มีรายงานความคืบหน้า ของการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจระหว่าง รัสเซีย กับ ชาติยุโรป ตึงเครียดขึ้น เมื่อปูตินยื่นคำขาดให้ยุโรปจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิล แต่ต่อมาลดดีกรีลง ยอมให้จ่ายเป็นเงินดอลลาร์ หรือเงินยูโรได้ โดย สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกคำสั่งเรียกเก็บเงินค่าก๊าซธรรมชาติ จากชาติยุโรป เป็นสกุลเงินรูเบิล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ มิเช่นนั้นจะพิจารณาตัดการส่งก๊าซ
แต่ต่อมาอนุโลมให้จ่ายเป็นสกุลดอลลาร์ และสกุลยูโร ผ่านธนาคารที่กำหนดไว้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงจุดอ่อนที่ยุโรปต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้สำหรับเครื่องทำความร้อนตามบ้านเรือน
ขณะที่ชาติยุโรปหลายประเทศมีชื่ออยู่ในกลุ่ม “ประเทศไม่เป็นมิตร” ของรัสเซีย เนื่องจากใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างหนักหน่วง เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครน และสำหรับคำสั่งของปูตินเผยแพร่ตามสื่อรัสเซียเมื่อวันที่ 31 มี.ค. หนึ่งวันหลังจากปูตินรับปากอิตาลีและเยอรมนีแล้วว่าจะส่งก๊าซธรรมชาติให้ตามที่เคยมีสัญญา แต่ต่อมายื่นคำขาดให้จ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิล
นอกจากนี้ปูตินกล่าวอย่างดุดันว่า รัสเซียจะเริ่มรับค่าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิล ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 เม.ย. และสัญญาจะยุติลงหากผู้ซื้อไม่ลงนามยอมรับเงื่อนไขใหม่ รวมถึงการเปิดบัญชีเงินรูเบิลกับธนาคารรัสเซีย
ล่าสุดนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุถึงเรื่องนี้ว่า “เดือดร้อนกันทั่วเริ่มวันนี้ ก๊าซรัสเซียที่จะส่งออกให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตร จะต้องจ่ายค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล ปูตินย้ำว่า จะขายก๊าซในราคาที่เคยตกลงกันไว้ แต่ต้องจ่ายด้วยเงินรูเบิล ปูตินพูดว่า ไม่มีใครขายของโดยไม่ได้รับเงิน และ(ก๊าซรัสเซีย)ไม่ใช่การกุศล สัญญาใด ๆ จะถูกระงับ ถ้าไม่จ่ายด้วยรูเบิล
ปูตินอ้างว่า อียูยึดเงินสำรองของรัสเซียไว้มากถึง 3 แสนล้านเหรียญและตอกหน้าว่า อเมริกันพยายามให้อียูซื้อก๊าซจากอเมริกันซึ่งแพงกว่ารัสเซียมาก อันจะเป็นผลให้สภาพคล่องของอียูลดลง ทำลายความสามารถในการแข่งขันของอียูในตลาดโลกด้วยน้ำมือของอียูเอง
Gazprom ธนาคารรัสเซียได้รับอำนาจให้เปิดบัญชีสำหรับลูกค้า ต่างชาติ แต่การเจรจาในการจ่ายด้วยเงินรูเบิลยังไม่ยุติ หากรัสเซียปิดท่อก๊าซเดือดร้อนกันทั่วหน้า”