โอกาสในวิกฤต!!เมียนมาประกาศรับเงินบาท-หยวนเมินดอลลาร์ ขณะค้าชายแดนไทยทะลัก 1.4 แสนล้าน

1417

16 มี.ค.65 เว็บไซต์ นสพ.Borneo Bulletin ของบรูไน เสนอข่าว Myanmar to accept THB for border trade, eyes using INR ระบุว่า เมียนมาซึ่งขณะนี้ปกครองด้วยรัฐบาลทหาร ตกลงรับ 2 สกุลเงิน คือบาทของไทยกับหยวนของจีน เป็นสกุลเงินสำหรับใช้จ่ายในการค้าชายแดน รวมถึงกำลังพิจารณารับสกุลเงินรูปีของอินเดียเพิ่มอีกในเร็วๆ นี้ เพื่อลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากต้องการลดความเสี่ยงที่อัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวนอย่างกะทันหันจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ภายนอก อีกทั้งยังลดอัตราเงินเฟ้อจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ด้วย

หม่องหม่องออน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ และออง เนียง อู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศแถลงว่า การแปลงสกุลเงินอื่นโดยตรงในการค้าชายแดน เป็นไปเพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯไม่น้อยกว่า 70%

ประเทศไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมารองจากจีน โดยมีการค้าชายแดนที่จุดตรวจ 5 จุด ได้แก่ ท่าขี้เหล็ก เมียวดี คอทุ่ง มะริด และตีกี ซึ่งมีมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2563-2564 เพิ่มขึ้นจาก 3.9 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า

คำแถลงระบุว่า“เพื่อนบ้านของเมียนมา ค้าขายคิดเป็น 70% ของปริมาณการค้าทั้งหมดของประเทศ การชำระบัญชีด้วยสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์โดยตรงจะช่วยขยายและอำนวยความสะดวกในการค้าทวิภาคี การไหลของสินค้า และรูปแบบการชำระเงินและการชำระดุลอื่นๆ”

ทางการเมียนมาเชื่อว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งแม้ราคาพลังงานจะสูงขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ณ เดือน ต.ค. 2565 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณเมียนมา น่าจะเติบโตเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามที่ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในระบบสถาบันการเงิน รวมถึงมองว่าที่สกุลเงินจ๊าดของมียนมาอ่อนค่าลง มาจากการก่อวินาศกรรมทางเศรษฐกิจ 

ทั้งนี้ ผู้ทำการค้าตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา สามารถทำการค้าได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินจ๊าดกับเงินบาท ที่ประกาศโดยธนาคารกลางแห่งชาติเมียนมาทุกวัน 

ด้านการค้าชายแดนประเทศไทย ได้รับอานิสงส์จากการใช้เงินบาทเป็นสกุลหลักในการค้าระหว่างไทยและเมียนมา ส่งผลดีเพิ่มเติมจากผลงานการค้าชายแดนเมียนมา เฉพาะเดือนม.ค.ปี 2565 ท่ามกลางการระบาดโควิด-19 และสงครามขัดแย้งในเมียนมา เราทำยอดเพิ่มกว่า 36% มูลค่า 18,607 ล้านบาท

สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีมูลค่ารวม 141,072 ล้านบาท เติบโต 9.49% จากเดือน ม.ค.2564 สูงกว่าเป้าหมายตลอดทั้งปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโต 5% โดยเมื่อแยกรายประเทศ พบว่า มาเลเซีย มูลค่ารวมทั้งนำเข้าและส่งออก 30,549 ล้านบาท เพิ่ม 14.26% กัมพูชา 17,765 ล้านบาท เพิ่ม 17.94% ลาว 23,456 ล้านบาท เพิ่ม 39.86% เมียนมา 18,607 ล้านบาท เพิ่ม 36.26% สิงคโปร์ 10,270 ล้านบาท เพิ่ม 15.47% เวียดนาม 8,066 ล้านบาท เพิ่ม 36.19% มีเพียงประเทศเดียวที่ลดลง 24.34% มูลค่า 16,988 ล้านบาท

ปัจจัยที่ส่งผลให้ตัวเลขค้าชายแดนและผ่านแดนเติบโต มาจากการฟื้นตัวภาคการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ค่าเงินบาทอ่อนค่า ความต้องการสินค้าจำเป็นของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีการเร่งรัดการเปิดด่าน และสะดวกรวดเร็วลดค่าใช้จ่ายในการค้าขายผ่านเงินสกุลท้องถิ่นโดยตรง