อดีตรองอธิการ มธ. ชำแหละยับ ยูเครนฉวยโอกาสปั่นสื่อสู้รัสเซีย แฉแผน “เซเลนสกี” เลือกยื้อเกม ทั้งที่มีทางออกยุติปมเดือด!

1315

หลังจากที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาประกาศว่า พร้อมแล้วที่จะเจรจาสันติภาพกับประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย แต่ก็ออกมาเตือนว่า ถ้าการเจรจาล้มเหลว นั่นอาจหมายถึง การต่อสู้ที่จะบานปลายกลายเป็น “สงครามโลกครั้งที่ 3” ได้เช่นกัน

ล่าสุดทางด้านรศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ยังยืดเยื้อ ไม่จบลงง่าย ๆ ซึ่งความจริงประธานาธิบดีแห่งยูเครน มีทางเลือกที่จะยุติสงครามได้ง่าย ๆ หยุดการสูญเสีย หยุดความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่เขาเลือกที่จะให้สงครามดำเนินต่อไป ภายใต้การสนับสนุนทุกทางจากสหรัฐอเมริกา และชาติอื่น ๆ ในนาโต้ ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ยังไม่มีการส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครนเท่านั้น

 

สงครามครั้งนี้ทำให้เห็นสัจธรรมข้อหนึ่งคือ “เสรีภาพของสื่อ และความเป็นกลางของสื่อ ไม่มีในโลก” สำนักข่าวที่รายงานข่าวที่ทำให้ รัสเซียและประธานาธิบดีปูติน ไม่ดูเป็นผู้ร้าย ล้วนถูกแบนออกจากช่องทางต่าง ๆ ที่เป็นของสหรัฐอเมริกา ทั้ง facebook และ youtube คลิปต่าง ๆ ที่เป็นการวิเคราะห์วิจารณ์สงครามครั้งนี้ หากเป็นคลิปที่เห็นอกเห็นใจรัสเซีย ก็จะถูกลบออกไปเป็นส่วนใหญ่

 

 

 

 

การทำสงครามข่าวสาร และสงครามจิตวิทยา ดูเหมือนว่าฝ่ายยูเครนจะชนะรัสเซีย อาจเป็นเพราะประธานาธิบดียูเครน ถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว และฝ่ายยูเครน มีสำนักข่าวยักษ์ใหญ่จากตะวันตกสนับสนุน แต่บางครั้งฝ่ายตะวันตกก็เสียหน้าเมื่อนำข่าวที่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นจริง หรือกระทั่งตั้งใจนำข่าวที่ไม่เป็นจริงมานำเสนอ

กรณีที่น่าสนใจมากคือกรณี Snake Island ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งของยูเครน อยู่ในทะเลดำ เรื่องมีอยู่ว่า BBC และ CNN และยังมีสำนักข่าวฝ่ายตะวันตกอื่น ๆ รายงานว่า ที่ Snake Island นี้ มีทหารยูเครนอยู่ 13 นาย ในข่าวได้เปิดคลิปเสียงที่เป็นประกาศจากเรือรบของรัสเซีย ให้ทหารทั้ง 13 นายวางอาวุธ มิฉะนั้นเรือรบจะเริ่มโจมตี

ตามข่าว รายงานว่า ทหารยูเครนทั้ง 13 นาย ไม่ยอมวางอาวุธ ต่อสู้จนเสียชีวิตทั้งหมด และยังรายงานว่า รัฐบาลยูเครนกำลังจะจัดพิธีเชิดชูเกียรติให้ทหารที่เสียชีวิต และยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ ต่อมาไม่นาน จีงมีรายงานข่าวหลายสำนักที่ยืนยันว่า ความจริงแล้ว ทหารยูเครนไม่ได้มีแค่ 13 นาย แต่มีมากกว่านั้นมาก และทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ภายใต้การดูแลของรัสเซียในฐานะเชลยศึก

จะเห็นว่าสำนักข่าวระดับนี้ยังรายงานข่าวที่เป็น fake news ได้อย่างดูเป็นจริงเป็นจัง จนคนกว่าครึ่งโลกเห็นแล้วเชื่อ และจะมีสักกี่คนที่ คอยติดตามค้นหาจนพบว่า จริง ๆ แล้วข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ประธานาธิบดีปูติน จึงจะยังเป็นผู้ร้ายในสายตาของคนส่วนใหญ่ในโลก โดยเฉพาะในประเทศตะวันตก

ดังนั้น ในสงครามข่าวสาร รัสเซียจึงไม่มีทางสู้สหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกได้เลย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เรายังคงเห็นการส่งข้อความว่า “Pray for Ukraine” กันทุกวัน

ได้ยินเด็กอายุ 8 ขวบคนหนึ่ง ตั้งคำถามว่า “ใครจะชนะสงคราม อยากให้ยูเครนชนะ เพราะยูเครนเป็นคนดี รัสเซียเป็นผู้ร้าย” ชัดเจนว่า รัสเซียพ่ายแพ้อย่างราบคาบ