ยูเครนกลับลำ? หันหน้าหาจีน ขอให้ช่วยยุติปมเดือดกับรัสเซีย วงในเผย เบื้องหลัง “เซเลนสกี” วางแผนคุย “สี จิ้นผิง”

1454

ทำให้ทั่วโลกจับตามองอีกครั้ง หลังจากที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าข้อตกลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเจรจาสันติภาพ เพื่อยุติสงครามยูเครน-รัสเซียนั้น จะต้องนำไปผ่านการลงประชามติรับรองของชาวยูเครน

ส่วนข้อตกลงประนีประนอมจะจบในรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่กำลังดำเนินอยู่ เซเลนสกีระบุว่า เขาพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็น ถ้าหากว่าชาวยูเครนสนับสนุนการตัดสินใจของเขา นอกจากนี้ยังมองถึงความจำเป็นที่จะต้องพบกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ว่าจะพบกันในรูปแบบใดก็ตาม เพื่อยุติการสู้รบในยูเครน

ทั้งนี้ที่ผ่านมา จะเห็นท่าทีของสหรัฐฯที่มีต่อยูเครน ที่ออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อหวังจะเป็นทางออกบีบให้รัสเซียยอมยุติปมเดือดกับยูเครน แต่นับวันยิ่งมีแต่ความยืดยื้อ และท่าทีของสหรัฐฯ ที่เริ่มไม่พอใจต่อจีน ที่ยังคงวางตัวไม่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย

ล่าสุดแชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานเปิดเผยว่า ผู้ช่วยอาวุโสของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้จีนแสดงบทบาทที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ในการยุติสงครามที่เกิดจากที่รัสเซียรุกเข้ามาในดินแดนของยูเครน นอกจากนี้ยูเครนยังเรียกร้องให้จีนเป็นผู้ค้ำประกันความมั่นคงในอนาคต


“แอนดริว เยอร์มัค” ซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานของเซเลนสกี ถือเป็นบุคคลใกล้ชิด ได้เปิดเผยด้วยว่า เขาคาดว่าจะมีการเจรจาเร็ว ๆ นี้ ระหว่างผู้นำของยูเครนกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดเพิ่มเติม

ทั้งนี้จีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย ทั้งในด้านพลังงาน การค้าและความมั่นคง ขณะเดียวกันจีนก็เป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของยูเครนด้วย ที่ผ่านมาจีนพยายามต้านแรงกดดันจากชาติตะวันตก ที่ต้องการให้จีนประณามการรุกรานของรัสเซีย “จนถึงตอนนี้ เราได้เห็นจุดยืนที่เป็นกลางของจีน และอย่างที่ผมพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เราเชื่อว่าจีนควรมีบทบาทที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในการยุติสงครามครั้งนี้ รวมถึงบทบาทในการสร้างระบบความมั่นคงระดับใหม่ของโลก”

 

“เรายังคาดหวังให้จีนมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ กับระบบความมั่นคงใหม่นี้สำหรับยูเครน และเรายังคาดว่าจีนจะเป็นหนึ่งในผู้ค้ำประกันภายในกรอบรักษาระบบความมั่นคงนี้ เราปฏิบัติต่อจีนด้วยความเคารพสูงสุด และเราคาดว่าจีนจะมีบทบาทเชิงรุกในเรื่องนี้ ”