ถือว่าเป็นสถานการณ์เข้าตาจนของยูเครน ที่ต้องกลับมาเผชิญวิกฤตอีกครั้ง ภายหลังรัสเซียเข้าโจมตี โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน เปิดเผยว่า ยูเครนกำลังเผชิญกับช่วงเวลาสัปดาห์วิกฤตอีกครั้ง หลังกองทัพรัสเซียระดมกำลังโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการท้องถิ่นของยูเครนเรียกร้องให้พลเรือนอพยพออกจากแคว้นลูฮันสค์ ทางตะวันออกของประเทศ ทันที เนื่องจากกองกำลังรัสเซียระดมทิ้งระเบิดถล่มพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าสัปดาห์ต่อจากนี้นั้นอาจจะยิ่งเข้มข้น หรือว่าเลวร้ายยิ่งกว่าสัปดาห์ที่ผ่าน ๆ มาเสียอีก
เซเลนสกี ระบุว่า เขายังมั่นใจว่าชาวยูเครนจะยอมรับสันติภาพเพื่อสงบสงคราม แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญความโหดร้ายตลอดระยะเวลากว่าหกสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม ภาพต่าง ๆ ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาคมโลก คือ เหตุการณ์พลเรือนเสียชีวิตในเมืองบูชา และเมืองอื่น ๆ ของภูมิภาคเคียฟ หลังกองทัพรัสเซียถอนกำลังออกไป ขณะที่อัยการของยูเครน เปิดเผยว่า สงครามยูเครนนอกจากจะทำให้มีผู้อพยพจำนวนมากแล้ว ยังมีการประเมินด้วยว่า ยูเครนได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจหนักมาก
เพราะธนาคารโลกประเมินว่า สงครามที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครนจะทำให้ผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของยูเครน หายไปถึง 45 เปอร์เซนต์ เพราะการรุกรานจากรัสเซียทำให้ธุรกิจต้องปิดทำการไป การส่งออกหยุดชะงัก และการผลิตใดๆก็ตามได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน จีดีพีรัสเซียจะหดตัวลงไป 11.2 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลมาจากการถูกประเทศต่าง ๆ ทั้งจากสหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตก ใช้มาตรการลงโทษทางการเงินคว่ำบาตรต่อธนาคารสัญชาติรัสเซีย บริษัทและหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ของรัสเซีย
อย่างไรก็ตามมีสื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่า ยูเครนห้ามนำเข้าสินค้าทุกอย่างจากรัสเซีย พร้อมกับเรียกร้องประเทศอื่น ๆ ให้ทำตาม และใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียให้รุนแรงยิ่งขึ้น นางยูลียา สวีรีเดนโก รัฐมนตรีเศรษฐกิจยูเครนโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันเสาร์ที่ 9 เม.ย. 2565 ว่า ยูเครนขอประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องยุติการค้าสินค้ากับรัฐผู้รุกรานอย่างสิ้นเชิง และนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สินค้าของสหพันธรัฐรัสเซียจะไม่สามารถนำเข้ายูเครนได้อีกต่อไป
งบประมาณของศัตรูจะไม่ได้รับเงินจากการนำเข้าดังกล่าวที่จะนำไปใช้สนับสนุนการทำสงคราม มาตรการของยูเครนสามารถเป็นตัวอย่างให้แก่หุ้นส่วนชาติตะวันตก และกระตุ้นให้เข้มงวดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่นการคว่ำบาตรพลังงานและโดดเดี่ยวธนาคารรัสเซียทั้งหมด ทั้งนี้ก่อนหน้าที่รัสเซียจะเปิดฉากเดือดกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ยูเครนนำเข้าสินค้าจากรัสเซียปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 201,498 ล้านบาท) แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่มีการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการกันอีกเลย และการประกาศนี้เท่ากับประกาศให้การยุติการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
