จากกรณีที่นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ออกมาเปิดเผยผู้สื่อข่าวในวันพุธที่ 30 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมาว่า การเจรจาระหว่างผู้แทนของพวกเขากับยูเครนที่นครอิสตันบูล ของตุรกี ยังไม่มีการฝ่าทางตันใด ๆ ดับความหวังว่าสันติภาพอาจจะเกิดขึ้นได้ในเร็ว ๆ นี้ “เราไม่อาจพูดได้ว่า มีอะไรที่น่าคาดหวังเกินไปหรือมีการฝ่าทางตันใด ๆ” ยังเหลืองานที่ต้องทำอีกมาก อย่างไรก็ตามมอสโกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก ที่ยูเครนเริ่มร่างข้อเรียกร้องของตัวเองเป็นลายลักษณ์อักษร
ทั้งนี้หลังจากการเจรจาที่อิสตันบูล หัวหน้าผู้แทนฝ่ายรัสเซียก็ออกมาระบุว่า นี่เป็นการพูดคุยที่มีความหมาย ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า มีการตัดสินใจลดปฏิบัติการทางทหารอย่างมากใกล้พื้นที่กรุงเคียฟ และเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางเหนือของยูเครน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจา
ล่าสุดทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้แถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2565 ไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นายในข้อหาทรยศชาติ พร้อมยอมรับสถานการณ์ในทางภาคใต้และภูมิภาคดอนบาสยังคงยากลำบากอย่างมาก
เซเลนสกี เปิดเผยว่ากองกำลังยูเครนผลักดันทหารรัสเซียล่าถอยจากเคียฟและเชอร์นิฮิฟ 2 เมืองที่มอสโกประกาศว่าไม่ได้มุ่งเน้นโจมตีอีกต่อไป เนื่องจากพวกเขาจะหันไปคุ้มกันภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยสาธารณรัฐโดเนตสก์ และสาธารณรัฐลูฮันสก์ “จะมีการสู้รบรออยู่เบื้องหลัง เรายังคงจำเป็นต้องลุยฝ่าเส้นทางที่ยุ่งยากเพื่อให้เราได้ทุกสิ่งที่เราต้องการ สถานการณ์ในทางภาคใต้และในดอนบาส ยังคงยากลำบากอย่างมาก”
และทั้งนี้ในความไม่ลงรอยที่พบเห็นไม่บ่อยนัก เซเลนสกี เผยด้วยว่าเขาไล่ออกเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นายในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ประกอบไปด้วยหัวหน้าความมั่นคงภายใน ในส่วนกลางและหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงภายใน ประจำภูมิภาคเคอร์ซอน
“ผมไม่มีเวลามาจัดกับพวกเขาทรยศทั้งหมด แต่พวกเขาทั้งหมดจะถูกลงโทษทีละน้อย” พร้อมระบุว่าบุคคลทั้ง 2 รายทรยศหักหลังคำสัตย์ปฏิญาณที่จะปกป้องยูเครน” อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีรายนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม นับว่าเป็นครั้งแรกที่ เซเลนสกี แถลงปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันยูเครน
