จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (27 มีนาคม 2565) ทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์การประท้วงในยุโรปอย่างสเปนและฝรั่งเศส ที่ยังยืดเยื้อนานกว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยอ้างจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า
ฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในประเทศพี่ใหญ่กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) แม้ว่า นายเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เป็นเพียงผู้นำไม่กี่คนใน EU ที่กล้ายกหูคุยกับประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย และคุยกันได้นานกว่า 1.5 ชม.ก็ตาม แต่เขาก็แกว่งไปมาเมื่อโดนลูกพี่สหรัฐ บีบให้ทำโน่น นี่ นั่น ตามต้องการ
การเป็นชาติบิ๊กใน EU ทำให้กลายเป็น “หนังหน้าไฟ” ไปโดยปริยาย ต้องคอยรับผู้อพยพร้อยพ่อพันแม่จากชาติต่างๆ ที่สหรัฐ ไปสร้างวีระกรรมสงครามไว้ จนกรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส มีสลัมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด คนไร้บ้าน ขยะเกลื่อนไปหมด จนปารีส ชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก
แม้ว่าฝรั่งเศส จะไม่ได้ร่วมแบนน้ำมัน ก๊าซ ทั้งหมดจากรัสเซีย เพราะยังมีความจำเป็นต้องใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่เมื่อปลาอยู่ข้องเดียวกัน ก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย ฝรั่งเศส เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง น้ำมัน อาหาร ค่าครองชีพแพงขึ้น สถานการณ์โควิด บวกกับปัญหาที่โดนรัสเซีย จำกัดการใช้น้ำมัน ทำให้ผู้คนเริ่มทนไม่ไหว ม็อบสารพัดเริ่มดาหน้าออกมาสู่ท้องถนน
ม็อบที่น่ากลัวที่สุดของฝรั่งเศส คือ “ม็อบเสื้อกั๊กเหลือง” พวกนี้เป็นพวกฮาร์ดคอร์ สามารถก่อม็อบยืดเยื้อยึดปารีส เมืองหลวงนานเกิน 1 ปีได้โดยไม่เลิก นัดกันทุกสัปดาห์ ก่อม็อบวันไหนก็เละวันนั้น ทั้งขว้างปาก้อนหิน ระเบิดเสียง ระเบิดควัน ไปจนถึงเผาอาคารร้านค้า ถือเป็นม็อบที่ทรงพลัง และรัฐบาลเอือมระอาที่สุด
ล่าสุดม็อบเสื้อกั๊กเหลือง ก็มาตามนัด ก่อม็อบติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ ปิดถนน ชัทดาวน์ กรุงปารีส ฝรั่งเศส เพื่อประท้วงคำมั่นสัญญาต่างๆ ของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ที่ผิดคำสัญญา เคยเสนอวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายสำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายลง แต่ล้มเหลว ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน
ฝรั่งเศส กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ หากม็อบที่เชียร์ผู้สมัครอีกฝ่าย ออกมาไล่ผู้นำรัวๆ แบบนี้ และเกิดจราจลวุ่นวายขยายวง ประจวบกับม็อบสิงห์รถบรรทุกที่ปิดถนนจากน้ำมันแพง ผู้นำฝรั่งเศส ตอนนี้ก็อาการร่อแร่ คะแนนนิยมตก เพราะมัวไปวุ่นวายกับปัญหายูเครน จนเศรษฐกิจในชาติตกต่ำ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วเมื่อโดนม็อบเสื้อกั๊กเหลืองจอมป่วนเขย่าจนอาจตกเก้าอี้ผู้นำในสมัยต่อไปได้
ในขณะที่ สเปน เป็นหนึ่งในประเทศสหภาพยุโรป ที่ผู้นำโปรสหรัฐ เมื่อถูกสั่งให้แบนน้ำมัน ก๊าซ จากรัสเซีย ก็ทำตาม รัสเซียก็สวนกลับโดยปิดท่อส่งก๊าซบางท่อ ลดการผลิตน้ำมันป้อนยุโรป แบนขายปุ๋ย และอาหารให้ยุโรป ส่งผลให้ประชาชนเสปนเดือดร้อนอย่างหนักที่รัฐบาลสเปนดำเนินนโยบายผิดพลาดตามก้นสหรัฐ ที่อยู่ไกลเพียงเพื่อบีบให้ยุโรป ต้องมาซื้อน้ำมัน ก๊าซ จากสหรัฐในราคาแพงลิ่วกว่ารัสเซียเท่านั้น จึงเกิดบูมเบอแรงย้อนกลับ วนมาเล่นงานชาวยุโรปเดือดร้อนเสียเอง
บรรดาม็อบสิงห์รถบรรทุก ม็อบเกษตรกร ม็อบคนทำงาน และสารพัดม็อบที่เดือดร้อนจากพลังงานแพง จึงดาหน้าออกมาชัทดาวน์ ยึดนครมาดริด เมืองหลวงเสปน มานานต่อเนื่องกว่า 15 วันแล้ว และจำนวนม็อบทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตำรวจเอาไม่อยู่ ถนนในเมืองหลวงกลายเป็นอัมพาต และฝ่ายค้านสเปนผสมโรง ขย่มรัฐบาลในสภา ยิ่ง EU ถูกบีบให้ลงนามซื้อก๊าซราคาแพงลิ่วจากสหรัฐ ต่อเนื่องนานถึง 8 ปีไปแล้ว ยิ่งเหมือนเติมความโกรธให้กับประชาชนเพิ่มไปอีก
รัฐบาลสเปน ยามนี้ร่อแร่ ไม่รู้จะอยู่ต่อได้นานเท่าใด เพราะโดยธรรมชาติม็อบที่เดือดร้อนจริงๆ จากความหิว อดอยาก สินค้าอุปโภค บริโภค ขาดแคลน พลังงานราคาแพง รัฐบาลก็อยู่ยาก ถ้าไม่ยอมลาออก หรือยกเลิกแบนรัสเซีย กรุงมาดดริด สเปน ไม่นานจากนี้คงไม่พ้นเกิดจราจล ปะทะกับเจ้าหน้าที่แรกๆ จะเป็นแก๊สน้ำตา กระบอง เมื่อบาดเจ็บ ก็จะมีการวางเพลิงเผาอาคารสถานที่ จนถึงใช้อาวุธมาต่อสู้เจ้าหน้าที่ในที่สุด
รัฐบาลสเปน แบนรัสเซีย แต่ชาวบ้านตนเองเดือดร้อน “แบนเขาแต่เราเจ็บหนักกว่าจนเจียนตาย” ป่านนี้รัสเซีย คงกำลังยิ้มอ่อนให้กำลังใจม็อบชาวสเปน ว่าให้สู้ต่อไปชนะแน่นอน..ม็อบธรรมชาติยืดเยื้อเรื้อรังแบบนี้จบไม่สวยทุกครั้ง และรัฐบาลสเปนรอดยาก..ชาวบ้านยุโรปเดือดร้อน บ้านเมืองลุกเป็นไฟแบบนี้ สื่อตะวันตกและส่อไทยจะไม่พูด
