Truthforyou

ไทยกระหึ่มโลก! ผลิตวัคซีนลัมปีสกินได้เอง-คุณภาพเทียบตปท. ส่งขายนำเงินเข้าปท.ด้วย

จากที่วันนี้ 26 มีนาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาของประเทศไทย  ที่จะทำให้โลกได้รู้จักและอาจหันมาพึ่งพาไทยด้วย

ทั้งนี้รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า จากปัญหาการเกิดโรคลัมปีสกินในโค-กระบือ(Lumpy SkiDisease) : LSD ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ดีของรัฐบาล และความร่วมมือของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น

“ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรและประชาชนได้ดำเนินการตามมาตรการสำคัญๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถควบคุมโรคให้หยุดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคสำเร็จแล้ว ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรกรณีโคและกระบือตายด้วยโรคลัมปีสกิน คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้ จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ครบตามที่ลงทะเบียนไว้”

นอกจากนี้ นางสาวรัชดา ยังกล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ในช่วงที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้นำเข้าวัคซีนมาแล้ว 5.3 ล้านโดสใช้งบประมาณกว่า 160 ล้านบาท และภาคเอกชน สมาคม และกลุ่มกลุ่มเกษตรกรนำเข้ามาอีกประมาณ 5 แสนโดส มูลค่าประมาณ 22.5 ล้านบาท เป็นมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือและเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านวัคซีน

“นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการพัฒนาการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน ขณะนี้ประสบความสำเร็จ ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเทียบเท่ากับวัคซีนที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะผลิตวัคซีนชุดแรกแล้วเสร็จช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ในราคาต้นทุนโด้สละ 9 บาท ซึ่งในช่วงปีแรก (มิ.ย. 2565 – พ.ค. 2566) สามารถผลิตวัคซีนได้ มีมูลค่า 6 ล้านบาท หากต้องนำเข้าจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณถึง 27 ล้านบาท ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากถึง 21 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการใช้สำหรับการควบคุมและป้องกันภายในประเทศ รวมถึงสัตว์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน กรมปศุสัตว์ได้ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน เชื้อตายให้สามารถผลิตได้เดือนละ 5 แสน ถึงกว่า 1 ล้าน โด๊ส หากกำลังการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศได้กว่าปีละ 280 ล้านบาท อีกทั้ง สามารถส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย นอกจากนี้การฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงยังนำไปสู่การกำจัดโรคลัมปีสกินให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างถาวรในอนาคต

“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมบุคลากรส่วนราชการภายในกรมปศุสัตว์เป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่หยุดคิดค้นพัฒนา ทำการวิจัยจนประสบความสำเร็จสามารถผลิตวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศผลความสำเร็จดังกล่าวช่วยให้ประเทศไทยประหยัดงบประมาณได้ปีละหลายล้านบาท ทำให้สามารถนำงบประมาณมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก้ไขปัญหาพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง ถือเป็นบุคลากรตัวอย่าง ขอให้อย่าหยุดพัฒนา นำความรู้ความสามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา” รองโฆษกรัฐบาล กล่าว

Exit mobile version