แรงมาแรงกลับ!! รัสเซียคว่ำบาตรไบเดน นายกฯแคนาดา จนท.ระดับสูงและซีไอเอ ห้ามเข้าประเทศ

1477

สถานการณ์สงครามในยูเครน ได้ขยายขอบเขตสู่การตอบโต้ระหว่างรัสเซียและมหาอำนาจสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกอย่างชัดเจนแล้ว สหรัฐและพันธมิตรถล่มนิวเคลียร์เศรษฐกิจใส้รัสเซียไม่ยั้ง หวังทำลายคู่แข่งให้ราบคาบ แต่กลับเป็นว่าคู่แข่งอย่างรัสเซียไม่ใช่จะกดข่มกันโดยง่าย มาตรการล่าสุด ปธน.ปูตินได้ลงนามคว่ำบาตรสองประเทศคู่หู สหรัฐ-แคนาดาเรียบร้อยแล้ว

ในวันอังคารที่ 15 มี.ค.2565 สำนักข่าวเอเอฟพีและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า  กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงมาตรการคว่ำบาตรประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน รวมทั้งหน่วยงานซีไอเอ ห้ามเข้าประเทศ เป็นความเคลื่อนไหวตอบโต้เอาคืนมาตรการต่างๆ ของฝ่ายตะวันตก

มอสโกระบุในถ้อยแถลงว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวซึ่งบังคับใช้กับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน คือผลสนองต่อนโยบายเกลียดชังรัสเซีย (Russophobic) แบบสุดขั้วของวอชิงตัน นอกจากนี้ได้กำหนดมาตรการลงโทษต่อชาวแคนาดา 313 คน ในนั้นรวมถึงนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด และรัฐมนตรีของเขาหลายราย

มอสโกไม่ได้เจาะจงถึงลักษณะที่แท้จริงของมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ ที่พวกเขาเรียกมันว่าเป็น “การลงโทษส่วนตัว” และ “stop list ที่หมายถึงรายชื่อบุคคลต้องห้าม” แต่เน้นย้ำว่ามันอยู่บนพื้นฐานของหลักการที่สมน้ำสมเนื้อ

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะกระทำให้สอดคล้องกับการตัดสินใจหลักของรัฐบาลรัสเซีย ทั้งในด้านการเงิน การธนาคาร และด้านอื่นๆ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและรับประกันการพัฒนาที่มีเสถียรภาพของรัสเซีย

บุคคลที่อยู่ในบัญชีดำของรัสเซีย ยังประกอบไปด้วย พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง และเจน ซากิ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาว

นอจากนี้ ในบัญชีดำดังกล่าวยังมี ดาลีป ซิงห์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซาแมนธา พาวเวอร์ ผู้อำนวยการหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ อเดเวล อาเดเยโม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเรตา โจ ลูอิส ประธานธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน รัสเซียยังได้แบน ฮันเตอร์ ลูกชายของไบเดน และฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและตัวแทนพรรคเดโมแครต ผู้เตรียมลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ด้วย

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนว่ามอสโกจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ ในผลสนองต่อนโยบายเกลียดชังรัสเซีย ต่อเจ้าหน้าที่ทหาร สมาชิกสภาคองเกรส นักธุรกิจ และบุคลากรด้านสื่อสารมวลชน อีกหลายราย

เจน ซากิ โฆษกประจำทำเนียบขาวได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อบุคคลซึ่งเป็นเป้าหมายของรัสเซีย

แอนทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัสเซีย(Anton Siluanov)กล่าวเมื่อวันอังคารที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ครึ่งหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 315,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกอายัดไว้ทันทีที่รัสเซียบุกยูเครน ตามมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของพันธมิตรชาติตะวันตก ผลก็คือรัสเซียจะต้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เป็นเงินสกุลรูเบิลจนกว่ามาตรการคว่ำบาตรจะถูกยกเลิก โดยประเทศที่เป็นเจ้าหนี้ของรัสเซียส่วนใหญ่มีชื่ออยู่ในบัญชี “ไม่เป็นมิตร” ของทางการรัสเซีย ฉะนั้นหากเจ้าหนี้เหล่านั้นไม่รับเงินรูเบิลจากรัสเซีย ก็ไม่ใช่ความผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซียแต่อย่างใด เป็นการผิดนัดชำระหนี้เทียมที่เกิดจากการ กระทำของสหรัฐอย่างชัดเจน

 

ล่าสุดค่าเงินรูเบิลเด้งขึ้นมากว่า 50% หลังมาตรการตอบโต้ของรัสเซียเริ่มเห็นผล การเปิดเสรีเงินเข้าประเทศ ให้ดอกเบี้ยสูง ใครฝากเงินเป็นรูเบิลให้ดอกเบี้ย 20% ฝากเป็นเงินหยวนให้ 8% การงดVAT ทองคำชวนประชาชนถือทองคำ เทดอลลาร์และอีกหลายมาตรการทำให้ค่าเงินรูเบิลพลิกกลับขึ้นมาเป็น 100 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

สงครามเศรษฐกิจครั้งนี้ฉายภาพชัด ถึงการต่อสู้ปลดแอกจากเปโตรดอลลาร์ที่สหรัฐใช้เป็นฐานอำนาจบีบบังคับทั่วโลกมายาวนาน กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก และการต่อสู้ทางการทหารในพื้นที่ขัดแย้งยูเครนซึ่งคือตัวแทนของสหรัฐและตะวันตกกับรัสเซีย กำลังงวดเข้ามาแล้ว เมื่อยูเครนส่งเสียงขอเจรจา และอ้างว่าตนนั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ ฝ่ายรัสเซียไม่พูดมากเดินหน้าบุกใกล้ยึดเคียฟแล้ว อาจจะได้เห็นบทสรุปในเร็ววันนี้ หากไม่มีใครแกล้งปืนลั่นใส่นาโต้เสียก่อน!?