จากกรณีที่เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าในสถานการณ์ม็อบสิงห์รถบรรทุกในสเปน ที่ประท้วงหยุดวิ่ง เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมัน และรัฐบาลได้ยอมแพ้ ยอมอุดหนุนเงินค่าน้ำมันให้ลิตรละราว 20 เซน โดยอ้างสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า
ผลการแบนพลังงานน้ำมันรัสเซีย แล้วโดนรัสเซียแบนสวนกลับนั้นรุนแรงยิ่งนักสร้างความปั่นป่วนเกิด “ระเบิดนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจ” ลงทุกประเทศในยุโรป ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นไม่หยุดตลอดเวลาในยุโรป สร้างความเสียหายวินาศในวงกว้าง เพราะพลังงานน้ำมัน คือ ต้นธารของการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตไฟฟ้า ต้นทุนทางการเกษตร ประชาชนเกิดอาการ “ตื่นตระหนก” กันไปทั่ว
พากันแห่ขับรถไปเข้าคิวเติมน้ำมันตามปั้มลิตรละกว่า 2.2 ยูโร (ราว 80 บาท) จนเกลี้ยงแทบทุกแห่ง จนต้องจำกัดจำนวนลิตรน้ำมันที่จะเติมต่อคัน ที่กระทบหนักสุดคือ “ระบบขนส่งโลจิสติก” บรรดาสิงห์รถบรรทุกทั้งหลาย ต่างจอดรถบรรทุกไว้นิ่งๆ ไม่ยอมวิ่งงานมานานกว่า 15 วันแล้ว ไม่ยอมขนส่งน้ำมันจากคลังไปปั้ม ปูนและเหล็กวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าจากท่าเรือ ฯลฯ ตำรวจก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้
แม้ว่ารัฐบาลสเปน จะยกธงขาวยอมแพ้ กราบกราน อุดหนุนเงินค่าน้ำมันให้ลิตรละราว 20 เซน (ราว 7.50 บาท) เหลือลิตรละ 1.96 ยูโร ( ราว 72.5 บาท) แต่นั่นไม่ตอบโจทย์ราคาน้ำมันที่สิงห์รถบรรทุกสเปนต้องการ ที่เคยใช้ราคาถูกจากรัสเซียแค่ลิตรละไม่เกิน 0.8 ยูโร (ราว 30 บาท) เท่านั้น ผู้ใช้แรงงานอย่างพวกเขา จึงยังคงชุมนุมต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมัน ปิดถนนนครมาดริด เมืองหลวงของสเปน ผนึกกำลังกับเกษตรกร และคนทำงานชนชั้นกลาง ที่ยึดใจกลางกรุงมาดริด ยืดเยื้อมาแล้วเกือบ 3 สัปดาห์ และไม่มีวี่แววจะยอมแพ้
ระหว่างรัฐบาลสเปน โปรสหรัฐ กับประชาชนชาวสเปนที่เดือดร้อนจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล ที่ไปยุ่งวุ่นวายกับปัญหายูเครน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน และสุดท้าย ทั้งประเทศเสปนก็ต้องรับเคราะห์ บริษัทห้างร้านจะต้องเริ่มเจ๊ง ปิดกิจการ เลิกจ้างพนักงาน เกิดภาวะว่างงาน อดอยาก ก่ออาชญากรรมแย่งชิงสิ่งของและอาหารจากคนร่ำรวย งานนี้ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพังกันไปข้างไม่งั้นไม่จบ..ส่วนปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็เล่นกับแมว จิบวอดก้า ให้กำลังใจม็อบสเปนสู้ต่อไป ชนะแน่นอน..เรื่องแบบนี้สื่อตะวันตก และสื่อไทยจะไม่พูด
ในขณะที่สถานการณ์ในญี่ปุ่นและอังกฤษ ที่ร่วมกันคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากช่วงนี้เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ข้ามทวีป (ICBM) รุ่นใหม่ลูกยักษ์ ถี่กว่า 10 ครั้งใส่ทะเลญี่ปุ่น ล่าสุดตกห่างจากเกาะฮอกไกโด แค่ 150 กม. ผสานแตะมือกับกองทัพรัสเซีย สั่งซ้อมรบถี่ยิบ ที่หมู่เกาะคูริล ตอนเหนือเกาะฮอกไกโด ล่าสุดส่งทหารรัสเซีย 3,000 นาย ซ้อมรบอาวุธหนักทางเรือรบ และยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-400 , พร้อมเครื่องบินรบโจมตี Su-27 , อาวุธต่อต้านรถถัง เรือสะเทินน้ำสะเทินบก ฯลฯ
เป็นสัญญาณว่าหากญี่ปุ่น ยังออกตัวแรงเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย คงไม่แคล้วเป็นดินแดน “ตำบลขีปนาวุธตก” ต่อจากยูเครน ชิงลำดับคิวปาดหน้าโปแลนด์ ที่ออกตัวแรงเป็นทางผ่านอาวุธไปให้ยูเครน ล่าสุดนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมายอมรับว่า “ระเบียบโลก ที่ชาติตะวันตกสร้างไว้ อาจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังทบทวนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ” (หยั่งเชิงอยากย้ายข้าง )
ด้านสหราชอาณาจักร ที่กำลังขาดแคลนก๊าซอย่างหนัก ทางการออกมาเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ผัก-พืชมีหัว มันฝรั่ง มันเทศ แครอท หัวบีท ฯลฯ นำมาประกอบอาหารด้วยการต้มสุก เพราะใช้เวลานาน และต้องใช้ก๊าซปริมาณมาก แต่รัฐบาลอังกฤษ ประกาศเต็มใจมอบเงิน 25 ล้านปอนด์ (กว่า 1,300 ล้านบาท) จรวดมิสไซด์ 6,000 ลูก ให้ยูเครน สู้กับกองทัพรัสเซียต่อไป จะชนะแน่นอน
ส่วนนายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน โกรธเกรี้ยวโวยวายว่า “ชาติตะวันตกขาดความกล้าหาญ ในขณะที่ประเทศของเขาต่อสู้เพื่อสกัดกั้นกองทัพรัสเซียเพียงลำพัง” ดังนั้น “ยูเครน ขอขีปนาวุธจากสหรัฐ วันละ 1,000 ลูก แบ่งเป็นจรวดต่อสู้รถถัง Javelin 500 ลูก และขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Stinger 500 ลูกต่อวัน เขาบอกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติตะวันตกให้มาทุกวันนี้ยังไม่พอถูกกองทัพรัสเซียทำลายและยึดไปใช้หมดแล้ว เขาจึงจะเอาอีก” เห็นสื่อตะวันตกและสื่อไทยบอกว่ายูเครน ประกาศชัยชนะทุกวันไม่ใช่เหรอ?
