ยกธงขาวแล้ว! นายทหาร NATO ติดต่อกองทัพรัสเซีย ร้องขออพยพ พร้อมเผยรัฐบาลยูเครน ไม่ยอมส่งเสบียงจนหิวโหย!?
กำลังเป็นที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนไหวของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน นั้นขยับอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางด้านการเมือง และการทหาร ล้วนมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งโลก
โดยล่าสุดทางด้านของเพจสาธารณะชื่อ World Update ได้ทำการอัพเดทสถานะการณ์ล่าสุดวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นการเปิดเผยถึง “เมืองท่าสำคัญมารีอูโปลแตกพ่าย ผู้นำยูเครนสั่งให้ UN ยุบไป ถ้ากลัวรัสเซีย” โดยมีรายละเอียดว่า
เมืองท่ามาริอูโปล อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ตั้งขวางทางระหว่างคาบสมุทรไครเมีย ของรัสเซีย และภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน มีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทะเลอาซอฟ เป็นที่ตั้งของโรงงานเหล็กรายใหญ่ เป็นศูนย์กลางการส่งออกเหล็ก ถ่านหิน และข้าวโพด ที่สำคัญของยูเครน รัสเซียจึงมุ่งยึดเมืองนี้เพื่อเชื่อมไครเมียเข้ากับดอนบาส จากนั้นจะยึดเมืองท่าโอเดสซา ตัดเส้นทางการค้าทางทะเลของยูเครนได้อย่างเบ็ดเสร็จ 100%
เมืองมาริอูโปล ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกองพัน Azov Battalion นีโอนาซี NATO ที่มีทหารรับจ้างต่างชาติ 22 ชาติ และชาวยูเครนร่วมในกองกำลัง ส่งไปร่วมปฏิบัติการทางทหารทั่วยูเครน รวมทั้งกรุงเคียฟ โดยสร้างวีระกรรมที่โด่งดังคือ จับประชาชนยูเครนจำนวนมากมัดมือขังในโรงละคร แล้ววางระเบิดถล่ม มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย จากนั้นออกข่าวสื่อตะวันตกและไทยว่าทหารรัสเซียทำ ทั้งที่ช่วงนั้นกองทัพรัสเซียยังไม่ได้เข้ามาที่เมืองนี้
และวีระกรรมที่โด่งดังชิ้นโบว์แดงคือ วันที่ 2 เม.ย.65 ลงโทษชาวบ้านเมืองบูชา ใกล้กรุงเคียฟ ด้วยการ “ประหารชีวิตข้างถนน ผู้ที่ผูกผ้าขาวไม่ผูกผ้าสีฟ้าด้วยข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย” จำนวนกว่า 400 ราย จากนั้นออกข่าวสื่อตะวันตกและไทยว่าทหารรัสเซียทำ ทั้งที่ช่วงนั้นกองทัพรัสเซียถอนทัพออกไปได้ 3 วันตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.65 แล้ว นี่ยังไม่นับวีระกรรมการใช้ศาลเตี้ย ทรมาน ข่มขืน กักขังเอาประชาชนเป็นโล่มนุษย์อีกนับไม่ถ้วน
เรือรบของกองทัพเรือรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธร่อน 3M14T Kalibr จำนวน 7 ลูกจากทะเลดำ และยิงขีปนาวุธ Oniks (Onyx) ที่มีความแม่นยำสูง พิสัยทำการ 600 กม.จำนวน 2 ลูกจากฐานยิงบนบก ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกองทัพยูเครน และคลังน้ำมันในอีกหลายเมืองที่เหลือ เช่น เมืองนาวามัสกอฟสก์ ภูมิภาคดนีโปรปีตรอฟสก์ ทำให้แทงค์เก็บน้ำมัน 6 แทงค์ ถูกทำลายย่อยยับ
การใช้กลยุทธ์ถล่มเมืองต่างๆ “ด้วยอาวุธหนักขีปนาวุธความแม่นยำสูง” จะทำให้เมืองอื่นๆ ของยูเครนต้องขนลุก และคิดหนักถ้าจะสู้กองทัพรัสเซีย เพราะจะราบพนาสูญหมดสิ้น การยอมแพ้แต่โดยดีจะช่วยรักษาเมืองและผู้คนเอาไว้ได้ และยังทำชาติยุโรป กลัวจนนอนไม่หลับอีกด้วย
ล่าสุดทหารยูเครนกองพันนาวิกโยธินที่ 503 ในเมืองมาริอูโปล จำนวน 267 นาย ได้ยกธงขาวยอมแพ้ วางอาวุธเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากทางรัฐบาลส่วนกลางไม่เสบียงจนหิวโหย กองทัพรัสเซียจึงจัดเลี้ยงรับรองทางตอนใต้ของเมืองโดยมีทหารเชเชนบรรยายในชั้นเรียนปรับทัศนะคติ
และมีนายทหารต่างชาติ NATO ที่โดนถล่มอย่างหนัก ถอดใจติดต่อกองทัพรัสเซีย ร้องขออพยพ จากบริเวณอยู่ติดท่าเรือของเมือง ส่วนกองกำลังหลักเมืองมารีอูโปล คือ กองพัน Azov Battalion นีโอนาซี NATO ถูกถล่มสำนักงานค่าย จนถูกต้อนถอยร่นไปรวมที่โรงงาน Azovstal ในเขตอุตสาหกรรม
โดยคาดว่ามีบุคคลสำคัญติดอยู่ในวงล้อมกองทัพเชเชน และกองทัพรัสเซีย ที่เมืองนี้ด้วย เพราะฝ่าย NATO ร้อนรนมากมีความพยายามที่จะส่งฮอลิคอปเตอร์รุ่น MI-8 ทะยอยมาทีละลำพร้อมหน่วยรบพิเศษยูเครน และ NATO รวม 17 นาย เพื่อบุกเข้ามาช่วยบุคคลสำคัญโดยบินเข้ามาจากทางทะเลอาชอฟ แต่ถูกกองทัพรัสเซียยิงสกัดเครื่องบินตกไปแล้วจำนวน 2 ลำ ตกทะเลกลายเป็นแนวปะการังเทียม
ด้านประธานาธิบดี เซเลนสกี ของยูเครน ภายหลังจัดฉากสังหารหมู่พลเรือนตนเองที่เมืองบูชากว่า 400 รายแล้ว ได้แถลงออนไลน์ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN) จำนวน 15 ชาติ ในจำนวนนี้มี 5 ชาติที่เป็นคณะมนตรีถาวรตลอดชีพ และรัสเซียอยู่ในคณะนี้ด้วย
ผู้นำยูเครน นอกจากจะปากเปราะดูหมิ่นประธานาธิบดีฮังการี ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งหมาดๆ ว่ากลัวรัสเซีย จนทูตยูเครนประจำฮังการี ถูกเรียกไปตำหนิแล้ว เขายังดูหมิ่นอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคง UN ที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับรัสเซียได้
เพราะรัสเซียมีอำนาจยับยั้งหรือวีโต้เพื่อล้มมติใด เขาจึงตำหนิ UN ว่า “สหประชาชาติก็ควรยุบไปเลย หากไม่อยากยุบ UN ก็ควรมีการปฏิรูป โดยไล่รัสเซียออก ไม่ให้สามารถออกเสียงได้”..ระวัง UN จะโดนผู้นำยูเครน สั่งกองพัน Azov Battalion บุกสังหารหมู่แบบชาวเมืองบูชาอีกนะ แล้วโยนบาปว่ารัสเซียทำ