“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ชำแหละแผนนาโตยื้อสงคราม หนุนยูเครนแข็งข้อรัสเซีย ยังไม่รู้ชะตาจะเจอหายนะ จากมหาอำนาจตัวจริง!?

1492

จากกรณีที่หนังสือพิมพ์เทเลกราฟรายงานอ้างอิงถ้อยแถลงของนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า นาโตกำลังวางแผนตรึงกำลังทหารตามแนวพรมแดนประเทศสมาชิกที่ติดกับรัสเซียแบบถาวร โดยการเคลื่อนไหวเรื่องการตรึงกำลังทหารตามแนวพรมแดนประเทศสมาชิกนาโตที่ติดกับรัสเซียแบบถาวรครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างของผลลัพธ์ระยะยาวจากกรณีที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียรุกรานยูเครน

 

นายสโตลเทนเบิร์กเปิดเผยว่า พันธมิตรความมั่นคงนาโตสามารถยกระดับการตรึงกำลังทหารในประเทศต่าง ๆ เช่น เอสโตเนียและลัตเวีย

นอกจากนี้นาโตวางกำลังทหารเอาไว้กว่า 40,000 นายตามแนวพรมแดนตะวันออกของตน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าเมื่อเทียบกับก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

“ขณะนี้เราได้ขอให้เหล่าผู้บัญชาการทหารของเราจัดเตรียมทางเลือกต่าง ๆ เอาไว้ ซึ่งเราเรียกว่าเป็นการตั้งค่าใหม่เพื่อปรับเปลี่ยนนาโตในระยะยาว โดยผมคาดการณ์ว่าเหล่าผู้นำนาโตจะตัดสินใจประเด็นนี้กันในที่ประชุมสุดยอดนาโตที่กรุงมาดริดในเดือนมิ.ย.”

และล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก วิเคราะห์ถึงท่าทีของนาโต ในขณะนี้ โดยระบุว่า “Confrontation สงครามในยูเครน รัสเซียพยายามให้เป็นสงครามจำกัดบริเวณไม่ให้ขยายตัวเป็นสงครามใหญ่ ด้วยการประกาศวัตถุประสงค์แนวทางชัดเจน แต่เหมือนว่าสหรัฐและนาโตไม่อยากให้สงครามยุติในเร็ววัน และกลายเป็นสงครามยืดเยื้อ

สมาชิกนาโตทุ่มความพยายามสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนไว้สู้กับรัสเซีย คาดหวังให้รัสเซียแพ้ยูเครนหรือ ? หรือจะให้รัสเซียติดหล่มในยูเครน หากเป็นเช่นนั้นจริง ยูเครนไม่ป่นปี้ ยับเยินหรือ ?

นาโตส่งให้แต่อาวุธ ยื่นดาบให้ยูเครน ยั่วให้รัสเซียถล่มยูเครน แต่พี่เบิ้มไม่เข้าไปช่วย กลัวอะไรก็รู้กันอยู่

ต้องไม่ลืมนะ รัสเซียคือมหาอำนาจตัวจริง หลายประเทศในอียูเริ่มปัดฝุ่นหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แสดงว่าเตรียมการรับมือสงครามใหญ่ ไม่อยากให้สงครามยุติ แล้วหลุมหลบภัยจะพอเพียงสำหรับประชาชนหรือ ยั่วยุกันขนาดนี้ รัสเซียจะยอมถอยหรือ

เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตันได้ส่งคำเตือนผ่านการให้นิตยสารนิวส์วีคว่า การสนับสนุนอาวุธให้ยูเครน จะเป็นหนทางให้รัสเซียและสหรัฐต้องเผชิญหน้าทางทหารกันโดยตรง เพราะขบวนลำเลียงนั้นจะต้องเป็นเป้าหมายทางทหารของกองกำลังรัสเซีย”