เปโตรรูเบิลทรงพลัง!!ยุโรปกระอัก รัสเซียยันเส้นตาย31 มี.ค.จ่ายก๊าซเป็นรูเบิล ปิดท่อแน่ถ้าจ่ายเป็นยูโร

1449

ประกาสิตของรัสเซียกำหนดเส้นตายการจ่ายก๊าซเป็นเงินรูเบิลสิ้นเดือนนี้  ตอกย้ำอำนาจที่แท้จริงของรัสเซียคือน้ำมัน เมื่อ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า ‘ประเทศที่ไม่เป็นมิตร’ ต้องเปลี่ยนไปซื้อก๊าซและน้ำมันจากรัสเซียด้วยเงินรูเบิลภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทำให้ยุโรปอลหม่าน ล่าสุดกลุ่ม G7 ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเป็นรูเบิล ยืนยันจะจ่ายเป็นเงินยูโร ทั้งๆที่ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียห้ามเข้าถึงเงินดอลลาร์และยูโร เท่ากับกะจะเอาของเขาฟรีๆกระมัง แต่สินค้าเป็นของรัสเซีย รัสเซียจึงยืนยันว่าถ้าไม่จ่ายก็ไม่ต้องรับสินค้า 

ขณะที่สหภาพยุโรปประกาศว่าปัจจุบันการพึ่งพาก๊าซของรัสเซียจะไม่สิ้นสุดจนกว่าปี 2027 คืออีก 5 ปีข้างหน้า นั่นเท่ากับว่า ยุโรปกำลังเสี่ยงจะขาดแคลนพลังงานสาหัสถ้าแข็งขืนยืนยันตามใจฝ่ายตัวเอง เพราะปรากฏชัดว่าต่อให้สหรัฐส่งมาให้ก็ได้อย่างมากแค่ 11% ทดแทนจากที่ซื้อจากรัสเซีย

วันที่ 29 มี.ค.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียลงนามคำสั่งให้รัฐบาล ธนาคารกลาง และก๊าซพรอมแบงก์ (Gazprombank) ดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อเปลี่ยนการชำระเงินทั้งหมดสำหรับก๊าซธรรมชาติของรัสเซียจาก“รัฐที่ไม่เป็นมิตร”เป็นรูเบิลเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2565

มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมาย“ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปและประเทศอื่น ๆ ที่ได้คว่ำบาตรต่อพลเมืองของสหพันธรัฐรัสเซียและนิติบุคคลของรัสเซีย”

ดมิทรี เพสคอฟโฆษกของเครมลิน ยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่ารัสเซียจะหยุดจัดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศต่างๆ ที่ปฏิเสธที่จะชำระเงินในรูเบิลอย่างแน่นอน

การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีขึ้นในขณะที่การค้าน้ำมันของรัสเซียถูกผู้นำเข้าระงับคำสั่งซื้อเนื่องจากการคว่ำบาตรครั้งล่าสุด

ความขัดแย้งในยูเครนและการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียที่ตามมา ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภค พลังงาน และอาหารสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ และอาจถึงขั้น เกิดความอดอยากในบางพื้นที่ของโลก

การตัดสินใจของรัสเซียในการเปลี่ยนการชำระเงินเป็นสกุลเงินในประเทศนั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อบทลงโทษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกที่มีต่อระบบการเงินของรัสเซียประหนึ่งทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เศรษฐกิจใส่ให้รัสเซียล่มสลายนั่นเอง

เงินรูเบิลร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากชาติตะวันตกและญี่ปุ่นปิดกั้นไม่ให้รัสเซียเข้าถึงเงินสำรองระหว่างประเทศบางส่วน แต่นับตั้งแต่การประกาศเปลี่ยนสกุลเงินชำระสินค้าของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินรูเบิลได้กลับมาแตะระดับที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรในรอบเกือบหนึ่งเดือน

ด้านฝั่งยุโรปเต้นโวยวายไม่ยอมท่าเดียว โดยโรเบิร์ต ฮาเบ็ค(Habeck)รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของเยอรมนี เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักทั้ง 7 แห่งได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ตกลงร่วมกันที่จะปฏิเสธความต้องการของมอสโกในการจ่ายเงินสำหรับการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียเป็นรูเบิล

เขากล่าวว่า“รัฐมนตรี G7 ทุกคนเห็นพ้องต้องกันอย่างสมบูรณ์ว่าสิ่งนี้ เป็นการละเมิดสัญญาที่มีอยู่เพียงฝ่ายเดียวและชัดเจน” “การจ่ายเงินเป็นรูเบิลเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และนานาประเทศจะกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบไม่ปฏิบัติตาม”

ดูเหมือนว่ารัสเซียไม่สนใจว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้จะปฏิบัตรตามหรือไม่ ย่อมเป็นสิทธิเหนือสินค้าของรัสเซีย เมื่อผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้ขาย ผู้ขายย่อมมีสิทธิไม่ขาย รอชมต่อไปว่าสุดท้ายใครเดี้ยง

ช่างย้อนแย้งกับประกาศล่าสุดของสหภาพยุโรป  ที่คณะกรรมาธิการยุโรปยืนยันว่าสหภาพยุโรปจะยังคงพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียอย่างน้อยอีกห้าปี และไม่สามารถคว่ำบาตรพลังงานของรัสเซียตามที่สหรัฐร้องขอ เมื่อกลุ่มG7แตกแถวก็คงตัวใครตัวมัน ในการจัดการปัญหาพลังงานในประเทศของตน

ทิม แม็คฟี(Tim McPhie) โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปด้าน Climate Action และพลังงาน กล่าวว่าทางกลุ่มจำเป็นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงคาร์บอน จากรัสเซียจนถึงปี 2027  แต่สหภาพยุโรปคาดการณ์ว่าจะสามารถลดการพึ่งพาก๊าซรัสเซียได้สองในสามในปีนี้ และจะมีการเสนอแผนรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการบรรลุผลดังกล่าวภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ด้วย

ทั้งนี้สหรัฐอเมริกา ได้สัญญาจัดหาก๊าซ LNG ของสหรัฐป้อนให้สหภาพยุโรปเพื่อลดการพึ่งพาก๊าซรัสเซีย โดยปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้พบกับเจ้าหน้าที่ของบรัสเซลส์เพื่อพยายามผลักดันให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียด้วย แต่สหภาพยุโรปปฏิเสธโดยอ้างถึงความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหนัก

ทางกลุ่มเปิดเผยว่า ยุโรปจะซื้อก๊าซธรรมชาติ LNG จากสหรัฐฯประมาณ 5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ไปจนถึงปี 2030 ในราคาพื้นฐานที่สมเหตุผลในระยะยาว ถ้าดูตัวเลขที่แถลงออกมาก็ยังไม่สามารถทดแทนจำนวนที่เคยซื้อจากรัสเซียได้ ปัจจุบัน รัสเซียขายก๊าซให้ยุโรปประมาณ 40% ของความต้องการของสหภาพยุโรป โดยจัดหาให้ประมาณ 175,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีเป็นอย่างต่ำ มีกระแสข่าวว่า สหรัฐผลิตให้ประเทศตนเองก็แทบไม่พอ จะไปหาจากไหนมาให้ยุโรปตามสัญญา เจรจากับกลุ่มอ่าวอาหรับก็ล้มเหลว อ้อนวอนเวเนซูเอล่าก็ไม่สำเร็จ