ในขณะที่โลกกำลังเคร่งเครียดกับสงครามยูเครนที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจบลงได้เมื่อไหร่ เพราะสหรัฐอเมริกาและนาโต้มีท่าทีเชิงรุก ไม่ต้องการให้สงครามยุติ ยังคงผลักดันการส่งเงินและอาวุธหนุนยูเครนให้ตอบโต้รัสเซียอย่างต่อเนื่อง
หันกลับมาดูบ้านของผู้นำผลักดันสงครามอย่างสหรัฐฯ กลับปั่นป่วนด้วอาชญากรรมจากปืนไม่หยุดหย่อน ล่าสุดที่เมืองแซคราแมนโนต มลรัฐแคลิฟอร์เนียยิงกันดุเดือดแต่เช้ามืด นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่สองในแซคราเมนโตในช่วงห้าสัปดาห์ที่ผ่านมาของปีนี้
วันที่ 3 เม.ย.2565 สำนักข่าวซีบีเอสนิวส์ รายงานว่าหัวหน้าตำรวจของแซคราเมนโตแถลงข่าวถึงเหตุกราดยิงในใจกลางเมืองในตอนเช้ามืด โดยเชื่อว่าเป็นผลมาจากการต่อสู้กัน และตำรวจกำลังค้นหาผู้ต้องสงสัยหลายคน ขณะที่บาร์และไนท์คลับในพื้นที่ต้องปิดตัวลง
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บอีก 12 คน บนถนนสายหนึ่งที่นักเที่ยวเดินพลุกพล่าน ในเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ตำรวจเผยยังคงอยู่ระหว่างตามล่าผู้ต้องสงสัย และยังไม่มีใครถูกจับกุม
เคที เลสเตอร์ ผู้บัญชาการตำรวจซาคราเมนโต(Sacracmento police chief Kathy Lester)กล่าวว่า”เรากำลังร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ขอให้ช่วยเราระบุตัวตนพวกผู้ต้องสงสัย ด้วยข้อมูลใดๆ ก็ตามที่สามารถช่วยเราคลี่คลายเรื่องนี้ได้”
เลสเตอร์ เปิดเผยว่าเหตุยิงกันครั้งนี้เกิดขึ้นตอน 2.00 น. โซนเวลาแปซิฟิก (PT) ตรงกับเมืองไทย 16.00 น. ใกล้กับโกลเด้นวัน เซ็นเตอร์ สนามเหย้าของทีมเบสบอลซาคราเมนโต้ คิงส์ ซึ่งมักใช้จัดคอนเสิร์ต
ตำรวจเปิดเผยว่า พวกเขาพบอาวุธปืนสั้นอย่างน้อย 1 กระบอก ในที่เกิดเหตุ และพบเหยื่อ 12 ราย มีอาการบาดเจ็บแตกต่างกันไปหลายระดับ
เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่หลายช่วงตึกและดำเนินการเก็บรวบรวมหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับอายุหรือตัวตนเองของบรรดาเหยื่อถูกยิงในครั้งนี้
รายงานข่าวระบุว่า พบเห็นสมาชิกในครอบครัวหลายครอบครัวออกมายืนรออยู่นอกแนวกั้นตำรวจ รอฟังข่าวบุคคลอันเป็นที่รักที่ยังหาตัวไม่เจอด้วยความเป็นกังวล ในนั้นรวมถึง พาเมลา แฮร์ริส ซึ่งเผยว่าลูกสาวโทรศัพท์หาเธอตอนเวลา 2.15 น. แจ้งข่าวว่า แซร์จิโอ ลูกชายวัย 38 ปี ของเธอถูกยิงเสียชีวิตนอกไนต์คลับแห่งหนึ่ง
แฮร์ริส กล่าวว่ายังคงรอคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากตำรวจ “ฉันจะไม่ออกไปจากที่ตรงนี้ จนกว่าฉันจะได้รู้เกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ไปไหน มันอาจเป็นแค่ฝันร้าย”
เหตุความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากอาคารรัฐสภาของรัฐไม่กี่ช่วงตึก ในพื้นที่ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงเป็นศูนย์กลางความบันเทิงเมื่อไม่นานมานี้ และเหตุยิงกันได้ทำลายบรรยากาศแห่งความยินดี เนื่องจากเมืองแห่งนี้ได้ยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากในสัปดาห์ที่แล้ว บาร์และร้านอาหารต่างๆ เริ่มเต็มไปด้วยคนที่มาใช้บริการ หลังถูกโดดเดี่ยวจากโควิด-19 มานาน
นายกเทศมนตรีดาร์เรลล์ สเตนเบิร์ก เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บยังไม่ชัดเจน เรากำลังรอข้อมูลมากกว่านี้ ว่าอะไรที่เกิดขึ้นจริงๆ ในเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลด” “ความรุนแรงจากอาวุธปืนที่เพิ่มขึ้นคือหายนะของเมืองของเรา รัฐและประเทศของเรา และผมสนับสนุนทุกความเคลื่อนไหวที่จะช่วยลดความรุนแรงจากอาวุธปืนนี้”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว 1 เดือน หลังจากชายคนหนึ่งยิงสังหารลูกๆ 3 ราย และบุคคลอื่นรายที่ 4 อีกคน ก่อนปลิดชีพตนเอง ในเมืองเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังเพิ่งเกิดเหตุยิงกันอีกแห่งในคืนเดียวกัน ในดัลลัส รัฐเทกซัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 11 คน หลังจากบุคคลรายหนึ่งกราดยิงเข้าใส่งานคอนเสิร์ตหนึ่ง และเวลานี้ตำรวจดัลลัสอยู่ระหว่างการสืบสวน
