จากสถานการณ์ในยูเครนที่ทางรัสเซียยังคงเดินหน้าเข้ายึด ซึ่งมีแผนการที่วุดแยบยล โดยมีการวิเคราะห์ให้ข้อมูลจากผู้ฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มาให้ความเห็นไว้ในช่วงสัปดาห์นี้อย่างต้องจับตาว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่สำคัญนั้น
ทั้งนี้นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาโพสต์ข้อความไว้ถึงสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ว่า จับตาสัปดาห์อันตราย!!!!
1.รัสเซียได้เริ่มใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงสิบเท่าถล่มยูเครนไปสองรอบแล้วโดยไม่มีอาวุธใดของยูเครนต้านทานได้ และรัสเซียได้ยื่นคำขาดให้ทหารยูเครนที่ได้รับการฝึกมาจากนาโต้วางอาวุธซึ่งพ้นกำหนดยื่นคำขาดแล้ว จึงเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงสิบเท่านี้แต่ติดหัวรบนิวเคลียขนาดเล็กเพื่อทำลายล้างทหารยูเครนพวกนี้ชนิดล้างแผ่นดิน และเพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือนที่เข้มข้นต่อไบเดนและต่อนาโต้และสภายุโรปที่จะประชุมกันในสัปดาห์นี้
2.ในยุโรปนั้นรัสเซียตั้งเป้าหมายหลักประเทศที่เป็นปรปักษ์ร้ายแรงคืออังกฤษ ซึ่งรัสเซียได้เตือนแล้วว่าถ้าอังกฤษยังไม่หยุดการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อรัสเซียและยังส่งอาวุธให้ยูเครนต่อไปรัสเซียอาจถล่มอังกฤษโดยใช้เวลาห้านาทีเท่านั้น
3.ทางแปซิฟิก เกาหลีเหนือได้ทดลองขีปนาวุธถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ในสัปดาห์นี้อาจมีการประสานเสียงทดลองขีปนาวุธร้ายแรงระดับนิวเคลียเล็กรอบเกาะญี่ปุ่นหรือแถวเกาะกวมก็ได้
4.อิหร่านได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่าจะถล่มฐานปฏิบัติการของอิสราเอลอีก2ฐานในอิรัก หลังจากที่ได้ถล่มฐานแรกพินาศยับเยินไปแล้ว และการถล่มสองฐานนี้น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้แต่ระดับความร้ายแรงน่าจะมากกว่าฐานแรกหลายเท่า
และถ้าอิสราเอลตอบโต้อิหร่านก็ได้บอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าได้เตรียมขีปนาวุธไว้ถึงหกหมื่นลูก!!! สัปดาห์นี้จึงเป็นสัปดาห์ของความระทึกใจของผู้ติดตามสงคราม
แต่ก็อย่าลืมชำเลืองมองสองฝั่งฟากแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐไว้บ้าง เพราะที่นั่นก็เป็นเป้าหมายสำคัญของรัสเซียตามที่ได้ประกาศไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามล่าสุดวันนี้ 22 มีนาคม 2565 อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีรัสเซียที่ใช้แผนเข้ายึดยูเครนไว้อย่างน่าสนใจว่า
“เป็นครั้งแรกที่สื่อทหารจีนระบุว่า รัสเซียใช้ กลยุทธ์” ล้อมแต่ไม่ตี และตีโดยไม่ล้อม”ในสงครามยูเครน โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่เขตนั้นรัสเซียใช้กลยุทธ์ล้อมแต่ไม่ตี จากนั้นก็ถล่มทีเดียว
ชื่อกลยุทธ์นี้ ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ในสงครามปลดแอกภาคอีสานของจีน เป็น 1 ใน 3 ในยุทธการสำคัญ คือ”ยุทธการเหลียว-เสิ่น” ซึ่งเหมาเจ๋อตง ออกคำสั่งยุทธการ ให้กองทัพตงเป่ย ที่มีจอมพลหลินเปียวเป็นผู้บัญชาการ นำทหารจำนวน 5แสนคนเข้ายึดภาคอีสาน ซึ่งกองทัพก๊กมินตั๋ง กำลังพลล้านห้าแสนคนรักษาพื้นที่อยู่ และได้ชัยชนะอย่างงดงาม สามารถจับทหารก๊กมินตั๋งได้ล้านคน
และทำให้ดุลกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายเท่ากัน จากนั้นเหมาเจ๋อตงจึงออกคำสั่งยุทธการหวายไห่ ให้จอมพลหลิวป๋อเฉิงเติ้งเสี่ยวผิง นำทัพ 5 ล้านคน ยึดภาคกลาง-ตะวันตก ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งมีกองทัพก๊กมินตั๋ง 7 ล้านคนรักษาพื้นที่อยู่ และได้ชัยชนะอย่างงดงามด้วย
การที่รัสเซียล้อมกรุงเคียฟ ไว้หลายวัน แต่ไม่ตี ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่ารัสเซียบุกไม่ได้แล้ว มาถึงวันนี้ความจริงก็ชัดเจน
ก็อยากจะบอกว่ากองทัพรัสเซียจีนอิหร่านและเกาหลีเหนือนั้น เขาได้จัดตั้งคณะเสนาธิการผสม มาระยะหนึ่งแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ในช่วงสงครามอิรัก-ซีเรีย ซึ่งที่นั่น ผมก็ได้วิเคราะห์สงครามว่า ได้ใช้ยุทธการเเหลียวเสิ่นเช่นเดียวกัน
ยุทธวิธีเหล่านั้นไม่ปรากฏว่าเคยใช้ใน ประเทศมุสลิม รวมทั้งรัสเซียด้วย และในสงคราม ยูเครนนั้น รัสเซียไม่ได้ใช้แผนการศึก ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ดังที่บางท่านวิเคราะห์ เพราะ สงครามนั้นเป็นสงครามเชิงรับไม่ใช่สงครามเชิงรุกเหมือนสงครามยูเครน”