ลุยข้ามช็อต!!ไทยลงนามเกาหลีใต้ ตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตฯอาเซียน-เกาหลีใต้ รองรับอุตฯ4.0 เกษตรอัจฉริยะ

925

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า นายกฯ เร่งผลักดันการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ (ASEAN-Korea Industrial Innovation Center: AKIIC) ให้สำเร็จภายในปี 2566 เน้นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอุตสาหกรรม โดยกระทรวงพาณิชย์และสวทช.จะเข้าร่วมเป็นกรรมการศูนย์ด้วย

วันที่ 25 มี.ค.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมทั้งยินดีกับความสำเร็จอีกก้าวในการเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในภูมิภาค โดยภายหลังที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ให้กระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้แทนไทย เป็นผู้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ (ASEAN-Korea Industrial Innovation Center: AKIIC) โดยคาดว่าการลงนามฯ จะจัดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นี้ และสามารถจัดตั้งศูนย์ AKIIC ณ ประเทศเกาหลีใต้ ภายในปี 2566 ซึ่งจะเน้นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การทำวิจัยร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ AKIIC จะเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนและเกาหลีใต้ ทั้งภาครัฐและหน่วยงานเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ และพัฒนานวัตกรรม การลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะผู้กำกับดูแลเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เป็นอีกกลุ่มผู้แทนไทยในการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารศูนย์ AKIIC ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ และ สวทช. จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ AKIIC ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการสนับสนุนการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ของไทยในกลุ่มสาขาเป้าหมายผ่านการขับเคลื่อนด้วยความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรมเพื่อผลิตสินค้าและบริการที่หลากหลายและสร้างมูลค่าได้เพิ่มขึ้น เช่น การส่งเสริมด้านการเกษตรอัจฉริยะด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตทำการเกษตร ให้เกิดประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ลดต้นทุน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

“รัฐบาลมุ่งมั่นเสริมสร้างกลไกในการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของคนไทย และประเทศไทยให้เท่าทันการพัฒนาของโลก โดยศูนย์ AKIIC ถือเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 

อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ต่อยอดความร่วมมือในระดับภูมิภาคอย่างอาเซียนเพื่อพัฒนานวัตกรรมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพทางอุตสาหกรรมให้เกิดผลประโยชน์และมูลค่าเพิ่มเติมเชิงพาณิชย์ในระดับนานาชาติ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 ยานยนต์สมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง เครื่องมือแพทย์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิงอีกด้วย” นายธนกรฯ กล่าว

ในปีนี้อาเซียนและเกาหลีใต้อยู่ระหว่างศึกษาการทบทวนความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) ให้ทันสมัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น และประเด็นที่ควรปรับปรุงความตกลงฯ ซึ่งไทยสนใจประเด็นการเปิดตลาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเสนอให้เกาหลีใต้เปิดตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น อาทิ มะม่วง ทุเรียน มันสำปะหลังอัดเม็ด พลาสติก พาร์ติเคิลบอร์ด สิ่งทอ และสินค้าประมง

สำหรับในปี 2564 ไทยกับเกาหลีใต้มีการขยายตัวทางการค้ามากที่สุดในรอบ 30 ปี และเกาหลีใต้เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,883 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,919 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ทั้งนี้ จากสถิติการค้าของไทยนับตั้งแต่ที่ความตกลง AKFTA มีผลใช้บังคับเมื่อปี 2553 จนถึงปี 2564 พบว่า การค้ารวมของไทยมีมูลค่า 15,802 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 92%