ในที่สุดก็ถึงวันแตกหัก ผลการประชุมนาโต้ที่มีสหรัฐและผู้นำ และปธน.โจ ไบเดนไปประชุมด้วยตัวเองที่บรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม นาโต้ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือแก่ยูเครนและออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ สหรัฐฯเปิดเผยว่ากำลังจะยึดทองคำของรัสเซียที่ฝากไว้ในธนาคารสหรัฐและยุโรป เรื่องนี้รัสเซียคาดไว้ล่วงหน้า เพราะรู้ว่าเมื่อถึงจุดร้อนจะโดนเหมือนที่อังกฤษยึดทองของเวเนซูเอลาทั้งหมด ป่านนี้ยังไม่คืน ภาษาบ้านๆเขาเรียกว่าปล้นกันแบบหน้ามึนด้วยข้ออ้างหรูหราปกป้องประชาธิปไตยและพรรคพวก
เมื่อ 24 มี.ค.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และรอยเตอร์รายงานว่า ผลจากการประชุมผู้นำนาโต้ สหรัฐฯประกาศจะรับผู้อพยพชาวยูเครนประมาณ 100,000 คน และจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครนประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแบ่งเบาภาระและลดแรงกดดันของประเทศในยุโรปที่เปิดรับผู้อพยพชาวยูเครน อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ประเมินว่า ชาวยูเครนจำนวนมากน่าจะเลือกอยู่ในยุโรปเพื่อให้อยู่ใกล้ประเทศของตน
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในวันเดียวกัน โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกคำเตือนว่าการทำธุรกรรมทองคำที่เกี่ยวกับรัสเซียจะถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร พร้อมทั้งประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานและ จนท.ของรัสเซียเพิ่มเติม เช่น บริษัทค้าอาวุธของรัสเซีย 68 แห่ง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัสเซียหรือสภาดูมาจำนวน 328 คน เท่ากับตัดขาดทางการทูตเกือบสิ้นเชิงหลังขับไล่ทูตและเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซียกันอย่างอื้ออึงทั้งสหรัฐและประเทศบริวาร
รัสเซียถือทองสำรองประมาณ 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก ประเทศได้เพิ่มการซื้อทองคำในปี 2014 หลังจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิกฤตยูเครนในขั้นต้น มอสโกว์มีมากกว่าสองเท่าของการถือครองตั้งแต่นั้นมา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในคลังของรัสเซียเอง
ผลการประชุมนาโต้ออกมาแบบนี่ทำยูเครนถึงกับเซ็ง เมื่อพบว่าสหรัฐและนาโต้ยังป๊อด ไม่กล้าเปิดหน้าชนแบบอาจหาญ แค่สัญญาให้อาวุธเพิ่มดันหลังให้สู้รัสเซียต่อไป
พวกผู้นำนาโต้ที่กำลังประชุมกันในบรัสเซลส์ เห็นพ้องช่วยยูเครนปกป้องตนเองจากการถูกโจมตีใดๆ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่าวอชิงตันและพันธมิตรกำลังทำงานร่วมกันในการมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือให้แก่เคียฟ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงข่าวในบรัสเซลส์ว่า “สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือการคงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และการที่โลกจะยังคงเพ่งเล็งไปที่ความโหดเหี้ยมของปูติน และทุกชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียและถูกทำลาย”
อย่างไรก็ตาม คำสัญญาสนับสนุนจากบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งมีสัดส่วนทางเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีโลก ไม่เป็นไปตามเสียงเรียกร้องของยูเครน ที่ร้องขอให้คว่ำบาตรหนักหน่วงกว่านี้ รวมถึงแบนนำเข้าพลังงานรัสเซียทั้งหมด สรุปว่าถูกเทซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังไม่รู้สึก
อุปทานก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของอุปสงค์ทั้งหมดของอียู ในขณะที่อุปทานน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอียู ดังนั้น หลายประเทศที่พึ่งพิงอุปทานพลังงานจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี จึงมีความลังเลแบนนำเข้าพลังงานจากมอสโก เนื่องจากเกรงว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจใหญ่หลวง ทั้งกระแสกดดันจากประชาชน มีการประท้วงระดับที่เรียกว่า ยุโรปสปริงส์อย่างกว้างขวาง ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี สเปนซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
ในความเคลื่อนไหวที่ทำให้ยุโรปต้องเผชิญสภาวะลำบากมากขึ้นไปอีก ปูตินประกาศบังคับให้ชาติ “ที่ไม่เป็นมิตร”ที่คว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งรวมถึงพวกชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด จ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล โดยให้แบงก์ชาติรัสเซียทำเรื่องนี้ภายใน 1 อาทิตย์
จาเนซ แจนซา ตัวแทนจากสโลวะเกีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีใครจะจ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล” ส่วน อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป(Ursula von der Leyen) เรียกมันว่าเป็นการ “แบล็กเมล์” โกรธกันหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ก็ทำอะไีรรัสเซียไม่ได้ เพราะเขาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์
พวกผู้นำนาโต้ระบุในถ้อยแถลงร่วมว่าพวกเขามีความเป็นหนึ่งเดียวกันและมีความมุ่งมั่นในความตั้งใจต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนชาวยูเครน และปกป้องความปลอดภัยของพันธมิตรทุกชาติ
นาโต้ ซึ่งได้เพิ่มกำลังพลทางปีกตะวันออก เป็นกว่า 40,000 นาย กระจายกันไปตามแถบคาบสมุทรบอลติกไปจนถึงทะเลดำ ได้เห็นพ้องจัดตั้งหน่วยประจัญบานใหม่ ในบัลแกเรีย โรมาเนีย ฮังการี และสโลวะเกีย
ขณะเดียวกัน พันธมิตรนาโต้แห่งนี้ยังพาลไปขู่จีนด้วย ว่าควร “ละเว้นจากการให้การสนับสนุนความรัสเซียในสงครามของยูเครน ไม่ว่าในแนวทางใดก็ตาม และยับยั้งความเคลื่อนไหวใดๆ ที่ช่วยรัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรด้วย”
ไบเดน บอกว่าจีนควรตระหนักว่าอนาคตทางเศรษฐกิจของพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตกมากกว่ารัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้เคยเตือนปักกิ่งว่าจะเจอผลลัพธ์หนักหน่วงหากว่าให้ความช่วยเหลือสงครามของมอสโกในยูเครน
สัญญาณของนาโต้คือการเตรียมปะทะอย่างเห็นได้ชัด เมื่อการทูตล้มเหลวสงครามข่าวสารได้เปรียบ ขั้นต่อไปคือการเผชิญหน้าด้วยกำลังรบ เพราะผู้ต้องการก่อสงครามตัวจริงยังไม่หยุด แม้ด่านหน้าอย่างยูเครนจะถดถอยใกล้แพ้เบ็ดเสร็จลงเรื่อยๆก็ตาม สถานการณ์เช่นนี้หมายถึงโลกจะถูกลากเข้าสู่สงครามใหญ่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง??
