จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ดร.สมเกียรติ โอสถสภา ได้โพสต์ข้อความระบุถึงท่าทีของเยอรมัน ที่ออกตัวแรงในตอนนี้ จะทำให้ชาติตะวันตกระส่ำ มีความสั่นสะเทือนเลยทีเดียว เพราะแสดงความประสงค์จะไม่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย
โดยเยอรมันค้านขยายขอบเขตแบนธนาคารรัสเซียจากระบบ SWIFT และไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย รวมทั้งนักวิเคราะห์มองว่าท่าทีของเยอรมนีอาจจุดชนวนสร้างความแตกแยกในกลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตก ที่พยายามจะเดินหน้าเพิ่มมาตรการลงโทษรัฐบาลรัสเซียในการบุกยูเครน นำโดยสหรัฐฯ ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า สหรัฐฯ จะแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยมีรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษที่ขานรับเห็นด้วย
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก Thailand Vision ได้รายงานท่าทีความเคลื่อนไหวของเยอรมัน ระบุว่า “สื่อต่างประเทศรายงานว่า ชาวเยอรมันกำลังซื้อไม้ และถ่านหินแม้จะถึงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่นขึ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามที่ยืดเยื้อในยูเครน
เยอรมนีประกาศ “คำเตือนล่วงหน้า” ในวันพุธที่ผ่านมา เกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินด้านการจัดหาก๊าซที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักหรือการหยุดการไหลของก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
“โทรศัพท์ของเราดังไม่หยุดเลย” เอริก พาสซาว ผู้สร้างเตาเผา และเตาผิงกล่าว (ซึ่งตาเผาและเตาผิงต้องใช้ไม้ฟืนหรือถ่านหิน) พร้อมเสริมว่าการขาดแคลนอุปทานทำให้ยากต่อการสั่งซื้อ “ผู้คนต้องการความปลอดภัย เพราะการถูกแช่แข็งมันไม่สนุก”
แม้จะมีอุปทานก๊าซที่มีเสถียรภาพ แต่ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ ได้รับคำแนะนำให้ลดการใช้พลังงานลง โดยโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่า “ทุกกิโลวัตต์-ทุกชั่วโมงมีค่า”
ซูซาน กาสเดน เป็นหนึ่งในคนที่สั่งซื้อไม้สำหรับฤดูหนาวหน้า แม้ว่าเธอจะมีเครื่องทำความร้อนไฟฟ้าในบ้านของเธอก็ตาม
“ฉันมีเตาในทุกห้อง และหากจู่ ๆ แก๊ซดับลงอย่างกะทันหันหรือเราขาดแคลนพลังงาน อย่างน้อยฉันก็สามารถอยู่ได้อย่างพอเพียง” เธอกล่าว “ช่วยเอาชีวิตรอดไปได้ในวันมรสุม”
ริชาร์ด เคิกเลอร์ ผู้ค้าเชื้อเพลิงกล่าวว่า ผู้คนยังคงตุนถ่านหินและไม้ไว้แม้ว่าอากาศจะหนาวจะค่อย ๆ หมดไปก็ตาม และเสริมว่าแม้แต่ก่อนสงครามในยูเครนปริมาณถ่านหินและฟืนก็ยังเริ่มไม่พอ “พวกเขาไม่สั่งเพราะก๊าซมีราคาแพงมาก พวกเขาสั่งเพราะกังวลว่าจะไม่ได้อะไรเลย”
มาร์คุส ชทุมบอม กรรมการผู้จัดการของบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเคหะ กล่าวว่า ในขณะที่ความต้องการเครื่องทำความร้อนที่ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เขารู้สึกประหลาดใจที่ก๊าซถูกวิพากษ์วิจารณ์
“เมื่อพูดถึงก๊าซ ผมคิดเสมอว่าเทคโนโลยีนี้มีอนาคตแน่นอน เพราะผู้คนต่างก็มองดูไปที่ก๊าซชีวภาพหรือก๊าซสังเคราะห์ แต่ตอนนี้ แน่นอน ทุกคนต้องการเปลี่ยนเป็นเครื่องทำความร้อน””