สงครามเศรษฐกิจที่สหรัฐและตะวันตกเปิดเกมอันตรายหวังทำลายรัสเซีย ได้เปิดมิติใหม่เข้าสู่ขั้นตอนการปะทะพลัง ระหว่างมหาอำนาจเก่าที่ใช้เปโตรดอลลาร์ควบคุมเศรษฐกิจโลก กับพหุอำนาจที่ท้าทายระบบเงินผูกขาด ด้วยเสรีภาพทางการเงินยุคใหม่ เมื่อเงินหยวนของจีนผงาดขึ้นจากความพร้อมใจยอมรับของประเทศผู้ผลิตน้ำมันของโลก ที่ครั้งหนึ่งต้องอยู่ภายใต้การบังคับกดข่มของสหรัฐ ล่าสุดผู้นำโลกอาหรับ ซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศใช้เงินหยวนจีนซื้อขายน้ำมัน เป็นสัญญาณรุกครั้งใหญ่ที่ทำสหรัฐและตะวันตกนั่งไม่ติด
วันที่ 16 มี.ค.2565 สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียจะขายน้ำมันให้กับจีนในสกุลเงินหยวนแทนที่จะเป็นดอลลาร์สหรัฐ โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยอ้างว่า “เป็นการเจรจาเชิงรุกระหว่างริยาดและปักกิ่ง” การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้มูลค่าของเปโตรดอลลาร์ลดลง แม้ว่าได้ควบคุมระบบการเงินทั่วโลกมาเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ สิ่งนี้ทำให้สถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แนวโน้มที่ซาอุดิอาระเบียจะปฏิเสธวอชิงตัน กำลังปรากฎชัดอย่างต่อเนื่อง การพิจารณากำหนดราคาขายน้ำมันในสกุลเงินหยวนจีนแทนที่ดอลลาร์สหรัฐ เป็นสัญญาณพร้อมเผชิญหน้ากับการตอบโต้จากสหรัฐแล้วหรือไม่?
รายงานระบุว่า การเจรจาดำเนินมาแล้วเป็นเวลา 6 ปี แต่ได้เร่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้น สำหรับกรุงริยาดกับวอชิงตัน ในมุมมองของสื่อตะวันตก กล่าวว่า ผู้นำซาอุดิอาระเบียไม่พอใจที่ฝ่ายบริหารของไบเดนเมินเฉยต่อสงครามของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมน และความตั้งใจที่จะรื้อฟื้น ข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านปี 2558
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียกล่าวกับหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลว่า
“พลวัตเปลี่ยนไปอย่างมาก ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดิอาระเบียเปลี่ยนไป จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก และพวกเขากำลังเสนอสิ่งจูงใจมากมายให้กับราชอาณาจักร จีนได้มอบทุกสิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้ให้กับอาณาจักร ใครบ้างจะปฏิเสธ”
จีนซื้อน้ำมันส่งออกจำนวนมหาศาลถึงหนึ่งในสี่ของซาอุดิอาระเบียแล้ว ซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลก การกำหนดข้อตกลงเหล่านี้เป็นเงินหยวนจะช่วยส่งเสริมสถานะระหว่างประเทศของสกุลเงินจีนอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน 80% ของการขายน้ำมันทั่วโลกทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์ โดยที่ชาวซาอุดิอาระเบียซื้อขายกันในสกุลเงินสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1974 – เมื่อวอชิงตันเสนอการรับประกันความปลอดภัยของริยาดเพื่อแลกกับความภักดีต่อระบบเปโตรดอลลาร์ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนสถานะของดอลลาร์จึงเปลี่ยนไป
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัท ซาอุดิอะรามโค(Saudi Aramco) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันของราชอาณาจักรประกาศว่าจะช่วยสร้างโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีแห่งใหม่ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
โรงงานดังกล่าวจะสามารถผลิตน้ำมันได้ 300,000 บาร์เรลต่อวัน และจะมีเอทิลีนแครกเกอร์ 1.5 ล้านเมตริกตันต่อปีและพาราไซลีน 1.3 ล้านเมตริกตันต่อปี
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้ปกครองของซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปฏิเสธที่จะรับโทรศัพท์จากทำเนียบขาว สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่ใกล้ชิดกับสองชาติอาหรับผู้ส่งออกน้ำมันมาเป็นเวลานาน และประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กำลังเข้าหาพวกเขาที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน
สัมพันธ์ร้าวลึกเปิดเผยขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศในระหว่างการหาเสียงในปี 2020 ว่า เจ้าชาย MBS ควรถูกตัดสินว่าเป็น ” คนนอกกฎหมาย ” สำหรับการที่พระองค์ถูกกล่าวหาจากสหรัฐฯว่ามีส่วนในการทำร้ายนักข่าวจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่มกุฎราชกุมารตรัสว่าไม่เพียงละเมิดสิทธิมนุษยชนของพระองค์ แต่ยังทำร้ายความรู้สึกและเสื่อมพระเกียรติของพระองค์ด้วย เพราะอ้างคำตัดสินฝ่ายเดียวโดยไม่มีการพิจารณาหลักฐานใดๆ
ความเป็นปรปักษ์ของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัฐผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำหลายแห่ง ตั้งแต่เวเนซุเอลา อิหร่าน ไปจนถึงรัสเซีย ได้ทำให้มีพื้นที่เหลือเพียงเล็กน้อยในการดำเนินการบีบบังคับให้กลุ่มประเทศผลิตน้ำมันที่เหลือต้องทำตามวาระวอชิงตัน เนื่องจากสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่สิ้นสุด มีรายงานว่าไบเดนกำลังวางแผนเดินทางไปซาอุดีอาระเบียในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลินี้ เพื่อพยายามแก้ไขความสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าคงไม่ง่าย
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐและตะวันตก ในการขับรัสเซียออกจากระบบการเงินโลกได้ส่งผลให้ ประเทศจีนซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำคว่ำบาตรหลายครั้งแล้ว ก็ต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับรัสเซีย หากซาอุดิอาระเบียเริ่มขายน้ำมันให้จีนได้สำเร็จโดยไม่ใช้สกุลเงินดอลลาร์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจถูกเลียนแบบโดยซัพพลายเออร์เชื้อเพลิงรายใหญ่อื่นๆ ของจีน เช่น แองโกลาและอิรัก รวมถึงรัสเซียด้วย
ในอดีตความพยายามที่จะขายน้ำมันในสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์เคยเป็นลางไม่ดีสำหรับประเทศตะวันออกกลาง ทั้ง อิรัก ลิเบีย ซีเรีย และอิหร่าน ซึ่งต่างก็ขยับหนีจากอิทธิพลเงินเปโตรดอลลาร์ และถูกลงโทษอย่างหนักโดยสหรัฐฯทั้งการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ การทูต การทหาร แต่ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยความล้มเหลวทางการทหารของวอชิงตันในอัฟกานิสถาน รวมทั้งปัญหาหมักหมมอื่นๆภายในประเทศ ทำให้นานาชาติได้ประจักษ์ว่า วอชิงตันถึงคราวเสื่อมถอย ไม่มีอำนาจบารมีแบบที่เคยเป็นอีกต่อไป!
