หลังจากที่ “ดมิทรี เพสคอฟ” โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่า ยูเครนยื่นข้อเรียกร้องหลายประการต่อรัสเซียระหว่างเริ่มการเจรจาที่กรุงอิสตันบูลในตุรกีเมื่อวันอังคาร เพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมา 36 วัน
ขณะที่ผู้ใกล้ชิดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความเป็นไปได้ในการหยุดยิงเช่นเดียวกับการการันตีความมั่นคงต่อยูเครนจากนานาชาติ และทีมเจรจาของยูเครนยังเสนอว่า ยูเครนจะรับสถานะเป็นกลางและจะไม่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) หรือพันธมิตรทางการทหารอื่น ๆ แลกกับการที่ยูเครนจะได้รับการการันตีด้านความมั่นคงจากชาติตะวันตก ทั้งนี้รัสเซียยินดีที่ยูเครนยื่นข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร แต่รัสเซียยังไม่เห็นแนวโน้มที่จะนำไปสู่ข้อตกลงสุดท้ายได้
ล่าสุดนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ได้ระบุถึงเรื่องการเจรจาครั้งนี้ด้วยว่า “ไม่ทันข้ามวัน ข้อเสนอสันติภาพของยูเครนที่ยื่นให้ฝ่ายรัสเซีย ไม่ทันข้ามวัน ท่าทีไม่เอาก็ออกมาจากฝั่งรัสเซียทันที โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้สัมภาษณ์แสดงท่าทีสวนทางทันทีเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ว่า สถานะของไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจะไม่คุยเรื่องนี้กับยูเครนและใคร ๆ ทั้งสิ้น
ผู้นำยูเครนยังปากพาจน โม้ว่า ข้อตกลงสันติที่เสนอไปจะเกิดขึ้นได้ รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน และยูเครนจะยอมประนีประนอมเรื่องบูรณภาพดินแดนและอธิปไตย และเรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซียให้มากยิ่งขึ้น และต้องคืนความยุติธรรมให้ยูเครน แถมระบุว่า การถอนทหารของรัสเซียออกจากการปิดล้อมกรุงเคียฟเป็นกลลวงเพื่อสัปเปลี่ยนกำลังและรัสเซียยังสามารถทิ้งระเบิดยูเครนทางอากาศได้ ท่าทีอย่างนี้ มันจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย”
จนได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของผู้นำยูเครนด้วยว่า จนแต้มยังปากไม่ดี ยังไม่เจียมตัวอีก และคาไว้แบบนี้ ยู จะทำมาหากินอะไรได้ เสียกับเสีย น้ำมันเผลอ ๆ จะขาดแคลน คนโดนขังในเมือง ทหารรอบ้างรบบ้างอยู่ชุดเดียว ไม่ได้สับเปลี่ยน ทนได้ทนไป ทนไม่ได้ก็ซัดกันเอง ยึดอำนาจกันเอง จะได้พ้น ผู้นำพาอับจน
