุม รวมทั้งยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินทันทีนั้น ถามจริง ๆ ว่านายธนาธรและนายปิยบุตรไม่เห็นหรือว่าผู้ชุมนุมทำผิดกฏหมาย จาบจ้วงสถาบัน ขวางขบวนเสด็จ หยุดทำร้ายประเทศชาติได้แล้ว อย่าใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือทำลายชาติ ทำลายประเทศ พวกคุณย่ำยีหัวใจของคนไทยทั้งประเทศยังไม่สำนึกอีกหรือ
และการที่รัฐบาลออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ อย่าลืมว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องทำมาหากิน ประเทศต้องเดินหน้า หากรัฐเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามกฏหมายประชาชนจะอยู่กันอย่างไร ขอให้นายธนาธรและนายปิยบุตรหยุดทำร้ายประเทศได้แล้ว ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ประณามการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนนั้น อยากจะบอกว่าประชาชนไม่ได้กินหญ้า คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลเป็นพันธุกรรมเดียวกัน ทุกคนรู้ว่าพวกคุณกำลังคิดจะทำอะไร อย่าบิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีรัฐบาล อย่าอ้างประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
