ทั่วโลกเริ่มเดือดแล้ว!? สหภาพแรงงานอิตาลี เหลืออดรัฐบาล ประกาศลุกฮือต่อต้าน ห้ามรัฐบาลหนุนอาวุธยูเครน!?
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่แพ้การต่อสู้กันด้วยอาวุธของ ยูเครน และรัสเซีย ก็คือผลกระทบที่ประชาชนจำนวนมากทั่วโลก ได้รับหลังจากที่มีการคว่ำบาตรทางการเงินและเศรษฐกิจรัสเซีย จากกลุ่มประเทศสหรัฐ และพันธมิตร
ส่งผลให้ค่าน้ำมันทั่วโลก รวมถึงค่าครองชีพสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีประชาชนในประเทศคู่ขัดแย้งกับรัสเซีย เริ่มออกมาเคลื่อนไหวไม่พอใจรัฐบาลกันเป็นแถว
โดยล่าสุดทางด้านของ เพจสาธารณะชื่อ World Update ได้โพสต์ข่าวโดยอ้างอิงมาจาก สำนักข่าวรอยเตอร์ส ซึ่งเป็นเรื่องของ “สหภาพแรงงานอิตาลีลุกฮือ ห้ามรัฐบาลหนุนอาวุธยูเครน” โดยมีรายละเอียดว่า
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกากำหนดให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตร ต้องจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นเงินสกุลรูเบิลโดยมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นต้นไป ตามกฎหมายใหม่ถ้าประเทศใดเบี้ยวไม่จ่ายเป็นรูเบิล โดยผู้นำรัสเซียไม่อนุมัติผ่อนปรนเป็นกรณีพิเศษ ทางบริษัท Gazprom รัฐวิสาหกิจรัสเซียจะเลิกสัญญาทันที
ทางการรัสเซีย บังคับหลักเกณฑ์ให้บริษัทต่างชาติที่ไม่เป็นมิตร และยอมคุกเข้าไม่กล้าแบนก๊าซรัสเซีย และอยากจะนำเข้าก๊าซรัสเซียต่อไป จะต้องไปเปิดบัญชีธนาคารรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล จากนั้นนำเงินยูโร ดอลลาห์ หรือทองคำ มาซื้อเงินรูเบิลจากธนาคารรัสเซียที่เปิดบัญชี แล้วธนาคารรัสเซีย ก็จะสูบกลับเงินจากชาติที่ไม่เป็นมิตรเหล่านั้นจ่ายให้บริษัท Gazprom กลายเป็นสินทรัพย์รัสเซีย และจะไม่มีชาติใดยุ่งเกี่ยวได้อีก
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่เป็นผู้ใหญ่อาวุโสผ่านร้อนผ่านหนาวมามากได้เตือนสติผู้นำประเทศสหภาพยุโรป ที่เป็นคนรุ่นน้องๆ ให้นึกถึงสภาพสังคมโดยรวมของประเทศ ให้คิดถึงประชาชนของตัวเองมากๆ ไม่ใช่เอาใจประเทศที่อยู่โพ้นทะเล (สหรัฐฯ) ไปซื้อแก๊สเขาแพงๆ จนประชาชนเดือดร้อน แล้วบอกให้ประชาชนในประเทศใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ อยู่ในบ้าน หรือขอให้ประชาชนเลิกกินเนื้อ เลิกต้มหัวผักกิน ฯลฯ
นอกจากผู้นำรัสเซียจะสั่งสอนชาติยุโรปให้สำนึกด้วยพลังงานก๊าซ น้ำมัน ปุ๋ย แล้ว ล่าสุดรัสเซียยังสั่งสอนด้วยการสั่งระงับจัดส่งน้ำมันพืชจากเมล็ดทานตะวัน คนอาเซียนอาจไม่รู้สึกกระทบอะไร เพราะใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองประกอบอาหาร แต่สำหรับชาวยุโรป คือ “อภิปัญหาใหญ่มาก” เพราะต้องใช้ทำอาหารทอดกินทุกวัน ทั้งในครัวเรือน และร้านอาหารทุกแห่ง อีกทั้งยังใช้เป็นวัตถุดิบทำเครื่องสำอางนานาชนิดอีกด้วย
รัสเซีย และยูเครน ฉายาว่า “ตะกร้าขนมปัง” สำหรับชาวยุโรป เพราะสองชาตินี้ผลิตอาหารข้าวสาลี ข้าวบาร์เรย์ ถึง 30% ของโลก นำไปเป็นวัตถุดิบอาหารที่ชาวยุโรปต้องกินไปทุกมื้อ แต่ทางการรัสเซีย สั่งงดส่งออกอาหารให้ชาวยุโรปกว่า 700 ล้านคนไปแล้ว และเก็บไว้ให้ชาวรัสเซีย และชาติกำลังพัฒนาที่ “เป็นมิตรกับรัสเซีย” ทั่วโลกให้ “ประชาชนกินให้อิ่มท้อง” ส่วนชาติที่ไม่เป็นมิตร “ประชาชนต้องอด” ถ้าไม่อยากอดประชาชนชาตินั้นก็ต้องคว่ำรัฐบาลตนเองที่ประกาศไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย
ในยุโรปตอนนี้ คนยากจนเริ่มประสบความอดอยาก หาของกิน และน้ำมันเมล็ดทานตะวันประกอบอาหารยากยิ่งกว่าทอง ต้องแย่งชิงและจำกัดโควต้าอาหารตามร้านค้า ในขณะที่คนรวยกว่ากลับมีกิน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางอาหารที่เป็นปัจจัย 4 แถมรัฐบาลเหล่านั้นยังเอาอาวุธที่มีไว้ใช้ป้องกันประชาชนตนเอง ไปให้กองทัพยูเครนทำสงคราม สุดท้ายก็โดนกองทัพรัสเซียทำลายทิ้ง และยึดไปใช้ฟรีๆ จนหมด
ล่าสุด 31 มี.ค.65 สหภาพแรงงานชาวอิตาลี ได้นัดก่อม็อบกัน ที่เมืองเจนัวของอิตาลี เพื่อประท้วงรัฐบาล ขอให้ออกจาก NATO และต่อต้านการส่งมอบ หรือเป็นทางผ่านอาวุธไปให้ยูเครน แต่กลับไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาน้ำมัน ก๊าซแพงและขาดแคลน..เริ่มเห็นเปลวไฟลุกโชนหลายชาติในยุโรปแล้ว..ให้กำลังใจประชาชนสู้ต่อไปนะ ชนะแน่นอน..ข่าวแบบนี้สื่อตะวันตกและสื่อไทยจะไม่พูด
