ทั่วโลกจับตาและรอฟังผลการพูดคุยระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำจีนว่า จะสามารถหยุดสงครามยูเครนได้หรือไม่ แต่ก็ต้องผิดหวังในหลายฝ่าย เพราะผลที่ออกมาคือ จุดยืนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะสหรัฐยังออกแนวข่มขู่จะลงโทษ ห้ามจีนช่วยรัสเซีย ขณะที่จีนแม้จะพูดด้วยวาจาสุภาพแต่ความหมายนั้นแข็งกร้าวในจุดยืนที่คัดค้านการคว่ำบาตรตามอำเภอใจของสหรัฐ ที่ตลอดมาผู้นำและฝ่ายบริหารของจีนยืนยันว่า เป็นการกระทำฝ่ายเดียวและผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
วันที่ 19 มี.ค.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนอบรมปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐชุดใหญ่ ยืนยันสนับสนุนให้สหรัฐฯ และ NATO สนทนากับรัสเซียเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่เบื้องหลังวิกฤตยูเครน และแสดงจุดยืนต่อต้านการคว่ำบาตรตามอำเภอใจ ระหว่างการประชุมทางวิดีโอกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สีกล่าวว่า “วิกฤตในยูเครนไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น และเหตุการณ์ก็แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าประเทศต่างๆ ไม่ควรมาถึงจุดนัดพบในสนามรบ ความขัดแย้งและการเผชิญหน้าไม่ได้เป็นความต้องการของใครในโลก สันติภาพและความมั่นคงต่างหากคือสิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศให้ความสำคัญมากที่สุด”
หลังจากที่ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่ได้แสวงหาสงครามเย็นครั้งใหม่ ไม่ได้ต่อต้านจีน ไม่ได้สร้างพันธมิตรที่เข้มแข็งเพื่อต่อต้านจีน หรือไม่ได้สนับสนุน “การแยกตัวของไต้หวัน” หรือยุแหย่ขัดแย้งกับจีน สีกล่าวว่าเขาให้ความสำคัญกับคำพูดนี้เป็นอย่างมาก ว่าการกระทำสวนทางกับคำพูดหรือไม่?
ในด้านความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ สีกล่าวว่าสาเหตุโดยตรงของสถานการณ์ปัจจุบันในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ คือการกระทำในฝั่งสหรัฐฯ บางส่วนไม่ได้ปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกัน และไม่ได้ดำเนินการในเชิงบวก สหรัฐฯ เข้าใจผิดและคาดเจตนาทางยุทธศาสตร์ของจีนผิด
การประชุมกินเวลาเกือบสองชั่วโมง และทั้งสีและไบเดนเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นการสร้างสรรค์ และเรียกร้องให้คณะทำงานทั้งสองฝ่ายดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำความสัมพันธ์ทวิภาคีกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง และพยายามแก้ไขวิกฤตในยูเครนตามลำดับ
ประธานาธิบดีสีได้มุ่งความสนใจไปที่ภาพรวม แทนที่จะพูดถึงวิกฤตในยูเครนเพียงอย่างเดียว เขาเน้นย้ำมุมมองโดยรวมของจีนเกี่ยวกับความมั่นคงและการทูต และย้ำหลักการของจีน
หลู่ เซียง นักวิจัยจากสถาบันสังคมศาสตร์แห่งจีน(Lü Xiang, a research fellow at the Chinese Academy of Social Sciences) กล่าวว่า คำพูดของปธน.สีเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนได้ประกาศจุดยืนของจีนอย่างครอบคลุมและหนักแน่น เขาสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย และการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ นาโต้ และรัสเซีย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯมีท่าทีก้าวร้าว การกดดันจีน
หลู่กล่าวว่า“ฉันคิดว่าการเจรจาในวันศุกร์นี้ไม่เพียงแต่มีความหมายสำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองทั่วโลกด้วย คำพูดของผู้นำจีนแสดงให้เห็นประเทศต่างๆ ที่ติดตามสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดในการปลุกระดมให้เกิดวิกฤตว่าอำนาจหลักที่รับผิดชอบควรทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับปัญหา ”
ปธน.สียังได้กล่าวถึงคำถามของไต้หวันต่อปธน.โจ ไบเดน สิ่งเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณถึงสหรัฐฯ หากยังคงเล่นกับคำถามของไต้หวันและละเมิดผลประโยชน์หลักของจีน จะไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมิตรหรือเชิงบวก ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประชุม จีนส่งสัญญาณหนักหน่วง โดยระบุว่าจะไม่ยอมรับการคุกคามและการบีบบังคับของสหรัฐฯ ในประเด็นยูเครน และให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างแข็งขันหากสหรัฐฯ ใช้มาตรการที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน
