นักวิชาการเผยเบื้องลึก สหรัฐฯอยากแซงชั่นจีน แต่ไม่ดูชะตาตัวเอง ทั่วโลกจับตารอลุ้น ใครกันแน่ที่จะไม่รอด!?

หลังจากที่มีรายงานระบุว่า อเมริกากระชับวงล้อมเข้าไปรัดผู้นำรัสเซียมากขึ้นอีก ด้วยข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงคราม ซึ่งปรากฏหลักฐานที่เมืองบูชา ใกล้กรุงเคียฟ และครั้งล่าสุดนี้ประกาศเป้าหมายลงโทษ ลูกสาวปูติน ทั้งสองคน ได้แก่ มารียา ปูตินา และ แคเทอรีนา ติกโฮโนวา รวมไปถึงนายมิกฮาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย พร้อมภรรยาและลูก นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิทรี เมดเวเดฟ สมาชิกสภาความมั่นคงที่เป็นอดีตประธานาธิบดี บุคคลในเป้าหมายทั้งหมดนี้จะถูกตัดออกจากระบบการเงินของสหรัฐ ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมดที่มีในสหรัฐด้วย

ทั้งนี้สื่อของบลูมเบิร์ก ยังรายงานด้วยว่า นายไบรอัน ดีส ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวเตือนอินเดีย ชาติมหาอำนาจเอเชียอีกประเทศนอกเหนือจาก จีน ที่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อต้านรัสเซียในศึกครั้งนี้ อีกทั้งยังเผยท่าทีที่จะทำการค้ากับรัสเซีย ว่าหากทำเช่นนั้นจริง อินเดียจะต้องเจอกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนาตามมา พร้อมทั้งจะแซงชั่นจีน ที่ยังมีท่าทีนิ่งเฉยต่อการกระทำของรัสเซียเช่นกัน

ล่าสุดนายทนง ขันทอง นักวิชาการ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Thanong Fanclub ระบุว่า เจาเน็ต เยลเลน รมวคลัง.ของสหรัฐส่งสัญญานว่า สหรัฐจะแซงชั่นจีน ถ้าหากว่าจีนบุกยึดเกาะไต้หวัน สหรัฐจะแซงชั่นจีนในกรณีที่บุกยึดไต้หวัน เหมือนกับที่แซงชั่นรัสเซียที่บุกยูเครน การแซงชั่นจีนคือการเบี้ยวหนี้จีนที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากกว่า 1ล้านล้านเหรียญ

 

ความจริงจีนอยากจะให้สหรัฐแซงชั่นจีน จะได้เลิกคบกันไปเลย ต่างคนต่างอยู่ รำคาญเต็มแก่
แล้วจะดูว่าใครจะรอดหรือไม่รอด เหมือนกับที่รัสเซียถูกสหรัฐและยุโรปแซงชั่นในเวลานี้ แต่ผลกระทบกลับตกยังสหรัฐและยุโรปที่รุนแรงกว่ารัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ อาหาร ที่ทำให้ปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรงอยู่แล้วในโลกตะวันตกจะกลายเป็นไฮเปอร์อินเฟลชั่นในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตามได้มีคอมเม้นต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ด้วยว่า หากเป็นเรื่องจริงที่สหรัฐฯหาเรื่องจะแบนจีนนั้น ก็น่าจะหาเรื่องให้ตัวเองและชาติพันธมิตรในโซนยุโรปเดือดร้อนเปล่า ๆ เพราะขนาดแบนรัสเซียมาแล้ว ยังต้องลำบากกับสิ่งที่เผชิญอยู่