โลกตะลึง! ม็อบกรีซ ปิดทางรถไฟขบวนยุทโธปกรณ์ทหารนาโต้ ขณะ อิตาลีฮือ ไล่ผู้นำ เหตุหนุนยูเครน

1501

โลกตะลึง! ม็อบกรีซ ปิดทางรถไฟขบวนยุทโธปกรณ์ทหารนาโต้ ขณะ อิตาลีฮือ ไล่ผู้นำ เหตุหนุนยูเครน

จากกรณีที่เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีสถานการณ์การประท้วงในประเทศกรีซ ที่มีแรงงานประท้วงหยุดงาน โดยบอกว่า

วันที่ 7 เม.ย.65 ถนนในกรุงเอเธนส์เมืองหลวงกรีซ ชาติในยุโรป เต็มไปด้วยม็อบสหภาพแรงงานจำนวนมาก ประณามรัฐบาลในการขึ้นราคาพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อสูง แต่อัตราเงินเดือนต่ำ การประท้วงลุกลามไปทั่วประเทศกรีซ
โดยมีสารพัดม็อบมาเป็นแนวร่วม เช่น ม็อบเกษตรกร ฯลฯ แต่ที่ทำให้ NATO ตะลึงคือ ม็อบชาวกรีซปิดกั้นทางรถไฟ ที่ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารของ NATO ไปยังพรมแดนของประเทศยูเครน ม็อบชาวกรีซ ขวางทางรถไฟที่บรรทุกยานยนต์เกราะส่งไปยังโรมาเนีย และโปแลนด์ ทำอย่างไรชาวบ้านก็ไม่ยอมให้รถขนอาวุธผ่านไป ต้องจอดอยู่บนรางรถไฟ ชาวบ้านตะโกนผ่านโทรโข่งว่า” ให้ NATO ขนยุทโธปกรณ์กลับบ้านไปซะ”
ส่วนในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี เกิดม็อบประท้วงต่อต้านนาย Mario Draghi นายกรัฐมนตรีอิตาลี ที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน ม็อบต่างพากันปลุกระดมว่า “ผู้นำอิตาลี กำลังนำพวกเขาไปสู่สงครามครั้งใหม่โดยสนับสนุน NATO..พวกเขาคัดค้านการกระทำของรัฐบาลและไม่ต้องการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งทางทหาร”
และมีการปะทะกันกับตำรวจปราบจราจล..สู้ต่อไปนะชาวกรีซ อิตาลี ชนะแน่นอน..พากันยึดรถถัง รถหุ้มเกราะ อาวุธยุทธปกรณ์ NATO ให้หมด เอาไปแยกชิ้นส่วนขายเซียงกง..เรื่องแบบนี้สื่อตะวันตกและสื่อไทยจะไม่พูด
อย่างไรก็ตาม กรีซเพิ่งฟื้นตัวจากทศวรรษแห่งวิกฤตการณ์ทางการเงิน ในปี 2561 แต่กลับต้องมาเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสที่ทำให้การเดินทางทั่วโลกต้องหยุดชะงักในสองปีต่อมา ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ กอรปกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น จากการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในกรณีบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ยิ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ในการดำรงชีพของชนชั้นแรงงานมากขึ้น
จีเอสอีอี หรือ สหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงานภาคเอกชนของประเทศ กล่าวว่า “ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ใช้แรงงานต้องแบกรับภาระของวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และชีวิตของทุกคน หลายปีผ่านไป วิกฤตยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาระยังคงอยู่ และสิทธิของพวกเรากำลังลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ”
อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคประจำปีของกรีซพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่ระดับ 7.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน, ที่อยู่อาศัย และค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลกรีซได้ใช้เงินไปกว่า 3.7 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.34 ล้านล้านบาท ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2564 เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นในภาคเกษตรกร, ภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ
จีเอสอีอีกล่าวในเดือนมีนาคมว่า ได้เสนอภาครัฐให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอีก 13%  เป็น 751 ยูโร หรือประมาณ 27,500 บาทต่อเดือน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว 2% เป็น 663 ยูโร หรือประมาณ 24,300 บาทต่อเดือนในเดือนมกราคม และนายกรัฐมนตรี คีริยากอส มิตโซทากิส ของกรีซ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับขึ้นอีกครั้งหลังวันที่ 1 พฤษภาคม