จากกรณี ซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ดึงสกุลเงินหยวนของจีนเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก ด้วยการกำหนดราคาน้ำมันบางส่วนที่ขายให้จีน ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็น “สกุลเงินหยวน”นั้น
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังเร่งเครื่องเจรจากับจีน และถ้าซาอุดีอาระเบียขายน้ำมันให้จีนเป็นเงินหยวน ก็จะถือเป็นการ ลดทอน อิทธิพลของสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ที่มีต่อตลาดน้ำมันโลก และแสดงถึงการหันหน้าเข้าหาเอเชียของซาอุดีอาระเบียด้วย
ก่อนหน้านี้ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร แห่งซาอุดิอาระเบีย และเจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ปฏิเสธคำขอพูดคุยผ่านโทรศัพท์กับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่ออ้อนวอน 2 ชาติมหาอำนาจน้ำมันโลก ช่วยผลิตน้ำมันเพิ่ม ต่อมากลุ่มโอเปคได้ออกมาแถลงแบบแสบสันต์ว่า “ไม่อาจเนรมิตน้ำมันให้สหรัฐตามต้องการได้ เพราะตกลงโควต้าน้ำมันกับรัสเซียไว้แล้ว”
ล่าสุดวันนี้ 21 มีนาคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุถึงเรื่องดังกล่าวไว้บางส่วนที่น่าสนใจว่า
“การคว่ำบาตรน้ำมันล้มเหลวแล้ว พวกนาโต้ที่นำโดยสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียในเรื่องน้ำมันหวังจะทำลายระบบเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่ปรากฎว่า ณ วันนี้การคว่ำบาตรนั้นล้มเหลวสิ้นเชิงแล้ว และเกิดผลกระทบย้อนกลับ แก่พวกนาโต้ EU อย่างร้ายแรง
ประเทศยุโรปต้องพึ่งพาน้ำมัน และพลังงานจากรัสเซียจำนวนมาก เมื่อมีการประกาศคว่ำบาตรก็เกิดการตื่นตระหนก เกิดการกักตุน และขึ้นราคาน้ำมันจนสูงมาก ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวาง จนเกิดประแสต่อต้านในยุโรป และประเทศที่เกี่ยวข้องก็ทนเจ๊งไม่ไหว
ดังนั้นต่างคนต่างเอาตัวรอด และประเทศยุโรปครึ่งหนึ่งไม่ยอมคว่ำบาตรในเรื่องนี้ แม้แต่อังกฤษ ก็ยังขอขยายเวลาการคว่ำบาตรไปอีก 1 ปี และยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียอยู่ต่อไป เช่นเดียวกับสหรัฐก็ยังระดมซื้อ และระดมขนน้ำมันครั้งมโหฬาร โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรจะมีผลวันที่ 22 เมษายน
ประเทศยุโรปพยายามหาแหล่งน้ำมันและพลังงานจากประเทศอื่น แต่ปรากฎว่าไม่ได้ผล เพราะประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ยอมผลิตเพิ่มจากจำนวนผลิตเดิม ซึ่งมีข้อตกลงขายไว้ก่อนแล้ว นอกจากนั้นประเทศอาหรับทั้งหลาย ได้แปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับรัสเซีย จีน และอิหร่าน กันโดยทั่วไป นำโดยซาอุฯ ยูเออี (UAE) กาตาร์ และบาเรน ซึ่งแน่นอนว่าอิรัก และซีเรียก็ร่วมด้วยช่วยกัน
โดยการขายน้ำมัน และรับชำระเงินด้วยเงินหยวน ทำให้กระทบต่อการใช้ดอลล่าห์ และมีผลต่อการถอนรากถอนโคนระบบเปโตรดอลล่าร์ของสหรัฐ ซึ่งนั้นหมายถึงการปิดยุคการล่าอาณานิคม ดังที่ประธานาธิบดีปูตินแถลงไว้
สำหรับซาอุฯ ถือโอกาสล้างแค้นสหรัฐ เพราะไบเดนเคยประกาศที่จะดำเนินคดีกับมกุฏราชกุมารของบิน ซัลมานของซาอุฯ มาก่อน และซาอุฯรู้สึกว่าถูกแบล็กเมล์ ถูกบังคับมาโดยตลอด จึงใช้โอกาสนี้ล้างแค้นหันไปร่วมกับรัสเซีย และจีน และประกาศว่าไม่สนใจสหรัฐว่าจะรู้สึกกับซาอุฯ อย่างไร
โดยเฉพาะการขายน้ำมันด้วยเงินหยวนนั้น ถือเป็นการล้างแค้นที่รุนแรงมาก เพราะเป็นการทำลายเปโตรดอลล่าร์ โดยตรงและทำให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลักของโลก
กระแสการคว่ำบาตรพลิกกลับ ทั้งชาวยุโรป และชาวอเมริกันได้ก่อตัวกันเดินขบวนคัดค้านรัฐบาลของตนที่คว่ำบาตรรัสเซีย และขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เมื่อวานนี้เกษตรกร กรีกนำเครื่องจักรเครื่องยนต์มาชุมนุมประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่ให้ยกเลิกการคว่ำบาตร เกิดอาการแตกภายใน และเป็นสัญญาณแห่งความปราชัยในสงครามคว่ำบาตรน้ำมันแล้ว”